“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ยืนหยัด-ยึดมั่น “จรรยาบรรณ-อุดมการณ์” มั่นคง ตรงไป ตรงมา ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอย้อนไปแสดงความยินดีกับนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จจากการแข่งขันในมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาค “ซีเกมส์ 2019 ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์” พร้อมกับความล้มเหลวในการบริหารจัดการของผู้เกี่ยวข้อง...nn ขอแสดงความห่วงใยกับสถานการณ์ทางการเมืองของ “พรรคอนาคตใหม่” ที่ กกต.มีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องให้“ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค” หลังเชื่อได้ว่า พรรคอนาคตใหม่กระทำการมิชอบด้วยกฎหมาย “กรณีกู้เงินจำนวน 191 ล้านบาทจากตี๋ทอน –นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตามพ.ร.ป.พรรคการเมืองมาตรา 72 ซึ่ง “ไม้หน้าสาม”เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว และแนะนำให้คอการเมืองเขียนบนกระดานไว้ก่อนหน้านี้ว่าข้อพิรุธที่ กกต.พบเห็นพิรุธ มีความเชื่อถือมากพอจะเชือดคอพรรคการเมืองที่พยายามย้อนแย้งกระต่ายขาเดียวมาตลอดว่ากลุ่มตนเองไม่ได้กระทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ตรงกันข้าม “พรรคอนาคตใหม่” พยายามจะเห่าหอนเสมอมา ว่าเป็น “สถาบันที่ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ อภิปรายซักฟอกอย่างมีเนื้อหา เป็นพรรคการเมืองที่เปิดเผยโปร่งใสในบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นพรรคการเมืองที่รวบรวมผู้คนที่ทนไม่ไหวกับสภาพสังคมไทยต่อสู้ในรัฐสภาอย่างสันติ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของลูกหลาน จะไม่มีที่หยัดที่ยืนในการเมืองประเทศนี้” กรณีถือหุ้นสื่อก็เช่นกัน อ้างอย่างไม่รู้สึกกระดาก ละอายแก่ใจ ไม่ได้เข้ามาทำงานการเมืองเพื่อหาผลประโยชน์แก่ตนและพวกพ้องเยี่ยง “ทักษิณ” ที่ต้องหนีคำพิพากษาศาลไปอยู่ต่างประเทศ “ไม้หน้าสาม” อยากบอกว่าถ้าคิดว่าตัวเองเป็น “ทองแท้”อย่ากลัวที่จะโดนไฟถ้ายืนหยัดอยู่บนความถูกต้อง ประชาชนที่สังเกตการณ์การเมืองและเสพสื่อบางประเภทอาการมืดบอดทั้งใจและตาก็อาจยังไม่หายไม่กระจ่าง ยังจะกากบาทเลือกพรรคอนาคตใหม่เข้ามาอีกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็เป็นได้...
nn ทว่ายังไม่ทันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยข้อสรุปของกกต. ทั้งพยานหลักฐาน และข้อต่อสู้ของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งก็ไม่มีปัญญาจะส่งพยานหลักฐานใดเพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหา ข้อพิรุธสงสัยของกกต. โบราณสอนสั่งไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม “ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด” เพราะวันนี้อาจารย์สอนกฎหมายกลับไม่เคยใช้“หลักนิติรัฐนิติธรรม” มาเป็นหลักในการต่อสู้บนบัลลังก์ศาล เขาคือ “ปิยบุตรแสงกนกกุล” ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎรและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตสมาชิกคณะนิติราษฎร์ที่ออกมาแสดงความเห็นทางกฎหมายชนิดกำปั้นทุบดินจนนำพาพรรคไปสู่ความ “หายนะ” และยังออกมาสร้างวาทกรรมทางการเมืองว่านี่คือ “นิติสงคราม” บอกตามจริง “ปิยบุตร” คุณไม่แมนเอาเสียเลย...
nn “ไม้หน้าสาม” ตามไปอ่าน เฟซบุ๊ค “Chanwit Jaisawang” ของ “ดร.โจ - ชาญวิทย์ ใจสว่าง” อดีตผู้สมัคร สส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ในหัวข้อ “ลาก่อนอนาคตใหม่” ต้องอึ้งและต้องชื่นชมชื่นชอบกับความเห็นนี้เลยขอบอก จึงขอนำมาเผยแพร่ โดยมีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจยิ่ง เพราะ “บุรุษผู้นี้เป็นแมนพอ”ได้สะท้อนแง่มุมต่างๆ ภายในอนาคตใหม่อย่างตรงมาตรงไป และมีเหตุผลเชิงประจักษ์ ดังนี้...
nn ระส่ำไปทั้งพรรค หลัง “วันสิ้นพรรค” กำลังจะเกิดขึ้น หวาดระแวงลงไปตามๆ กัน ทั่วถึงสาขาต่างจังหวัดเตรียมตัวว่างงาน เพราะเหตุ “ยุบพรรค” จากเรื่องเงินกู้ 191 ล้าน และ เงินบริจาค ที่ตบแต่งบัญชี อำพรางผู้ให้และผู้รับ ธรรมดา พูดกันเยอะ พรรคไม่รอด ขนาดหุ้นสื่อ ยังออกเทาๆ บ้าง ในมุมนักกฎหมายบางคนแต่พอนักกฎหมาย ผู้ไม่เคยออกนอกห้องบรรยายสู่โลกความจริงแห่งการนำกฎหมายไปใช้ ประกาศยอมแพ้ไม่ส่งเอกสารการเงินให้ กกต. เท่านั้น หมดพรรคก็ว่าได้ พูดกันเสียงเดียว “หายนะ” แล้วอนาคตใหม่ หลักๆ คือ 1. แกนนำพรรค กรรมการบริหาร ผู้บริจาคเงิน ติดคุก 2. แกนนำพรรค กรรมการบริหาร หมดสิทธิลงการเมืองยาว 3. สส. ที่เหลือ ต้องทิ้งพรรค หาพรรคใหม่ 4. เจ้าหน้าที่พรรค ผู้ช่วย สส. ตกงาน เกือบพัน...
nn นี่คือความเห็นของหน่อเนื้อเชื้อไข ของคนในพรรคอนาคตใหม่ คนสามเหลี่ยมสีส้ม “โจ - ชาญวิทย์ ใจสว่าง” ระบุด้วยว่า ระบบบริหารจัดการในพรรคเป็น “ระบบเผด็จการ ห่อหุ้มด้วยระบบอุปถัมภ์” จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะฝากประชาธิปไตยไว้กับ “พรรคเผด็จการซ่อนรูป” การไม่ส่งเอกสาร เป็นวิธีที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ในทางบัญชี จะสัมพันธ์กับกฎหมาย ทุกอักษร ทุกตัวเลข ที่ใส่ลงไป คือ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด เท่ากับยิ่งมากความ เติมแต่งแก้ไข อธิบาย ยิ่งพันคนเพิ่มขึ้นได้ โทษฐานความผิดอาจถูกขยายกว้างขึ้นอีก ผิดเท่าที่มีอยู่ก่อน ก็หนักพอแล้ว คุกไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ ดังที่ ตี๋ทอน - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ บอกการทำการเมือง ที่มีแนวร่วมต้องโทษโดนคดี คือ ความเจ็บปวดทั้งนั้น ที่สำคัญถ้าไม่มีเธอหรือปลดเธอแต่วันนั้น วันนี้เรื่องยุบพรรคอนาคตใหม่ก็ไม่มี แต่ “เธอคือใครล่ะ??” “ไม้หน้าสาม” ขอย้ำเตือนสติคนไทยอย่าได้ตกเป็น “เหยื่อ” นักการเมืองสามานย์เหมือนในอดีตที่เราเคยได้รับความจำปวดกันมาแล้ว ดังคำพูดของหลาน “อั้งยี่เส็ง แซ่คู - ทักษิณ ชินวัตร” กระสุนนัดแรกดัง ผมจะเป็นผู้นำม็อบเอง จวบจนวันนี้ มีใครได้เห็นหัวเห็นหน้าเหลี่ยมๆมันหรือไม่ ที่สุดมันก็ปล่อยให้ “ไพร่แดง สมุนติ่งแม้วลูกน้องติดคุกแทน ขณะที่มันและญาติพี่น้องเสวยสุขทั้งในและต่างประเทศ ความสำเร็จที่น่าภูมิใจ คือ ถึงเป้าหมาย โดยไม่มีการสูญเสียใครสักคน สู้กับ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) แต่ไม่ป้องกันตัวเอง เหมือนไปแข่งกีฬาต่างประเทศ สิ่งที่ต้องระวัง คือ เจ้าภาพจ้องจับผิดเรื่องกฎกติกา มารยาท มาก เพราะการผิดแม้นครั้งเดียว คือ การแพ้โดยไม่ต้องแข่งให้จบเกมก็ได้ ที่ว่า “คุกมีไว้ขังหมา” เป็นการเปรียบเปรยประชดประชันสังคมนัยว่า “คนจนมีโอกาสติดคุกสูง...ในขณะที่มหาเศรษฐีจะมีภูมิคุ้มกันพิเศษรอดพ้นจากคุกตะรางได้ เพราะอำนาจเงิน”ทว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป กระบวนการยุติธรรมประเทศไทยศักดิ์สิทธิ์เข้มแข็ง และไม่เป็นรองชาติใดในโลกใบนี้ จะมีก็แต่พวกคนถ่อยคนพาล แหกกฎกติกาบ้านเมือง เมื่อถูกศาล หรือองค์กรอิสระกล่าวโทษชี้ความผิด ก็มักจะแถไถว่า “ถูกกลั่นแกล้ง” จากอำนาจลึกลับ “มือที่มองไม่เห็น” เช่น นักโทษชายหนีคดีอาญาแผ่นดินอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” และน้องสาวที่บริหารบ้านเมืองผิดพลาดทุจริตคอร์รัปชั่นโครงการรับจำนำข้าวนับแสนล้านบาท...
nn “ไม้หน้าสาม” ขอทำลายความเห็นที่ว่า “คุกมีไว้ขังหมา” พร้อมยืนยันว่า “คุกมีไว้จองจำผู้ที่กระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง” ดังปรากฏชัดเจนจากคำพิพากษาศาลจังหวัดทองผาภูมิ ซึ่งศาลได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่อ.219/2561 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.63/2562 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ (โจทก์) “เปรมชัย กรรณสูต” ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน (จำเลย) เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ล่าสุดศาลอุทธรณ์ลงดาบเพิ่มโทษ “แก๊งล่าเสือดำ” จำคุกเจ้าสัวเปรมชัย 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา สรุปความชัดแจ่มแจ้งว่า “คนรวยมหาเศรษฐีก็ติดคุกได้เช่นกัน หากฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง”
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี