แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
■■ ปัญหาทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่มีทางแก้ไขได้ ถ้ารู้จักคิดให้ดีปฏิบัติให้ถูก การคิดได้ดีนั้นมิใช่การคิดได้ด้วยลูกคิดหรือด้วยสมองกล เพราะโลกเราในปัจจุบันจะวิวัฒนาการไปมากเพียงใดก็ตาม ก็ยังไม่มีเครื่องมืออันวิเศษชนิดใด
สามารถขบคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ การขบคิดวินิจฉัยปัญหาจึงต้องใช้สติปัญญา คือคิดด้วยสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพื่อหยุดยั้งและป้องกันความประมาทผิดพลาด และอคติต่างๆ มิให้เกิดขึ้น ช่วยให้การใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาต่างๆ เป็นไปอย่างเที่ยงตรง ทำให้เห็นเหตุเห็นผลที่เกี่ยวเนื่องกันเป็นกระบวนการได้กระจ่างชัดทุกขั้นตอน… (พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 1 สิงหาคม 2539) ...
■■ เจ้าของที่ดินผู้อนุญาตให้กรุงเทพมหานครใช้ที่สวนลิ้นจี่ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เพื่อทำเป็นสวนสาธารณะสำหรับการพักผ่อนและออกกำลังกายของประชาชน โดยที่ดินดังกล่าวยังคงเป็นที่ดินส่วนบุคคล ส่งรูปภาพที่แสดงให้เห็นถึงความไม่รู้กาลเทศะ แต่บ่งบอกให้เห็นถึงความมักง่ายของ สส. พรรคอนาคตใหม่ ที่ชื่อ โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี หรือที่ชาวบ้านรู้จักในนามเสี่ยอ๋าให้แนวหน้า เพราะอยู่ๆ ก็มีป้ายโฆษณาชวนเชื่อที่ลงรูปภาพของโชติพิพัฒน์คู่กับภาพปิยบุตร แสงกนกกุล พร้อมระบุชื่อพรรคอนาคตใหม่ แล้วยังมีคำโฆษณาชวนเชื่อว่า วิ่งลดโรค ลดพุง เพื่ออนาคตใหม่ เจ้าของที่ดินฝากถามว่า ผู้ที่ทำพฤติกรรมดังกล่าวนั้นเคยมีความสำเหนียกบ้างไหมกับเรื่องสิทธิของเจ้าของที่ดิน เคยขออนุญาตเจ้าของที่ดินหรือไม่หรือคิดว่าเป็น สส. แล้วสามารถกระทำละเมิดสิทธิของผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ เจ้าของที่ดินและประชาชนที่ใช้บริการของสวนแห่งนี้เขาฝากบอกด้วยว่า หากไม่มีความสำนึกและความสำเหนียกในเรื่องพื้นฐานเช่นนี้ก็ไม่ควรจะเป็น สส. อีกต่อไป...
■■ อาจารย์กลุ่มหนึ่งจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ฝากให้แนวหน้าช่วยติดตามสอบถามว่าทำไมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงดองเรื่องร้องเรียนมากมายที่คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั้งสองร้องเรียนให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเหตุไม่สุจริตภายในมหาวิทยาลัย รวมถึงเรื่องที่ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งมีพฤติกรรมเข้าข่ายไม่สุจริต โดยไม่ได้เกรงกลัวและละอายต่อสายตาของชาวประชาคมมหาวิทยาลัย...
■■ ล่าสุด นพดล วศินสุนทร เป็นตัวแทนคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อร้องขอให้เข้าไปตรวจสอบและขจัดปัญหาการทุจริตภายในสถาบันอุดมศึกษาของไทยประเด็นปัญหาที่ร้องเรียนคือ มาตรฐานการศึกษาในอุดมศึกษาไทยตกต่ำเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก แต่กลับพบว่ามีเหตุทุจริตในหมู่คณะของผู้บริหารมหาวิทยาลัยมากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นพรรคเล่นพวกของกลุ่มผู้บริหาร จนนับเป็นเรื่องทุจริตกันอย่างเป็นระบบให้มหาวิทยาลัยของรัฐ รวมถึงเรื่องที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยสืบทอดอำนาจโดยมิชอบ เพราะผู้บริหารเป็นจำนวนมากขาดคุณสมบัติเนื่องจากมีอายุเกิน 60 ปี และที่สำคัญคือผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่มีพฤติกรรมฉ้อฉลใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรมสั่งปลดอาจารย์ที่ออกมาเรียกร้องให้สังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องการปราบปรามการทุจริตเข้าไปตรวจสอบเหตุทุจริตในมหาวิทยาลัย...
■■ ข้อร้องเรียนประการสำคัญอยู่ตรงที่อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ระบุว่า ได้มีการร้องเรียนมากมายไปยัง ป.ป.ช. แล้ว อาทิ เรื่องการทุจริตโครงการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศ การแต่งตั้งผู้ขาดคุณสมบัติไปดำรงตำแหน่งผู้บริหารมหาวิทยาลัย เรื่องการทุจริตโครงการก่อสร้างในมหาวิทยาลัย และเรื่องการเปิดหลักสูตรที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่กลับปรากฏว่า ป.ป.ช. ทำเสมือนจงใจดองเรื่องร้องเรียนต่างๆ ไว้ โดยไม่มีการดำเนินการตรวจสอบใดๆ และไม่มีการชี้แจงผลการตรวจสอบให้ผู้ร้องเรียนทราบ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีคำถามว่า หาก ป.ป.ช. ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบทบาทที่ได้รับมอบหมายแล้ว สังคมยังจำเป็นจะต้องมี ป.ป.ช. อีกต่อไปหรือไม่ เพราะการมีหน่วยงานที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมและทันกาล ก็คือการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยแท้จริง...
■■ ส่วนสำนักงานป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก็มีเรื่องยุ่งๆ และวุ่นวายไม่แพ้กับ ป.ป.ช. เพียงแต่เรื่องอลหม่านที่ว่านั้นเป็นเรื่องที่ถูกเก็บงำจนเงียบเชียบอยู่ภายในสำนักงาน จนยากที่คนภายนอกจะสามารถเข้าไปรับรู้ได้ แต่ทว่าบุคลากรในสำนักงานต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างครึกโครม ล่าสุดสาธารณชนกำลังเฝ้าจับตาดูว่ารักษาการเลขาธิการ
ปปง. ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่งัดข้อกันอย่างหนักแบบผีไม่เผา เงาไม่เหยียบกับ เลขาฯ ปปง.คนเดิมที่ชื่อ รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร จะลงเอยอย่างไร แต่ล่าสุดของล่าสุดได้ข่าวว่ากรรมาธิการวิสามัญของสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ พฤติกรรม และจริยธรรม กำลังตรวจเข้มว่าปรีชาเหมาะจะนั่งในตำแหน่งเลขาฯ ปปง.หรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบก็คือปรีชามีเรื่องเบื้องหลังอยู่มากมายพอประมาณ แต่ข่าววงในก็บอกว่าชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานบอร์ด ปปง. นี่แหละคือตัวจริงที่ยิ่งใหญ่อยู่เหนือ ปปง. จนคน ปปง. บอกว่าชัยยะนั้นสามารถชี้ไม้เป็นนก ชี้นกเป็นไม้ได้...
■■ เรียนแจ้งความคืบหน้าโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือจากโรงฆ่าสัตว์เพื่อนำไปมอบให้เกษตรกรเลี้ยงดูจนกว่าโคกระบือจะถึงแก่อายุขัย ซึ่งดำเนินการโดยหนังสือพิมพ์แนวหน้า ล่าสุดมีผู้ร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก ทำให้คาดการณ์ได้ว่าขณะนี้น่าจะสามารถไถ่ชีวิตโคกระบือได้ประมาณ 6-7 ตัว ทั้งนี้ยังไม่รวมอีก 3 ตัว ที่พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี จะร่วมบริจาคด้วย (ซึ่งในครั้งนี้ตั้งใจว่าจะไถ่ชีวิตโคกระบือให้ได้ 14-16 ตัว) ขอเรียนแจ้งผู้ที่ประสงค์จะร่วมโครงการนี้โปรดติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 09-1723-3615 ส่วนการส่งมอบโคกระบือจะมีขึ้นในวันที่ 29 มกราคม 2563 ที่สถานปฏิบัติธรรมไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย...■■
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี