“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”ได้เข้ามานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ในวันที่ 9 มิถุนายน 2562 จนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งรวม 160 วันหรือ 5 เดือน กับ 10 วัน ก็กำลังจะถูกพรรคฝ่ายค้านเสนอประธานสภาผู้แทนราษฎรขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งๆ ที่รัฐบาลเพิ่งตั้งหลักทำงานจริงๆ แค่ 3 เดือนหลังที่ผ่านมานี้เท่านั้นเอง
ทางด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตามข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎรนั้น การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นฝ่ายค้านสามารถจะทำได้ปีละ 1 ครั้ง ตามปีปฏิทิน ซึ่งหมายความว่า เมื่อสภาเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 1 พ.ย. ฝ่ายค้านจะมีเวลาตัดสินใจอีก 2 เดือน ว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในปี 2562 หรือไม่
ซึ่งการจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ฝ่ายค้านต้องมีความมั่นใจว่ามีข้อมูลเพียงพอ มีน้ำหนัก และเป็นข้อเท็จจริงที่ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม บริหารราชการแผ่นดินบกพร่อง ผิดพลาด ขาดประสิทธิภาพ หรืออาจมีการบริหารราชการแผ่นดินที่เข้าข่ายทุจริตประพฤติผิดมิชอบ เราจึงจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนสิ้นปี 2562
ในทางตรงข้าม หากการตรวจสอบของเรามีข้อมูลยังไม่ครบถ้วนขาดน้ำหนัก 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้หารือกันแล้วว่า ต้องยึดที่ข้อเท็จจริงและข้อมูล ดังนั้นขณะนี้ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้ง 2 ทาง เพราะเรายังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลอยู่ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อมูลสมบูรณ์เพียงพอ เราก็จะไม่รีรอ จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทันทีก่อนสิ้นปี 2562 แน่นอน
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เผยถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการหารือกันอย่างเป็นทางการ เราต้องดูว่ามีเรื่องที่เหมาะสมควรจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ เพียงแต่วางแนวทางไว้กว้างๆว่า หากจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในปี 2562 ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2562 น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสม ตรงนี้เมื่อเปิดสมัยประชุมสามัญ
ทางวิปฝ่ายค้านจะหยิบยกมาหารือกัน แต่เรื่องนี้ไม่ใช้ประเด็นแรกที่จะหารือเพราะยังมีเรื่องการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องหลักที่ต้องหารือกันก่อนเนื่องจากเรื่องดังกล่าวได้มีการเลื่อนญัตติมาเป็นประเด็นแรกๆ ที่สภาจะพิจารณาหลังการเปิดสมัยประชุมสามัญ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีที่ฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “รายบุคคล”ในเดือนธันวาคม 2562 นั้นผลสำรวจของนิด้าโพลระบุว่าร้อยละ 49.41 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะ รัฐมนตรีบางท่านเข้ามาทำงานไม่เหมาะสมกับตำแหน่งไม่โปร่งใส สมควรที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากให้ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีชุดใหม่ ร้อยละ 25.26 ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย เพราะรัฐมนตรีบางท่านยังไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง การบริหารงานยังไม่มีผลงาน สมควรที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ร้อยละ 8.81 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะรัฐมนตรีแต่ละท่านเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งควรเปิดโอกาสให้ทำงานสร้างผลงานก่อนขณะที่บางส่วนระบุว่า ฝ่ายค้านคอยจะโจมตีคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว ร้อยละ 14.32 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะระยะเวลาการทำงานยังน้อยไป อยากให้ทำงานเต็มที่ไปก่อน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ฝ่ายค้านพยายามจะล้มรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา และร้อยละ 2.20 ระบุว่า ไม่ตอบและไม่สนใจ
ส่วนผลลัพธ์ของกรณีหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ทั้งคณะ” ในเดือนธันวาคม 2562 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 36.59 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถอยู่บริหารประเทศต่อไปได้ รองลงมา ร้อยละ23.45 ระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลจะชนะโหวต ร้อยละ 20.69 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกหรือยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 10.07 ระบุว่า หลังการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็น ต้องปรับคณะรัฐมนตรี
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีที่ฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รายบุคคล ในเดือนธันวาคม 2562 พบว่า ร้อยละ 49.41 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะรัฐมนตรีบางท่านเข้ามาทำงานไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่โปร่งใส สมควรที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากให้ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีชุดใหม่ ร้อยละ 25.26 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะรัฐมนตรีบางท่านยังไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง การบริหารงานยังไม่มีผลงาน สมควรที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนรายชื่อรัฐมนตรีที่จะโดนฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายนั้นมีกระแสข่าวว่าจะมีอย่างน้อย 4 คนขึ้นไป คือ คนแรก ตัวนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ที่เป็นเป้าใหญ่ที่สุดในฐานะผู้นำรัฐบาลกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รายที่ 2 คือ พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, รายที่ 3พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย สำหรับข้อมูลต่างๆ นั้นพรรคฝ่ายค้าน 7 พรรค ไม่ได้แจ้งรายละเอียดช่วงนี้แต่เป้าหมายหลักก็อยู่ที่หัวหน้ารัฐบาลคือพลเอกประยุทธ์เท่านั้นคงต้องดูกันต่อไปว่าฝ่ายค้านจะมีทีเด็ดมากล่าวหารัฐบาลได้แค่ไหนกัน
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี