แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn คุณสมบัติพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับทุกคนนั้น ที่สำคัญได้แก่ความรู้จักผิดชอบชั่วดี ความละอายชั่วกลัวบาป ความซื่อสัตย์สุจริตทั้งในความคิดและการกระทำ ความไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ความไม่มักง่ายหยาบคาย กับอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญเป็นพิเศษคือความขยันหมั่นเพียร… (พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ณ อาคารใหม่สวนอัมพร วันที่ 22 มิถุนายน 2522)...
nn เรื่องผลโพลล์อาจไม่เป็น ที่สนอกสนใจของคนมีอำนาจรัฐมากมายนัก ถ้าหากผลออกมาไม่ตรงความเชื่อและไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้มีอำนาจรัฐอยากให้เป็น ล่าสุดคะแนนนิยมทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลดลงเมื่ออ้างอิงผลการสำรวจจากโพลล์ต่างๆเช่น นิดาโพล สวนดุสิตโพล ซูเปอร์โพล และกรุงเทพโพลล์...
nn ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีผู้เชื่อว่าน่าจะถูกยุบพรรค เพราะหัวหน้าพรรค และ/หรือเจ้าของพรรค กระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน กลับมีคะแนนนิยมเหนือประยุทธ์ ในเมื่อรูปการณ์ออกมาเป็นเช่นนี้
จึงทำให้ฝ่ายเชียร์ประยุทธ์เสียดสีธนาธรว่า “นายกฯโพลล์” ส่วนประยุทธ์คือ “นายกฯ ตัวจริง”...
nn แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ คนบางกลุ่มที่เคยนิยมชมชอบประยุทธ์ต่างลดความนิยมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนบางกลุ่มที่ยังคงรักประยุทธ์ก็ยังคงรักเหมือนเดิม เพราะเชื่อว่าประยุทธ์คือสุดยอดของนายกฯ ที่ไทยพึงจะมีได้ในยุคนี้...
nn เรื่องคะแนนนิยมทางการเมืองที่ลดลงนี้ ถึงแม้คนมีอำนาจรัฐในรัฐบาลประยุทธ์จะพยายามมองว่าเป็นแค่เพียง “ยุงรำคาญ” แต่ทว่าเมื่อเอาเข้าจริงๆ แล้ว คอการเมืองหลายคนก็พอจะทราบดีว่า ยุงรำคาญตัวนี้ก็ทำให้ผู้มีอำนาจรัฐนั่งไม่ติดที่ อยู่ไม่เป็นสุข ครั้นจะตบยุงรำคาญให้ตายคามือ ก็เกรงว่าคนที่รักยุงรำคาญจะลุกขึ้นมา “วิ่งไล่ลุง” แต่ครั้นจะปล่อยให้ยุงรำคาญตัวนี้บินตอมจมูกอยู่เรื่อยๆ ก็แสนจะหงุดหงิด ก็ต้องคอยดูต่อไปว่าเกมการเมืองระหว่างผู้มีอำนาจรัฐกับยุงรำคาญตัวนี้จะลงเอยอย่างไร ยุงรำคาญจะถูกบดขยี้ หรือผู้มีอำนาจรัฐชุดนี้จะแพ้ภัยตัวเอง เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้...
nn มีการตั้งคำถามจากคนที่ติดตามชมการประชุมรัฐสภาเป็นประจำว่า นายกฯ ประยุทธ์ เข้าประชุมสภาบ่อยแค่ไหน เพราะเห็นข่าวว่าเข้าประชุมน้อยมาก จนเกิดคำถามตามมาว่า ระหว่างประยุทธ์ จันทร์โอชา ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใครเข้าประชุมสภาบ่อยกว่ากัน เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากคำพูดของเทพไท เสนพงศ์ สส.ประชาธิปัตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กล่าวว่าการพิจารณางบประมาณฯ พ.ศ. 2563 อยากเห็นนายกฯ ประยุทธ์ เข้าร่วมประชุมเพื่อจะได้ฟังการอภิปรายของ สส. เพื่อจะได้มีข้อมูลไปประกอบการบริหารประเทศต่อไป...
nn การพิจารณางบฯ 2563 จะนำเรื่องงบฯ อบรม สัมมนา (แต่หลายคนวิพากษ์ว่าเป็นการเที่ยวเล่นมากกว่าสัมมนาอย่างจริงจัง) ของหลักสูตรพิเศษสารพัดหลักสูตร ซึ่งหลายคนเรียกว่าหลักสูตรอภิสิทธิ์ชน หลักสูตรระบบอุปถัมภ์ ที่เน้นการสร้างเครือข่ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์สาธารณะ แต่ที่มีข่าวว่าหลักสูตรที่จะถูกพิจารณางบฯ เป็นพิเศษคือหลักสูตรด้านกระบวนการยุติธรรม และองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่าหลักสูตรพิสดาร
เหล่านี้ทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยถูกตั้งคำถาม และลดความน่าเชื่อถือศรัทธาจากสาธารณชน เทพไทกล่าวถึงหลายหลักสูตรมาก แต่น่าสังเกตที่เทพไทไม่กล้าแตะหลักสูตร วปอ. นั่นคงเป็นเพราะเทพไทรู้ดีว่าอะไรแตะได้ อะไรแตะต้องไม่ได้...
nn มีเรื่องน่าสมเพชอันแสดงให้เห็นถึงความตื้นเขินของสติปัญญาของผู้บริหารระดับสูงเสียดเมฆบางรายในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เรื่องน่าสมเพชที่ว่านี้เป็นที่โจษขานอย่างครึกโครมภายในประชาคมไทยพีบีเอส เรื่องมีอยู่ว่า วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักในนามไทยพีบีเอส ลงนามในคำสั่งให้พนักงานรายหนึ่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยในเอกสารระบุชื่อเสียงเรียงนาม และหมายเลขพนักงานรายดังกล่าวอย่างชัดเจน สาเหตุที่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คือข้อกล่าวหาว่าพนักงานรายนั้นปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ในกรณีเผยแพร่ภาพคำขวัญวันเด็ก พ.ศ. 2563 ของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุให้องค์กรได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ดังนั้นจึงให้บุคคลดังกล่าวที่มีตำแหน่งผู้ช่วยด้านการผลิตข่าว (ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ข่าว) หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อรอผลการพิจารณาสอบสวน หรือรอจนกว่าจะมี
คำสั่งอย่างอื่น...
nn ส่วนประโยคเด็ดที่แสนน่าสมเพช ที่ทำให้คนเรียนกฎหมายมาโดยตรงต่างหัวเราะจนตกเก้าอี้คือ ทั้งนี้หาก (ชื่อพนักงาน) ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ ให้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งนี้ สั่ง ณ วันที่ 3 มกราคม 2563 ลงชื่อ วิลาสินี พิพิธกุล เมื่อมีคำสั่งเช่นนี้ออกมาจากวิลาสินี ก็จึงทำให้ประชาคมไทยพีบีเอส ตั้งคำถามว่า ฝ่ายกฎหมายไทยพีบีเอสมีความรู้เรื่องกฎหมายแท้จริงเพียงใด แล้วก็ตั้งคำถามต่อไปด้วยว่า ในเมื่อยังไม่ได้ตั้งกรรมการสอบ แล้วจะให้ผู้ถูกสั่งพักงานอุทธรณ์เรื่องอะไร ถามจริงๆ เถอะ คุณตั้งกรรมการสอบสวนความผิดของเขาเรียบร้อยแล้วหรือ...
nn แต่มีประเด็นสำคัญที่ประชาคมไทยพีบีเอสตั้งคำถามคือ ถ้าหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นกับการนำเสนอข่าวโดยแท้จริง แล้วเหตุใดวิลาสินีไม่ตั้งกรรมการสอบผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ทำไมจึงเลือกลงโทษปลาซิวปลาสร้อย หรือมีหลักฐานว่าปลาซิวปลาสร้อยจงใจฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อำนวยการฝ่ายข่าว อย่าลืมว่าการลงโทษใดๆ นั้นต้องลงโทษผู้บริหารด้วย มิใช่เลือกปฏิบัติเอากับปลาซิวปลาสร้อย...
nn แต่ที่หนักหน่วงยิ่งกว่าคือ ประชาคมไทยพีบีเอสเขาฝากถามมาว่า แล้วเรื่องตั้งกรรมการสอบสวนผู้บริหารผู้ถูกร้องเรียนว่ากระทำความผิดร้ายแรงนั้น เรื่องราวไปถึงไหนแล้ว เพราะตั้งกรรมการสอบมานมนานกาเลแล้ว ไม่เห็นมีความคืบหน้าใดๆ ให้ประชาคมรับทราบ แล้วก็มีผู้ถามวิลาสินีว่า เคยกล้าคิดจะสั่งให้ผู้บริหารระดับสูงของไทยพีบีเอสหยุดปฏิบัติหน้าที่บ้างหรือไม่ ทั้งๆ ที่ถูกร้องเรียนว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลเสียอย่างร้ายแรงให้ไทยพีบีเอส...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี