ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาลว่า “รัฐเชียงกง” พร้อมคำอธิบายว่า สะท้อนภาพรัฐบาลคล้ายแหล่งค้าขายอะไหล่มือสอง ประกอบกันขึ้นจากข้าราชการยุคก่อน และนักการเมืองหน้าเก่า แม้ใช้ประโยชน์ได้ แต่ยังขาดความน่าเชื่อถือ สะท้อนความไม่มีเสถียรภาพ
ส่วนฉายาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม คือ “อิเหนาเมาหมัด”โดยอธิบายว่า ยกคำสุภาษิตไทย ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เปรียบแนวทางปฏิบัติ และ นโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่เห็นได้ชัดหลายเรื่อง มักจะตำหนิหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และสุดท้ายก็กลับมาทำเอง เช่น โครงการลักษณะประชานิยม บอกไม่เป็นนายกฯ สุดท้ายก็กลับมา,ไม่อยากเล่นการเมือง ก็หนีไม่พ้น, หนีการตอบกระทู้ในสภา, มองข้ามข้อครหาเรื่องงูเห่าการเมือง การซื้อตัวสส., ตั้งคนมีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี, แต่งตั้งญาติพี่น้องเข้าสภา, ยอมให้พรรคที่สนับสนุนใช้นโยบายค่าแรงหาเสียง ทั้งที่เคยตำหนิว่า การขึ้นค่าแรงเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน อีกทั้งไม่สามารถควบคุมให้รัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ เกิดปัญหาติดขัดการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงงบประมาณที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ และฝ่ายตรงข้ามรุมเร้าคล้ายโดนระดมหมัดเข้าถาโถม แม้พยายามสวนหมัดสู้ แต่หลายครั้งถึงกับมึนชกโดนตนเองก็มี
หลังประกาศฉายาออกมา ก็เพียรตามไปขอทราบความรู้สึกของท่าน ซึ่งท่านไม่ตอบ แต่ไปพูดในอีกงานหนึ่งว่า
“สื่อมาถามว่า ตั้งฉายารัฐบาลแล้วเป็นยังไงบ้างนายกฯ ผมไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น จะรู้สึกอะไร จะให้ผมดีใจจะให้ผมเสียใจ ให้ผมโกรธเหรอ อยากตั้งอะไรก็ตั้งไปเถอะครับ การทำงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่งั้นเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีกำลังใจทำงาน เจ้าหน้าที่ก็เลิก คนดีก็ไม่อยากทำแล้ว จะทำไปทำไม เพราะทำไปแล้วก็ตั้งชื่อเช่นอย่างนี้ ถ้าผมไม่ทุ่มเท ถ้าผมไม่ตั้งใจด่าผมมาเลย ด่าตรงๆ เลย ไม่ใช่เรื่องตลก
ขอให้รู้ว่าผมไม่ได้สนุกสนานมากนักหรอก แม้หลายคนจะเห็นว่าผมสนุกสนานเวลาไปงานโน้นงานนี่ แต่ก็เป็นงานๆไป เพราะผมอยู่ท่ามกลางคนสนุก จะให้ผมไปทำหน้าไม่สนุกได้อย่างไร ผมก็ต้องสร้างบรรยากาศไปกับเขา ส่วนตรงไหนที่เขาเครียดผมก็ต้องเครียดไปกับเขา”
ในเรื่องนี้นั้น นายนิติพงษ์ ห่อนาค หรือ ดี้ นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว Nitipong Honark ถึงเรื่อง ที่บอกว่าไม่แน่ใจว่า มันดีไม่ดี เหมาะไม่เหมาะ ประเทศอื่นเขามีไหม ฯลฯ พร้อมกับถามกลับ มาตั้งฉายาให้กับสื่อมั่งดีมั้ย! โดยได้ระบุข้อความว่า ดูจากข่าวแล้ว...ก็อือม์...
การตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี...ประจำปีของสื่อมวลชน...ฉันก็ไม่แน่ใจดอกว่า มันดีไม่ดี เหมาะไม่เหมาะประเทศอื่นเขามีไหม ฯลฯ
แต่มุมหนึ่งที่เห็นก็คือ... ถ้าเป็นรัฐบาลที่ถูกแต่งตั้งเฉพาะกาล ไม่ได้มาจากวิถีที่ผ่านการเลือกตั้ง...จะไม่มีการตั้งฉายาประจำปี... สื่อไม่เอ็นดูพอที่จะเล่นด้วย...
ปีนี้ รัฐบาลมาจากวิถีประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ...จึงถือว่า สื่อมวลชนทั้งปวงยอมรับ.. มิได้กลัวเกรงอำนาจอันใด จึงดำเนินประเพณีการตั้งฉายารัฐบาล...
ฉันถือเป็นเรื่องน่ารักนะ... ถ้าเขาหยอกล้อเล่นได้...แปลว่าเขาไม่ได้กลัว เขาเอ็นดูเสียอีก แม่ประไพว่าไหม...
ถ้าฉันเป็นรัฐมนตรี...ฉันจะดีใจนะ ที่สื่อนึกถึง..
มีอีกหลายรัฐมนตรีเลย...ที่คนไทยจำชื่อไม่ได้...
พี่ลุงตู่...วันนี้พี่เสียรังวัดมากนะจ๊ะ... เข้าใจแหละ...ว่าทำงานหนัก เจออะไรมาบ้าง เหนื่อยแค่ไหน ฯลฯ...
พี่ลุงตู่กระฟัดกระเฟียดเกินไปละ ตอนนี้พี่ลุงตู่ไม่ใช่หัวหน้าคณะอะไรนั่นแล้วนะ... ตอนนี้พี่เป็นนักการเมืองแล้ว... พี่ต้องปรับตัวละ...
ดูน้องๆ น้องหนู น้องอู๊ดด้า น้องท็อป ฯลฯ เขารับมือกับแรงเสียดสีอย่างไร... พี่ลุงตู่ ต้องดูคนรอบข้างบ้างล่ะนะ...
พี่อาจจะเชื่อมั่นว่าตัวเองเจตนาดี ซื่อสัตย์สุดโคตร... แต่ถ้าวันนี้ อยู่ท่ามกลางคนที่ “ได้ครับพี่ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน”... มันจะไม่ไหวนะ...คนพวกเนี้ย จะพาพี่ออกทะเลจ้ะ...
หาคนที่ขัดคอพี่บ้างนะ... เป็นผู้นำต้องขำกับเสียงขัดคอได้... #มาตั้งฉายาให้กับสื่อมั่งดีมั้ยฮ่า
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ตั้งฉายารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า รัฐเชียงกง นั้น นับว่าเป็นฉายาที่ตั้งแล้วทำให้เห็นภาพ ศูนย์ขายอะไหล่เชียงกงจริงๆ เพราะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐมนตรีบางคนเคยร่วมกับรัฐบาลของ นายทักษิณชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาก่อนหลายคน
“ส่วนฉายารัฐมนตรีคนอื่นๆ นั้น ต้องขอชื่นชมว่าตั้งฉายาได้เฉียบคม สอดคล้องกับบุคลิกและการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละคนจริงๆ การตั้งฉายาให้รัฐบาล หรือตั้งฉายาให้กับรัฐมนตรีนั้นเป็นประเพณีปฏิบัติที่ผู้สื่อข่าวปฏิบัติกันมาเป็นประจำทุกปี ในสถานการณ์บ้านเมืองปกติ หรือเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่สำหรับพล.อ.ประยุทธ์อาจจะไม่คุ้นเคยกับกับการตั้งฉายาแบบนี้ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร และเพิ่งมาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก เมื่อมาเจอกับการตั้งฉายาของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลในลักษณะเสียดสี แบบแสบๆ คันๆ เช่นนี้ ก็อาจจะไม่สบอารมณ์ มีความรู้สึกหงุดหงิดบ้าง” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า “ก็ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าใจและทำใจ เพราะตำแหน่งนายกฯ เป็นบุคคลสาธารณะ ที่สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ เสียดสี เหน็บแนม หยอกล้อได้ เพราะตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือนักการเมืองคนหนึ่ง มีวิถีชีวิตเหมือนกับนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยโดยทั่วไปทุกคน”
ขณะที่ ป้ามล-ทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก และเยาวชน อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า “อยากเป็น อยากอยู่ อยากทำ แต่อ่อนไหวไปกับรส กลิ่น เสียง วาทกรรม กลับบ้านเถอะค่ะ ชีวิตจะได้รื่นรมย์ ควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจ
ทุ่มเทแต่ไม่ได้ผล ทุ่มเทแต่ผิดพลาด ทุ่มเทแต่ช่องของความเหลื่อมล้ำกว้างขึ้น จะให้ใครปลื้มเหรอ เกรี้ยวกราดใคร ประชาชนไม่ใช่คนในค่ายทหาร”
สำหรับผม…
1) พล.อ.ประยุทธ์ เสียรังวัดจริงๆ ครับ ไม่ควรหงุดหงิด ขณะที่บอกให้สื่อมาด่ากันต่อหน้า ท่านเองกลับไม่อยู่ตรงนั้น แต่ไปพูดลับหลังสื่อ (ฮา...)
2) อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่างานท่านหนัก เหนื่อย ทั้งต้องแก้ปัญหาทางการเมือง และแก้ปัญหาประชาชน แก้ปัญหาทั้ง “บน” และ “ล่าง” ไปพร้อมๆ กัน มีคนรักและคาดหวังมากมาย พร้อมๆ กับมีคนชังและ “ไล่” หรือต่อว่า ด่าทออยู่ทุกวัน ในสภาพนี้ คงหาความสุขได้อยาก ขอให้ท่านมีกำลังใจที่จะต่อสู้เถอะครับ เพราะท่าน “เลือก” และ “ออกแบบ” อะไรหลายต่อหลายอย่างเพื่อจะมาถึง “จุดนี้”
3) อะไรไม่จำเป็นต้องถือ ก็อย่าเอาไปถือ ถือแล้วท่านก็เครียด (ใช่ว่าจะเป็นนักจัดการอารมณ์เสียที่ไหน) มองบวก และอธิบายกลับไป ว่าบางถนนหนทาง “รถมือสอง” มันก็ดีกว่า เหมาะกว่า สำคัญอยู่ที่ “คนขับโว้ย” ดูซะก่อน ตอนนี้ใครขับ อะไรทำนองนี้
4) แต่มันก็พูดยากแหละ เพราะก็ใช่ว่าจะขับดี การเมืองก็ยุ่ง เศรษฐกิจก็แย่ ดังนั้นพูดแค่ “ถนนมันไม่เรียบอย่าเอารถมือหนึ่งมาเสี่ยงให้พังเลย ใช้รถมือสอง ใช้อะไหล่เชียงกงนี่แหละดี เหมาะกับงาน ที่สำคัญ ผมจะพยายามขับให้ดีที่สุด ไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง คือ พาพี่น้องประชาชนพ้นความลำบากยากจน เท่าที่ผมและคณะเชียงกงจะทำได้ คนบนรถก็ต้องช่วยกันชี้ทาง บอกทางสร้างความปลอดภัยให้แก่รถคันนี้ไปด้วยกัน ไม่ใช่คอยรบกวนสมาธิคนขับ คอยโยก คอยเจาะยางอยู่เรื่อย รถคว่ำแล้วใครรอด? ใครเจ็บ?” ประมาณนี้กำลังสวย
5) ส่วน “อิเหนาเมาหมัด” มันอธิบายยากเนอะเพราะเคยบ่นนักการเมืองเก่า เคยถามประชาชนว่าจะเอายังไงกับนักการเมืองพวกนี้ เคยถามประชาชนว่า ควรมีพรรคการเมืองใหม่ๆ ดีไหม ถ้ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งไม่มีธรรมาภิบาลจะเอายังไง สุดท้าย ไอ้ที่ถามๆ ไปกองอยู่ในพรรคพลังประชารัฐเพียบเลย แล้วก็เป็นพรรคนี้พวกนี้ไม่ใช่หรือครับ ที่ชูท่านขึ้นเป็นนายกฯ นโยบายลดแลกแจกแถมตามมาเป็นพรวน นักการเมืองอย่าง นายวิรัชรัตนเศรษฐ ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่า ทุจริตสนามฟุตซอล จากที่ท่านเคยเอานักการเมืองท้องถิ่นมา “เทาๆ” รอการพิสูจน์ว่า “ขาว” หรือ “ดำ” มาใส่บัญชี “ปลดจากหน้าที่และตำแหน่งเดิม” ไว้ก่อน ท่านกลับไม่ทำกับ “ประธานวิปรัฐบาล” คนนี้
ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง มันจึงพูดยากสู้ไม่พูดเลยดีกว่า ยิ้มรับไป อีกไม่กี่วันก็มีข่าวใหม่ๆ มากลบเรื่องนี้แล้ว!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี