l แล้ว “ลุงชนะ รุ่งแสง” วกกลับมาตั้งคำถามกับ “หลานโจ๊กแล้วอะไร Brought UP หลานขึ้นมา” หลานโจ๊ก กัลยาณมิตรใหม่ ของ “ลุงชนะ” ซึ่งนั่งฟังอย่างเอาใจจดจ่อ แต่ก็ “กินอาหารที่เอร็ดอร่อยไปด้วย”
๑. “ผมมีวันนี้ เพราะ แม่และพ่อ” หลานโจ๊ก พูดอย่างมั่นใจ และภูมิใจพ่อกับแม่” สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยสองมือเปล่ากับความคิดพึ่งตนเอง
๒. แม่หิ้วกระเป๋าใหญ่ “Super ware”ที่ภายใต้มีของหลากหลายโดดเด่นตามยุคสมัยขึ้นรถเมล์ และเดินไปตามบ้านลูกค้า คนรู้จัก เพื่อไปสาธิต ถึง “สิ่งดี และทำไมต้องซื้อ”
ต่อมา ได้มาเจออาชีพหลัก ที่ถูกใจ สอดคล้องกับความคิดอุดมคติ “ช่วยเหลือคน” คือ “เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต ของ บริษัท เอไอเอ จำกัด” อาชีพที่ผู้คนในยุคนั้น ปฏิเสธ โทร.ไปหาคำตอบ “ไม่อยู่ไม่ว่าง” แต่การได้อยู่กับ บริษัทที่มีหลักการ มีมาตรฐาน ความมั่นคง และเป็นมืออาชีพ ประกอบกับปัจจัยหลัก อยู่ที่ตัวแม่“มีความเพียร มุ่งมั่นเอาจริง และเชื่อมั่นฯ”
จากปี ๒๕๒๗ : ตัวแทนขายประกัน มาเป็นผู้จัดกการภาคเจ้าพระยา ๖ ในปัจจุบัน และมีอาชีพใหม่ที่สอดคล้องกับยุคสมัย คือ “ที่ปรึกษาด้านการเงิน การลงทุน ฯลฯ “ที่เน้นผลประโยชน์ของ” ลูกค้ามาก่อน
๓. พ่อ “คนเดือนตุลาที่มุ่งมั่นเอาจริง ไม่ย่อท้อไม่ยอมแพ้” ออกจากป่า ในปี ๒๕๒๔ หลังจาก ร่วมสร้างสรรค์ประชาธิปไตยไทย โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ต่อเนื่อง ด้วยการเป็นกรรมการและรองเลขาธิการพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย(พสท.) และเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้ใหม่“เดินทางเข้าป่าฯ กับคณะธีรยุทธ บุญมี” ๗ สิงหา ๒๕๑๙ ไปร่วมสร้าง พสท.ในสถานการณ์สู้รบกับ พคท. แนวร่วม และผู้รักชาติประชาธิปไตยแล้วกลับออกมาสู่ นาคร สู้ใหม่ ตามแนวทางประชาธิปไตยไทยที่เปิดโอกาสฯ
โดยเริ่มต้น การทำอาชีพวิศวกรฯ สร้างฐานะสร้างครอบครัว แล้วแต่งงานแบบประหยัดเรียบง่ากับแม่ และอยู่คอนโด (แฟลต ๘ ชั้น ดินแดง)
เข้าร่วมในเหตุการณ์ “๑๗ พฤษภาคม ๒๕๓๕” และอื่นๆ จนมาถึงปัจจุบัน
เป็นพ่อที่เป็นแบบอย่าง “เริ่มตั้งแต่ต้นร่วมต่อสู้ในเหตุการณ์ จนจบ” จึงจะหยุดประกอบกับพ่อ เป็นคนที่รักในความรู้ ศึกษาจริงลงมือปฏิบัติ และสรุปบทเรียนสม่ำเสมอ พ่อจึงเป็นแบบอย่างให้กับเพื่อนมิตร คนรุ่นน้องรุ่นหลังที่ให้ความเคารพพ่อ
และเป็นพ่อที่สอนลูกว่า “เราต้องเคารพคนอื่นก่อน คนอื่นๆ จึงเคารพเรา” เราต้องยึดมั่นความจริง และความจริงจึงให้แนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมต่อเรา
โดยต้องใช้ “ความรู้ สติปัญญา ความจริง เป็นตัวนำ” ต้อง คิดดี ทำดี เพื่อผู้อื่น นอกจากตัวเอง และสูงสุด คือการกตัญญูต่อแผ่นดินเกิดฯ
l ลุงชนะ ถามแหย่ แทรกขึ้นมา “ใครเป็นตัวหลัก ระหว่าง แม่ กะ พ่อ”
ทั้งแม่ และ พ่อ เป็นแบบอย่าง, ตัวเราเป็นผู้เลือก ผู้ตัดสิน นำเอาสิ่งที่ดีของแต่ละคนมาใช้“ตัวผม (ลูกโจ๊ก) ช่วงเติบโต โดยเฉพาะ การเรียนในมหาวิทยาลัย ได้คิดด้วยตนเอง “เพราะเริ่มมีชีวิตที่อิสระ คิดเองทำเองได้ การมีอาจารย์ที่ดี เพื่อนมิตรที่ดี และมีผู้ใหญ่ที่ดี ที่เราเลือกมาเป็นแบบอย่างการอยู่กับชีวิตที่เป็นจริง ในสังคมยุคใหม่ ที่ต่างไปจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ เราต้องศึกษาเรียนรู้ ทั้งทางตรงทางอ้อม ในมหาวิทยาลัย และภายนอก ในสังคมที่ซับซ้อนเราต้องเชื่อมั่นในตนเอง ต้องมีหลักคิดหลักปฏิบัติที่ดีและถูกต้องการได้มีโอกาสบวช ตลอดพรรษา กับ “พระมหาประยุทธ์โต ที่วัดญาณเวศกวัน”ปี ๒๕๕๔ และการได้ใช้เวลาอีกหลายเดือนเดินทางไปศึกษาและปฏิบัติธรรม ทั้งสวนโมกข์และ ฯลฯ เป็นสิ่งที่ดี มีคุณค่า ความหมาย และให้ประโยชน์ยิ่งในการทำงานและครองชีวิต
l แล้วเลี้ยงลูกอย่างไร สอนอะไร (พี่ชนะรู้ว่าปู่จิ๊บมีหลานน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นลูกของโจ๊ก)
ครานี้ เป็นพ่อจิ๊บที่ออกปากเอง “โจ๊กเลี้ยงลูกได้ดีกว่าพ่อเยอะเลย” เพราะมีความพร้อมและ “ปู่จิ๊บเสริมว่า” Brought up ของคนหนึ่งๆ มาจาก
๑. เริ่มจาก DNA หรือ โครโมโซม ของบรรพบุรุษที่ตกทอดมา ถึงตัวเรา
๒. การเลี้ยงดูในขั้นปฐมจากพ่อแม่ ตามมาด้วยครู และ พระ คือ บ้าน วัด โรงเรียน “บวร”
๓. ช่วงที่สำคัญที่สุด คือ การใช้ชีวิตของตนเองด้วยตนเอง
l โดยปู่จิ๊บ แถมท้ายว่า “ข้อ ๓ มีส่วนสัมพันธ์ตรงและอ้อม กับ ข้อ ๑”
การที่เราต้องใช้ชีวิตที่ดี ถูกต้อง รักษาสุขภาพกายใจที่สำคัญการมีความคิดการปฏิบัติที่ถูกจะมีส่วนพัฒนาและเสริมสร้าง DNA ของเรา ที่จะถ่ายทอดไปยังลูกหลานเหลนต่อไป ลุงชนะมีความสุข ยิ้มร่าตลอด เพราะได้เล่าเรื่องและตั้งคำถามแก่ รุ่นน้องและหลานพ่อและหลาน มีความสุขที่ได้ฟังข้อคิด คำแนะนำจาก“ผู้ใหญ่ที่ดี มีประสบการณ์จริง”เป็นความสุข สดชื่น และเป็นอีกวันหนึ่งที่งดงามในชีวิตของปู่จิ๊บ ที่เริ่มก้าวที่ ๗๑ ของชีวิต
ขอบคุณ “พี่ชนะ” ที่ได้ให้ความรักความเชื่อมั่นและการสนับสนุนผม และเลยมาถึงหลาน ภาพ การจับมือของ “คุณลุงชนะ และหลานโจ๊ก” เป็นภาพจบที่งดงามยิ่งของงานเลี้ยงวันนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี