นับเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองที่หมักหมมมายาวนานหลายทศวรรษ แต่ทว่าคนสังคมไทยกลับพูดถึงน้อยมาก ปัญหาใหญ่ที่ว่านั้นคือ เด็กนักเรียนไทยต้องประสบปัญหาได้รับหนังสือแบบเรียนล่าช้าเสียจนเกือบไม่มีหนังสือเรียน บางปีเรียนไปเกือบจะหมดภาคการศึกษาแล้ว แต่กลับเพิ่งได้รับหนังสือแบบเรียน ปัญหาสำคัญเช่นนี้ กระทรวงศึกษาธิการของไทยหลายยุคหลายสมัยไม่สามารถแก้ไขและจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างขุดรากถอนโคน แต่กลับปล่อยให้ปัญหานี้คาราคาซังบั่นทอนคุณภาพ และประสิทธิภาพการศึกษาของชาติซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ปัญหานี้มีต้นตอสำคัญมาจากการทำงานขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนล่าช้า เมื่อมีปัญหานี้เกิดขึ้นก็จึงมีคำถามว่าเหตุใดองค์การค้าฯ จึงทำหน้าที่โดยไม่มีประสิทธิภาพ อันส่งผลกระทบด้านลบต่อการศึกษาของชาติ
ผู้ที่ติดตามเรื่องราวเบื้องหลังเบื้องลึกขององค์การค้าฯมาอย่างยาวนานให้คำตอบชัดๆ ว่าเนื่องจากมีการทุจริตภายในองค์การค้าฯ มายาวนาน เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นโจษขานตามสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับองค์การค้าฯ ว่า เพราะมีมาเฟียหากินอยู่ภายในหน่วยงานเช่นนี้ ส่วนมาเฟียจะมีหน้าตาอย่างไรนั้น คนในสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์การค้าฯ เขายืนยันว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการทุกยุคต่างรับรู้เป็นอย่างดี แต่คำถามคือเมื่อรับรู้ปัญหาแล้วเหตุใดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ จึงไม่สามารถกำจัดมาเฟียภายในกระทรวงที่ตนเองรับผิดชอบได้
ปัญหาชัดแจ้งอย่างหนึ่งที่สาธารณชนรับรู้มานานคือองค์การค้าของ สกสค. มีหนี้สินล้นพ้นตัว ดังเคยมีคำพิพากษาให้องค์การค้าฯ ต้องชำระคืนหนี้สินให้กับเจ้าหน้าที่ทุกรายเพราะหากปล่อยปัญหาทิ้งไว้แล้ว จะส่งผลกระทบต่อการทำงาน และจะทำให้ไม่มีเอกชนรายใดไว้ใจที่จะเข้าไปทำงานร่วมกับองค์การค้าฯ อันจะยิ่งทำให้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการจัดพิมพ์ตำราเรียนให้กับเด็กนักเรียนทุกระดับชั้นของประเทศไทย
ในยุคที่ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ ได้เคยทำหนังสือถึงสำนักงานงบประมาณเพื่อขอเบิกงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นปีงบประมาณ 2562 จำนวน 2,390 ล้าน เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้กับองค์การค้าฯ เพื่อให้เจ้าหนี้ขององค์การค้าฯ ได้รับเงิน และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ยอมทำธุรกิจกับองค์การค้าฯต่อไปในอนาคต
เป็นความจริงที่ว่าองค์การค้าฯ ติดหนี้สินเอกชนจำนวนมากจนทำให้โรงพิมพ์หลายสิบรายที่รับงานพิมพ์หนังสือแบบเรียนให้กับเด็กนักเรียนของไทยเริ่มลังเลใจที่จะทำธุรกิจกับหน่วยงานนี้ ถึงแม้จะเป็นหน่วยงานของรัฐบาลก็ตาม แต่ถึงแม้เอกชนหลายรายเห็นว่าองค์การค้าฯ เป็นของรัฐบาลซึ่งรัฐบาลไม่น่าจะบิดพลิ้วการจ่ายเงินค่าจ้างให้เอกชนก็ตาม แต่เมื่อองค์การค้าฯ ติดหนี้สินจำนวนมาก ก็ทำให้เอกชนไม่มั่นใจว่าจะได้รับเงินค่าจ้างภายในเวลาที่เหมาะสม
กระทรวงศึกษาธิการมีหน้าที่สำคัญคือดูแลจัดการการศึกษาของชาติให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่กระทรวงศึกษาฯ จะไม่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จอย่างแน่นอนหากยังปล่อยให้องค์การค้าของ สกสค. หมักหมมปัญหาเรื่องหนี้สินเอาไว้ เพราะหากแก้ปัญหาหนี้ก้อนมหึมาไม่ลุล่วง ก็จะส่งผลกระทบไปถึงการทำงานขององค์การค้าฯ แล้วปัญหาสุดท้ายจะตกกับนักเรียนซึ่งไม่มีหนังสือแบบเรียนสำหรับใช้ในแต่ละภาคการศึกษา
ปัญหาเรื่องตำราเรียนล่าช้าเป็นภาคการศึกษานั้น เป็นปัญหาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต้องจัดการให้เด็ดขาดภายในเวลาที่รวดเร็ว หากรัฐมนตรีว่าการ รับทราบปัญหาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ไม่สามารถบริหารจัดการแก้ปัญหาที่หมักหมมนี้ได้ก็หมายความว่าบกพร่องในหน้าที่ แต่ก็ต้องย้ำว่าความบกพร่องในเรื่องนี้เกิดขึ้นมายาวนานแล้วในกระทรวงศึกษาธิการ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี