เรื่องเขย่าขวัญการเมืองไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นจะเป็นเรื่องการยุบสภา ถ้าหากว่าสภาล่ม หรือรัฐบาลแพ้มติที่พรรคฝ่ายค้านและพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบประกาศคำสั่งของ คสช. รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้น
ญัตตินี้เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ปรากฏว่า ฝ่ายรัฐบาลแพ้คะแนนเสียงให้แก่ฝ่ายค้าน แต่ฝ่ายรัฐบาลขอให้นับคะแนนใหม่ ซึ่งฝ่ายค้านไม่ยินยอม เป็นเหตุให้สภาล่มเป็นครั้งแรก และต้องเลื่อนการประชุมออกไป
ครั้นเลื่อนการประชุมออกไปแล้วก็มีการเสนอเรื่องนี้เพื่อให้ลงคะแนนใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าสภาก็ล่มเป็นครั้งที่สอง จึงเป็นเหตุให้มีการคาดคั้นว่าเรื่องนี้รัฐบาลจะแพ้ไม่ได้ ทุกพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องกำชับสมาชิกของพรรคให้ไปประชุมและลงคะแนนเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน
ถ้าหากสภาล่มอีกก็ต้องยุบสภา หรือปรับคณะรัฐมนตรี หรือยึดเก้าอี้รัฐมนตรีของบางพรรคบางกระทรวงที่เกิดปัญหานั้น แล้วนำไปสู่การจัดเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลแล้วเกิดข่าวฮือฮาขึ้นว่ามีการแจกกล้วยบ้าง ซื้องูเห่าบ้าง
ครั้นถึงก่อนวันที่จะมีการประชุมเรื่องนี้รองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ก็ให้สัมภาษณ์ว่า สส.ฝ่ายรัฐบาลท่านหนึ่งที่ถูกศาลฎีกาออกหมายจับสามารถมาลงคะแนนเสียงได้ จึงถูกทักท้วงกันอย่างกว้างขวาง แต่ผู้คนทั้งหลายก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้เพราะถ้าหากผู้ถูกออกหมายจับมาที่สภาก็คงต้องถูกจับกุมก่อนที่จะได้เข้าประชุม
แต่แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริงๆ ประหนึ่งว่าคนระดับรองนายกรัฐมนตรีได้รู้ล่วงหน้าว่าผู้ที่ถูกศาลออกหมายจับจะมาประชุมและจะมาลงคะแนนเสียงด้วย
และเมื่อถึงวันเวลาประชุมเรื่องนี้ฝ่ายค้านส่วนใหญ่ก็วอล์กเอาท์ คงเหลือจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อยไม่ยอมวอล์กเอาท์ตามพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด จึงถูกขึ้นชื่อเผยแพร่ตามสื่อมวลชนว่านี่คือโฉมหน้าของงูเห่า เป็นผลให้สังคมรุมกันประณามอย่างสาดเสียเทเสีย
การติเตียนว่ามีการขายตัว ทรยศพรรค ทรยศต่อประชาชนจึงกึกก้องกระหึ่ม เพราะการขายตัวและการทรยศพรรคที่สังกัดก็ดี ทรยศต่อประชาชนที่เลือกตัวเองมาก็ดี ต้องถือว่าเป็นความผิดทางการเมืองอย่างร้ายแรงที่ให้อภัยไม่ได้ ดังนั้น ผลกระทบในเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ที่สำคัญก็คือผู้ที่ถูกออกหมายจับได้มาประชุมจริงๆ และมาลงคะแนนเสียงจริงๆ ด้วย จึงกลายเป็นว่าคะแนนเสียงในเรื่องนี้มีเสียงของผู้ถูกศาลออกหมายจับและมาเข้าประชุมโดยไม่มีการจับกุมใดๆ และก็ลอยชายออกไปเหมือนหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เป็นอันว่าฝ่ายรัฐบาลชนะในญัตตินี้ท่ามกลางเสียงตำหนิติเตียนกึกก้อง รวมทั้งคำติเตียนว่าการดำเนินการประชุมไม่เป็นธรรม จึงเป็นเหตุให้เกิดแนวปฏิบัติขึ้นว่าฝ่ายค้านก็สามารถแก้เกมเรื่องนี้ได้ โดยยื่นญัตติขอให้นับคะแนนใหม่อีก ซึ่งไม่แน่ใจว่าฝ่ายค้านจะว่าอย่างไร
และถ้าหากมีการยื่นญัตติโดยฝ่ายค้านให้นับคะแนนกันใหม่ ก็เป็นอันว่าสภานี้คงไม่มีอันต้องทำหน้าที่ใดๆ กันอีกแล้ว เพราะแค่ลงคะแนนใหม่กันแต่ละเรื่องก็คงไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าฐานะและบทบาทการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติในเรื่องนี้กำลังจมดิ่งลงไปในหุบเหวแห่งศรัทธาของมหาชน
ซึ่งถึงวันนี้ก็คงไม่มีใครยอมใครและคงไม่ยุติลงง่ายๆ
แต่เรื่องใหญ่ใจความก็คือ แม้ว่ารัฐบาลจะชนะในการลงมติเรื่องนี้ แต่ต้องถือว่าเป็นการลงทุนลงแรงที่เกินพอไปมาก
สถานหนึ่ง การเกิดขึ้นของงูเห่าที่ทำให้สังคมเชื่อว่ามีการขายตัวเกิดขึ้น มีการทรยศพรรคเกิดขึ้น และเมื่อมีการทรยศกันเช่นนี้แล้ว ประเทศชาติและประชาชนจะหวังอะไรได้จากคนทรยศ ซึ่งทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาอย่างร้ายแรง
อีกสถานหนึ่ง การที่ผู้ถูกศาลออกหมายจับมาเข้าร่วมประชุมสภาและลงคะแนนเสียงก็สะท้อนให้เห็นว่ามีความไม่มั่นใจในคะแนนเสียงอย่างรุนแรงถึงขั้นที่ผู้ถูกศาลออกหมายจับต้องมาประชุมและมาลงคะแนนเสียงด้วย
และที่หนักหนาสาหัสก็คือไม่มีการจับกุมใดๆ ซึ่งไม่แน่ว่ายังไม่มีใครได้รับหมายจับก็เป็นได้ ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องน่าสังเกตอีกเรื่องหนึ่งเพราะโดยปกติแล้วหมายจับนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อศาลมีคำสั่งออกหมายจับก็จะมีการแจ้งหมายศาลไปยังผู้มีหน้าที่รับผิดชอบให้ปฏิบัติตามหมายโดยพลันเพื่อให้มีการเร่งรัดจับกุมมาดำเนินการตามหมายศาล
จะไม่มีการปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป เพราะเท่ากับเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ถูกออกหมายจับหลบหนีอย่างสบายใจนั่นเอง
การที่ผู้ถูกศาลออกหมายจับมาเข้าร่วมประชุมโดยเสมือนหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใครๆ ก็ย่อมรู้ย่อมเห็นว่านี่เป็นความสิริมงคลหรือเป็นความเสื่อมของสภาผู้แทนราษฎร และต้องถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศประชาธิปไตยใดๆในโลก
มิหนำซ้ำ คะแนนเสียงที่ได้ชัยชนะมานั้น คะแนนหนึ่งก็มาจากผู้ที่ถูกศาลออกหมายจับนี่เอง คนทั้งหลายจึงย่อมเข้าใจว่าการบังคับใช้กฎหมายก็ดีคุณธรรมและจริยธรรมใดๆ ในบ้านเมืองนี้ก็ดี ได้สูญสิ้นไปหมดแล้ว และนั่นก็หมายถึงความปราชัยที่แจ่มชัดที่สุดในท่ามกลางชัยชนะที่ได้มา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี