วันนี้ 10 ม.ค. 2563 เวลา 10.00 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษาชี้ขาด
กรณีที่บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด (กลุ่มซีพี) กับพวก ยื่นฟ้องคดีคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท
ไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายต้องเคารพ และถือเป็นโอกาสดีที่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เอกชนร่วมลงทุน) จะได้เดินหน้าต่อเสียที
1. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
เป็นโครงการที่เปิดให้เอกชนเข้าร่วมทุน เพื่อพัฒนาสนามบินและกิจกรรมต่อเนื่องต่างๆ อาทิ การก่อสร้างความพร้อมในการให้บริการและบำรุงรักษาอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 (Terminal 3) และศูนย์ธุรกิจการค้า (CommercialGateway), ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ (Air Cargo) ระยะที่ 2,ธุรกิจซ่อมเครื่องบิน (Maintenance Repair and Overhaul, MRO) ระยะที่ 2,ธุรกิจอุตสาหกรรมอากาศยาน (Free Trade Zone) ฯลฯ
ปัจจุบัน ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา มีทางวิ่ง 1 ทางวิ่ง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เพิ่งเปิดใช้งานไป แต่เอกชนที่ได้เข้าร่วมลงทุนโครงการนี้ ก็จะต้องลงทุนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่หลังที่ 3 และอื่นๆ ต่อไป เพื่อยกระดับศักยภาพของสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติหลักแห่งที่ 3 ของประเทศไทยและธุรกิจต่อเนื่อง เป็นเขตส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อรองรับการขยายตัวของพื้นที่ EEC และเชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารกับสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิต่อไป
มูลค่าลงทุนในโครงการทั้งหมดนี้ กว่า 2 แสนล้านบาท
2. การคัดเลือกเอกชนชะงัก
ก่อนหน้านี้ ในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนที่ยื่นข้อเสนอแข่งขันกัน เกิดข้อพิพาทขึ้นมา
คณะกรรมการคัดเลือกฯ มีมติไม่รับซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง
จำกัด ที่ยื่นมาเกินเวลาที่กำหนด
เอกชนกลุ่มนี้ ประกอบด้วย 1. บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี 2. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) 4. บี.กริม จอยน์ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ 5. Orient Success International Limited
เอกชนกลุ่มนี้ เขาก็ไปยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอความเป็นธรรม
ศาลปกครอง พิพากษายกคำร้อง ชี้ว่า กลุ่มซีพียื่นข้อเสนอ 2 กล่อง(ข้อเสนอด้านเทคนิคฯ-ราคา) เกินระยะเวลาตามที่คณะกรรมการคัดเลือกกำหนดไว้ (ช้าไป 9 นาที) ไม่อาจยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษได้ จะทำให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม
โดยระบุด้วยว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้รับฟังได้ว่า ในวันยื่นซองข้อเสนอเวลาประมาณ 12.21 น. บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก ได้นำข้อเสนอซองไม่ปิดผนึก (กล่องที่ 1) มายังสถานที่รับซอง และเวลา 13.52 น. ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5ได้นำซองข้อเสนออีกจำนวน 8 กล่อง (รวม 9 กล่องจากทั้งหมด 11 กล่อง)เข้ามา ต่อมาในเวลา 15.00 น. คณะทำงานรับและจัดเก็บเอกสารข้อเสนอตรวจสอบหมายเลขซองข้อเสนอที่ระบุบนกล่องข้อเสนอทั้งหมดของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ที่มาถึงสถานที่รับซองแล้ว พบว่า บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก มีความประสงค์จะยื่นข้อเสนอจำนวน 11 กล่อง แต่ข้อเสนอมีเพียง 9 กล่อง โดยขาดข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 (ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ) และกล่องที่ 9 (ซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา) ต่อมาเวลาประมาณ 15.09 น. ซองข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 มาถึงยังสถานที่รับซอง ซึ่งบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวกยอมรับตามคำชี้แจงเพิ่มเติมว่า ส่งมอบเอกสารดังกล่าวล่าช้า เนื่องจากการจราจรติดขัด จึงรับฟังได้ว่า เอกสารซองข้อเสนอของบริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก จำนวน 2 กล่องดังกล่าว มาถึงยังสถานที่รับซอง ภายหลังเวลา 15.00 น. อันเป็นกำหนดเวลาปิดการรับซองตามที่ระบุไว้ในข้อ 31 (1) ของเอกสารการคัดเลือกฯ คณะกรรมการคัดเลือกฯ ย่อมมีหน้าที่ปฏิเสธไม่รับกล่องดังกล่าวไว้พิจารณาในขั้นตอนต่อไปตามที่ระบุไว้ในข้อ 31 (3) โดยไม่สามารถพิจารณายกเว้นให้แก่บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก เป็นกรณีพิเศษได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อเอกชนรายใดรายหนึ่ง และทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้น มติขอคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในการประชุมครั้งที่ 6/2562 วันที่ 10 เม.ย. 2562 ที่ไม่รับซองข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ของบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก ส่วนของซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 กับฉบับสำเนา จึงชอบด้วยกฎหมาย
กลุ่มซีพีสู้ต่อ ในชั้นศาลปกครองสูงสุด
3. ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในส่วนที่ปฏิเสธไม่รับข้อเสนอ ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ และซองข้อเสนอด้านราคา ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาไปแล้ว ซึ่งคณะอนุกรรมการคัดเลือกฯ อยู่ระหว่างนำเสนอผลเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ ชุดใหญ่
อันที่จริง ก็คงรอคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเสียก่อน เพื่อมิให้เกิดปัญหาภายหลัง
ฝ่ายกลุ่มซีพี น.ส.ปะราลี เตชะจงจินตนา แถลงต่อศาลฯว่า
“...โครงการนี้มีผู้ร่วมยื่นซองจำนวนมาก จึงมีการทยอยนำเอกสารมาทุกรายซึ่ง ณ เวลา 16.45 น. ที่บริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก ได้เข้ายื่นเอกสารต่อคณะกรรมการคัดเลือกนั้น มีเอกสารครบถ้วนทุกรายการ และคณะกรรมการได้ตรวจรับไว้ทั้งหมด คณะกรรมการคัดเลือกฯ จึงมีหน้าที่ต้องพิจารณาข้อเสนอทั้งหมด และหากศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกที่ตัดสิทธิบริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก ก็ไม่ได้ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมตรงกันข้ามจะทำให้รัฐได้รับประโยชน์สูงสุด ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกสามารถพิจารณาข้อเสนอของเอกชนทุกรายได้อย่างครบถ้วน สมกับเจตนารมณ์ในการเปิดประมูลครั้งนี้..”
ด้าน พล.ร.ต.เกริกไชย วจนานนท์ เลขานุการคณะกรรมการคัดเลือก แถลงแย้งว่า
“..มีการกำหนดใน RFP ว่า เวลายื่นข้อเสนอคือ 09.00-15.00 น.หากมายื่นหลังเวลา 15.00 น. จะไม่รับพิจารณา เพื่อปิดช่องไม่ให้มีการใช้ดุลยพินิจเรื่องขยายเวลา และผู้ที่ปฏิบัติในสถานที่ดังกล่าวล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจใดๆ หากมีการดำเนินการนอกจากหลักเกณฑ์ที่กำหนด... บริษัทธนโฮลดิ้ง เป็นบริษัทที่มีสายสัมพันธ์กับบริษัทที่ได้สัมปทานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่เพิ่งลงนามกันไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งในการดำเนินการโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ก็ใช้หลักการและระเบียบวิธีการเดียวกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงดังกล่าว โดยมีเงื่อนเวลาเป็นหลักสำคัญ ซึ่งทางกลุ่มผู้ฟ้องก็ปฏิบัติได้ แต่มีข้อสังเกตว่าทำไมในโครงการนี้ถึงทำไม่ได้... การจะอ้างเรื่องจราจรติดขัด ถามว่าทำไมบริษัทที่เข้าร่วมประมูลอื่นจึงทำได้ รวมทั้งยังมีข้อน่าสงสัยว่า เมื่อมาถึงจุดทะเบียนแล้วจริงอยู่ทุกบริษัทเอกสารไม่พร้อม แต่ก็ทยอยนำมาถึงสถานที่ยื่นข้อเสนอในเวลาถัดมาครบทั้ง9 กล่อง มีแต่ของบริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวก ที่มีการทยอยนำมาถึง 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 มาแค่ 7 กล่อง อีก 2 กลุ่มที่เหลือ คือ แผนธุรกิจ และข้อเสนอด้านราคา มาทีหลังเป็นเพราะการมารอบแรกและรอบสองก็เพื่อมาประเมินคู่ต่อสู้ว่ายื่นราคาเท่าไร เพื่อที่ตัวเองจะได้แก้ไขเอกสาร แต่ปรากฏว่าเกิดปัญหาจราจรเลยทำให้เอกสารมาถึงจุดลงทะเบียนเกินเวลา 15.00 น. โดยมาถึงในเวลา 15.09 น.ซึ่งถ้าศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าเรื่องเวลาไม่ใช่สาระสำคัญ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดก็เคยวินิจฉัยในคดีการประมูลก่อสร้างทางหลวงชนบท โดยตัดสิทธิผู้เข้าประมูลที่มายื่นซองช้าหลังกำหนดปิดรับซองไป 39 วินาที โดยกลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีนี้ ให้บริษัทธนโฮลดิ้งได้สิทธิเข้าประมูล เท่ากับเป็นการทำลายระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และอาจทำให้เกิดค่านิยมใหม่ว่าต่อไปใครจะมายื่นซองเวลาไหนก็ได้หากให้ผลตอบแทนกับรัฐสูงรวมทั้งอาจเกิดค่านิยมใหม่ ว่าแม้ทำผิดกฎ แต่มีเงินจ้างทนายเก่ง และให้ประโยชน์รัฐมาก ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้งาน เพราะเงินชดเชยความผิดได้...”
4. จับตาดูว่า สุดท้าย คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดจะออกมาอย่างไร?
ที่แน่ๆ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่มีความสำคัญต่ออีอีซี โครงการนี้ มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท จะได้เดินหน้า ทะยานต่อไปทันที
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี