เมื่อวันที่ธันวาคม 2562 รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุรจิต ชิรเวทย์ อดีต สว.สมุทรสงคราม และแกนนำเครือข่ายประชาชนคนรักแม่กลอง ในวัย 68 ปี เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็งปอด
น.ส.เทียนวรรณ ชิรเวทย์ ลูกสาว ได้โพสต้ขอความผ่านเฟซบุ๊ค Tianwan Chirawate ระบุว่า “คุณพ่อจากไปอย่างสงบเช้านี้ ลากันเพียงกายนะคะพ่อ รักที่สุด พลอย”
1. ขอแสดงความเสียใจด้วยความอาลัย และขอคารวะในชีวิตและผลงานของคุณสุรจิต
คนทำงานในภาคประชาสังคม ที่เคยก้าวเข้ามาทำงานบนเวทีการเมืองไทย
มุ่งที่ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน มิใช่การเมืองแบบวาทกรรม-เผด็จการ-สีเสื้อ
ไม่ใช่ทำงานด้วยการสร้างวาทกรรม ปั่นกระแสผ่านสื่อโซเชียลแต่สั่งสมผลงานและองค์ความรู้ผ่านการปฏิบัติจริง หล่อหลอมผ่านเวทีชีวิตจริงๆ
ถือเป็นแนวทางและวิถีคนทำงานที่น่ายกย่อง คนรุ่นใหม่ควรเรียนรู้จากชีวิตคนแบบนี้
2. สว.คำนูณ สิทธิสมาน ได้โพสต์ข้อความอาลัย ระบุว่า
“แม้จะเสียใจและอาลัย แต่ในเมื่อถึงอย่างไรมนุษย์ทุกคนก็ต้องจากไป ไม่วันใดก็วันหนึ่ง จึงอดยินดีกับพี่เจี๊ยวและครอบครัวไม่ได้ ที่ทราบจากลูกสาวพี่ว่าพี่จากไปอย่างสงบ งดงาม ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าพี่ไปสู่สุคติภพแน่นอน
ความไม่ธรรมดาของคนธรรมดาๆ อย่างพี่ตลอดระยะเวลา 6 ปี ระหว่างปี 2551 - 2557 ที่ได้ทำงานร่วมกันจะประทับอยู่ในหัวใจของผมและเพื่อนสว.รุ่นเดียวกันไม่ลืมเลือน
ป่านนี้บรรดาสมาชิกชุมชนสุคติภพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนรูปใดคงอมยิ้มไปกับการบรรยายเรื่อง “น้ำ” และเรื่อง “ปลาทู” ของพี่เจี๊ยวแล้วละ”
3. “สุรจิต ชิรเวทย์” ได้รับผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 8ประจำปี 2549 ประเภทบุคคล เป็นผู้สร้างประชาสังคมแห่งเมืองแม่กลองจังหวัดสมุทรสงคราม
ในเว็บไซต์สถาบันลูกโลกสีเขียว ได้เผยแพร่ข้อเขียน“ปลาทู โดย สุรจิต ชิรเวทย์” ที่น่าจะทำให้ผู้อ่านได้รู้จักคุณสุรจิตในแง่มุมการทำงานเพื่อสังคมและทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างน่าสนใจ ระบุว่า
“..หลายคนชื่นชอบความอร่อยของปลาทู แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า กว่าจะมาเป็นปลาทูบนโต๊ะอาหารนั้น ยากลำบากกว่าสมัยก่อนเป็นไหนๆ ปัญหามลภาวะ ขยะ น้ำเสีย ล้วนทำให้เกิดปัญหากับระบบนิเวศทางน้ำ จำนวนปลาลดลง จำนวนการทำประมงมากขึ้นตัวเลขที่สวนทางกันมาตลอดตั้งแต่ความเจริญบุกเข้ามา สุรจิตชิรเวทย์ คนธรรมดาที่มีใจอนุรักษ์ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ความรู้จากผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ และค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมจนสามารถผลักดันแนวคิด ในการรักษาสภาพแวดล้อมด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น
หนังสือ “ฅนแม่กลอง” ได้รวบรวมองค์ความรู้ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีอยู่เป็นทุนเดิม อาทิ บทความขนาดยาว เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งน้ำเค็ม โดยวิธีธรรมชาติ ที่รวบรวมความรอบรู้ ความชาญฉลาด ความชำนาญ และประสบการณ์อันช่ำชองของเหล่าสามัญชนคนเลี้ยงกุ้งผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่สร้างสมสืบทอดกันมาด้วยความยากลำบาก ด้วยความมีน้ำอดน้ำทน ด้วยความผูกพันอันหนักแน่นมั่นคงของคนเลี้ยงกุ้ง กับผืนแผ่นดินของเขา
นอกจากนี้ สุรจิต ชิรเวทย์ยังได้ใช้กุศโลบายจัดงานเทศกาลกินปลาทู และของดีเมืองแม่กลอง ครั้งที่ 6 “กินปลาทูให้แมวอาย”และครั้งที่ 7 “ปลาทูหน้างอ” เพื่อนำไปสู่ประเด็น “มาตรการอนุรักษ์ปลาทูในฤดูปลาทูวางไข่” ทั้งนี้เพื่อเติมข้อมูลและจุดประกายความคิดในเรื่องการรักษาฐานทรัพยากร และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงแก่อาชีพประมงและธุรกิจที่ต่อเนื่อง ตลอดจนเผยแพร่ของดีเมืองแม่กลอง ให้ความรู้ความเข้าใจในวิถีชีวิตวัฒนธรรมของเมืองแม่กลอง ซึ่งเป็นบ้านสวนกึ่งทะเล และอาจถือได้ว่าเป็นเวนิสตะวันออกแห่งสุดท้ายของประเทศไทย และเสนอแนวทางการพัฒนาเมืองแม่กลอง เป็นเมืองท่องเที่ยวแบบพอเพียง ท่ามกลางความเชี่ยวกรากของกระแสเงินตราไว้อย่างน่าคิดอย่างยิ่ง “หลักคิดของเมืองแม่กลองเราก็คือ การจัดการท่องเที่ยวโดยท้องถิ่นชุมชนมีส่วนร่วม
อย่างไรก็ตาม หากคนแม่กลองคิดจะรักษาบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยคูคลองลำน้ำไว้ให้ได้ คนแม่กลองก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจในวิธีคิด แบบแผน ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ และต้องตระหนักในคุณค่า ความฉลาดอย่างลึกซึ้งของบรรพบุรุษ ดังเช่นสุรจิต ชิรเวทย์ได้เพียรพยายามรวบรวมองค์ความรู้ ภูมิปัญญาต่างๆ ของบรรพบุรุษ และจัดการให้ความรู้นั้นประสานเชื่อมโยงกับวิทยาการสมัยใหม่อย่างเป็นกระบวนการ เพียงเพื่อให้สาธารณชนได้เรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง และรู้จักโลกภายนอกอย่างมีวิจารณญาณในการกำหนดทางเลือก และโชคชะตาของคนแม่กลองและเมืองแม่กลอง ตลอดจนลูกหลานของคนแม่กลองนั่นเอง”
4. นี่คือคนธรรมดา ที่ทำงานธรรมดา อย่างน่าอัศจรรย์
ไม่ต้องมีวาทะประดิษฐ์ให้ร้ายใคร
ไม่ต้องวาดภาพปีศาจร้ายที่ไหน
ไม่ต้องกล่าวโทษคนรุ่นก่อน หรือชนชั้นไหนๆ
ไม่ต้องชังชาติ ชังประวัติศาสตร์ รากเหง้าสถาบันวัฒนธรรมใดๆ
แต่ได้ใช้ชีวิตอย่างเท่ สง่าผ่าเผย มีคุณค่า ก่อนจากไปอย่างเป็นที่น่าจดจำ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี