คนที่ประกาศว่ากล้าติดคุกติดตะราง โดยไม่คิดหนีคดีอาญาอาจจะดูแล้วคล้ายเสมือนคนกล้าหาญ กล้าเผชิญกับสิ่งไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม และยินดีต่อสู้กับความอยุติธรรมทั้งปวง แต่ทว่า คนใดก็ตามใช้กลอุบายเล่นลิ้นประกาศภายหลังจากถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าจงใจกระทำความผิดฐานซุกหุ้นสื่อสารมวลชน แต่กลับอ้างว่ายอมติดคุกคนจำพวกนี้ไม่ใช่คนกล้าหาญอย่างแน่นอน แต่จริงๆ แล้วเป็นคนสร้างภาพตบตาคนที่รู้ไม่เท่าทัน
อย่าลืมว่า ใครก็ตามที่จงใจกระทำความผิด และกระทำในสิ่งผิดกฎหมาย ครั้นเมื่อถูกจับได้ แล้วถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จนสุดท้ายถูกตัดสินพิพากษาว่ากระทำความผิดจริง คนที่ว่านั้นก็คือผู้กระทำผิดกฎหมาย แต่หากผู้ที่ถูกพิพากษาตัดสินโดยกระบวนการยุติธรรมไปเรียบร้อยแล้ว จะยังดันทุรังกล่าวอ้างว่าตนเองคือผู้สุจริต และยังเป็นผู้บริสุทธิ์ การกล่าวอ้างเช่นนี้ก็เท่ากับไม่เคารพเชื่อฟังคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรม ส่วนคนผู้นั้นจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทศาลหรือไม่ ต้องกลับไปพิจารณาคำพูดและพฤติกรรมทั้งหมดของผู้ที่กล่าวอ้างว่าตนเองไม่ผิดว่าแสดงออกอย่างไร
กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 เนื่องจากมีลักษณะของผู้ที่ถูกต้องห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะถือครองหุ้นของบริษัทวี-ลัค มีเดีย เมื่ออ้างตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2560 มาตรา 82 วรรคสี่ พบว่านายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใด อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นเหตุให้นายธนาธรต้องจากสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยสมาชิกภาพได้สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)
แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาคดีนี้จบสิ้นแล้วนายธนาธรได้ไปพูดที่เวทีของหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 10 (พตส. 10) เมื่อช่วงสายวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 (บนเวทีมีนักการเมืองจากพรรคการเมืองอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายวีระกร คำประกอบ นายปริญ พานิชภักดิ์ เป็นต้น) ทั้งนี้ นายธนาธรกล่าวตอนหนึ่งว่า โดยมีใจความทำนองว่า ตนเองไม่เสียใจที่ต้องติดคุก แต่จะไม่มีวันเลียรองเท้าบู๊ตทหารเป็นอันขาด
คำพูดที่สวยหรูเกินจริงย่อมทำให้คนที่รู้ไม่เท่าทันหลงคารมได้โดยง่าย และอาจจะได้รับเสียงสรรเสริญเยินยอมากมาย แต่สำหรับคนที่รู้เท่าทัน รู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง และรู้เช่นเห็นชาติผู้พูดเป็นอย่างดี ย่อมเกิดอาการสมเพชเวทนา แล้วบอกว่าการพูดยกตนข่มท่านเป็นวิสัยของคนที่ดีแต่พูด เป็นพวกพูดอย่างทำอย่าง และเป็นพวกปากอย่างใจอย่าง
วิญญูชนในสังคมไทยบอกตรงกันว่า พวกเขาไม่เคยเลียบู๊ตทหาร และไม่เคยก้มหัวให้กับทหารที่มีพฤติกรรมฉ้อฉล โกงบ้านกินเมือง พร้อมกับยืนยันว่าได้เคยออกไปร่วมกันต่อสู้เพื่อล้มล้างระบบคณาธิปไตย และทหารทรราชมาแล้วหลายครั้ง แต่ขณะเดียวกันวิญญูชนก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่เคยปล่อยให้นักการเมืองหน้าไหน ไม่ว่าจะหน้าใหม่หรือหน้าเก่าเข้ามาเพื่อฉ้อฉลปล้นแผ่นดินเช่นกัน แล้วฝากบอกด้วยว่า คนไทยที่มีสติ มีปัญญา และมีความกล้าหาญไม่เคยเลียบู๊ตทหาร แล้วก็ไม่เคยไว้หน้านักการเมืองฉ้อฉลที่ดีแต่ตีฝีปากไปวันๆ โดยไม่เคยทำคุณประโยชน์ที่แท้จริงต่อแผ่นดินผืนนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี