ปี 2562 ที่กำลังจะผ่านไป Disruption ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี 4.0 หรือ 5.0 หรือ AI สงครามการค้า แต่ปัญหาใหญ่อีกเรื่องคือ ภาวะโลกร้อน
อาจพูดได้ว่า โลกเราจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาโลกร้อนอย่างรวดเร็วทันที ไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว ไฟป่าเกิดขึ้นทุกแห่งในโลก พายุรุนแรง น้ำท่วมฉับพลันเพราะปัญหาโลกร้อนมาถึงเราแล้ว
แต่ปัญหาโลกร้อนกลับไม่เป็นที่สนใจของผู้นำอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถอนตัวจากข้อตกลงเรื่องโลกร้อนที่โตเกียว กลับเห็นว่า เศรษฐกิจต้องมาก่อน เปิดให้สหรัฐทำเหมืองถ่านหินได้ไม่คิดจะลดคาร์บอนที่จะระเหยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ และยังมีผู้นำหลายคน เช่น ประธานาธิบดีบราซิลฌาอีร์ โบลโซนารู ก็มีแนวคิดทางด้านสิ่งแวดล้อมทำนองเดียวกัน ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าว น่าสนใจอย่างยิ่งเพราะปัจจุบันประเทศบราซิลมีการเผาป่าแอมะซอนอย่างน่าวิตก
ปัญหาคือ ผู้นำมองเรื่องโลกร้อนเป็นปัจจัยที่ทำให้การจ้างงานหรือการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือคะแนนเสียง ซึ่งความเป็นจริง ไม่ได้ขัดแย้งกับเศรษฐกิจแต่อาจจะไปด้วยกันได้ เพียงแต่ผู้นำและประชาชนต้องมีความเข้าใจ เช่น สี จิ้น ผิง ได้เขียนไว้ในหนังสือของเขาว่า เขาจะทำการพัฒนาประเทศของเขาเน้น 5 เรื่องคือ
-Innovative การมีนวัตกรรม
-Coordinated ความร่วมมือ
-Green สิ่งแวดล้อม
-Open ร่วมมือกับทุกชาติ
-Inclusive การลดความเหลื่อมล้ำ
เขาจะเน้นเรื่อง Green ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต่อการพัฒนาทั้งระบบไม่ใช่แค่เจริญทางวัตถุ แปลว่า การพัฒนาประเทศของจีนไม่ขัดแย้งกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจีน เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก
ในช่วงแรกของการพัฒนาประเทศจีน ปัญหาสิ่งแวดล้อมมีมาก แต่ปัจจุบัน
สี จิ้น ผิง ได้แก้ปัญหามาก และข้อตกลงที่จีนได้เซ็นไว้ที่โตเกียว จีนทำได้สำเร็จ คาร์บอนที่ขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศลดลง
ปรากฏการณ์อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจทำให้คนในโลกประทับใจมากคือ เด็กผู้หญิงอายุแค่ 16 ปีชื่อ Greta Thunberg เกรตา ธันเบิร์ก ชาวสวีเดน ไม่ค่อยมีใครสนใจบทบาทของเธอ แต่เธอทำการประท้วงเรื่องโลกร้อนทุกวันศุกร์โดยการหยุดเรียนเป็นประจำจนโลกต้องจดจำความมุ่งมั่นของเธอต่อเรื่องโลกร้อนมีคนติดตามเป็นจำนวนล้านๆ คน
อายุแค่ 16 แต่สามารถสอนคนอายุ 73 อย่าง โดนัลด์ทรัมป์ ได้ ได้กลายเป็นเสาหลักในการรณรงค์เรื่องโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง น่าสนใจมาก
ในการคัดเลือกผู้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี 2562เกรตา ธันเบิร์ก ก็ติดอยู่ในรายชื่อด้วย
การประชุมขององค์การสหประชาชาติ (UN) เรื่องโลกร้อนที่มาดริด นอกจากทรัมป์ไม่สนใจส่งตัวแทนไปแล้ว เกรตาธันเบิร์ก ยังได้นั่งเรือไปประชุมที่มาดริดด้วยเพื่อประท้วงเรื่องการใช้เรือบินที่ส่วนมากยังใช้น้ำมันฟอสซิลอยู่ ซึ่งสร้างปัญหาส่งคาร์บอนในบรรยากาศอย่างมาก
เท่าที่ทราบ เรือบินก็มีความพยายามจะหาพลังงานทดแทนฟอสซิลเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่การเดินทางใกล้ๆ ข้ามทวีป8-12 ชั่วโมง ยังคงต้องใช้ฟอสซิลอยู่ คือ น้ำมันที่มาจากพืชและสัตว์ คงต้องรอถึงปี 2030 จึงจะมีเทคโนโลยีใช้เครื่องยนต์เรือบินแบบไฟฟ้า คงอีกไม่นาน อาจจะมีเรือบินที่ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าได้
ในเมืองไทย ภายใต้รัฐบาลบิ๊กตู่คงจะเน้นเรื่อง Green มากขึ้นโดยเฉพาะที่ EEC ช่วงนี้ คนไทยควรจะมีจิตสำนึกเรื่อง Green ให้มากๆ และรัฐบาลก็ต้องมีนโยบายที่ให้เศรษฐกิจ การจ้างงานและภาวะโลกร้อนไปด้วยกันเพื่อเกิดความยั่งยืนดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ทรงเน้นความยั่งยืน Sustainability ซึ่งเป็นทั้งเป้าหมายและพฤติกรรมของมนุษย์ในประเทศไทย
ผมจะจบด้วยการเล่าถึงงานวิจัยที่ผมทำที่ธรรมศาสตร์เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว สนับสนุนโดย USAID
โจทย์ถามว่า ต้องเตรียม Manpower กำลังคนในด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไร จึงจะลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้
วิธีทั่วๆ ไป เราจะรู้ว่า Output 1 หน่วยต้องใช้แรงงานกี่หน่วยหรือเรียกว่า Labor Input แต่ในด้านสิ่งแวดล้อมเราไม่มีเพราะสิ่งแวดล้อมไม่เกิดมาจาก Labor Input จึงวิเคราะห์ว่า ถ้ามีโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น จะสร้างมลภาวะได้มากขึ้น ดังนั้น สิ่งแวดล้อมทางลบจะมากขึ้น จึงใช้วิธีแทนค่าว่า ต้องมีนักสิ่งแวดล้อมเข้ามาดูแลมากขึ้น ในช่วงหนึ่งประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะที่มาบตาพุด ทำให้ต้องเตรียมสร้างคนที่มาดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี เพราโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเร็ว ปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยองจึงมีมาก ถ้าจะทำ EEC ซึ่งงานวิจัยนี้ก็ได้ทำให้มีการเตรียมบุคลากรทางสิ่งแวดล้อมทำงานได้และทันกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมภาครัฐและภาคประชาชน ต้องมีจิตสำนึกและมีวินัยเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เราก็มีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น
1.Atmospheric Scientists/Meteorologists นักวิทยาศาสตร์ศึกษาสภาวะชั้นบรรยากาศ/นักอุตุนิยมวิทยา
2.Environmental Engineers วิศวกรสิ่งแวดล้อม
3.Solar Photovoltaic Installers ผู้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
4.Wind Turbine Technicians ช่างเทคนิคกังหันลม
5.Environmental Scientists and Specialistsนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านสิ่งแวดล้อม
6.Legislators นักกฎหมายสิ่งแวดล้อม
7.Public Relations Specialists ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านประชาสัมพันธ์ด้านสิ่งแวดล้อม
8.Environmental Economists นักเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม
อาชีพเหล่านี้ก็ยังจำเป็นในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ต้องทำต่อไปให้มีนักสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพทำให้เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันเพื่อให้โลกน่าอยู่ ซึ่งมีตลาดรองรับแน่นอน
สรุปว่า เรื่องโลกร้อนมาถึงแล้ว คนจนถูกกระทบมากที่สุดปัจจุบันต้องย้ายถิ่นฐานเพราะน้ำท่วม หรือไฟป่าทุกวัน รุนแรงมากขึ้นโลกต้องผนึกกำลังกันช่วยกัน มิฉะนั้น จะเกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น
วันนี้ผมมีมุมมองเรื่องคนและอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้น เรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ถ้าสนใจเฉพาะเรื่อง 4.0 หรือ 5.0 โดยไม่คำนึงเรื่องความยั่งยืน เราอาจจะไม่มีอะไรเหลือ มีเงินไป ก็ไม่มีประโยชน์ มีผู้นำทั้งที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ที่ผมชอบมากๆก็คือ Ted Turner เท็ด เทอร์เนอร์ อดีตเจ้าของซีเอ็นเอ็นเน้นข่าวเรื่องนี้ นักข่าวถามว่าทำไมเขาสนใจเรื่องโลกร้อน เขาบอกว่า เราจะมี Climate อันเดียว (One Climate) เสียไปก็ไม่เหลือ
“มนุษย์ก็ไม่เหลือ”
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เกรตา ธันเบิร์ก นั่งเรือไปร่วมการประชุม The 2019 Climate Change Conference (COP25) ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน
การประชุม The 2019 Climate Change Conference (COP25) ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2562 ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี