“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอเริ่มต้นด้วยธรรมะสวัสดีที่ว่า “อนาคต จะดี หรือร้าย !! ขึ้นอยู่กับการกระทำ ไม่ใช่คำอธิษฐาน ท่านใดมีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ท่านใดมีสุขขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป”...
nn สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นภายหลัง “พญาอินทรี” ภายใต้การบริหารประเทศของ “เฒ่าโดนัลด์ ทรัมป์” เจ้าเล่ห์ที่แสดงบทบาทผู้ยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้ด้วยวิธีการจรยุทธ์รุกราน “สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน” จนเป็นเหตุให้ “พล.อ.กาเซ็ม โซไลมานี” นายทหารคนสนิทของผู้นำสูงสุดอิหร่าน “อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี” และผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ของอิหร่าน ในกรุงแบกแดด อิรัก” เสียชีวิต จนเกิดการตอบโต้จากทางอิหร่านด้วยการยิงขีปนาวุธเกินกว่า 20 ลูก ถล่มฐานทัพอากาศกองทัพสหรัฐในอิรัก ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจทั่วโลก...
nn โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ซึ่งล่าสุดที่ตลาดนิวยอร์กปิดราคาสูงขึ้น 3.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลุดระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และเป็นที่คาดหมายว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ในขณะที่สหรัฐได้ประกาศสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอีก 12% หรือราว 1.2 ล้านบาร์เรล ตั้งแต่วันศุกร์นี้ ขณะที่ราคาทองคำก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน...
nn “ไม้หน้าสาม” เคยบอกเล่าเก้าสิบ ไว้ก่อนหน้านี้ว่า “การทุจริต คอร์รัปชั่นโดยนักการเมือง” เป็นความเลวร้ายความอัปยศที่คนไทยทุกชั้นชนไม่สามารถยอมรับได้ไม่ว่าผู้บริหารประเทศคนนั้นจะมาจากระบอบการปกครองใด สัมภเวสี “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” คือบทเรียนล่าสุดที่นักการเมืองไทยพึงสังวร ข้อกล่าวหาทุจริต “สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จังหวัดขอนแก่น”ที่มีชื่อของ “เอกราช ช่างเหลา” ขุนพลอีสาน พรรคพลังประชารัฐ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากที่ผลงานในอดีตเมื่อครั้งที่นั่งเก้าอี้ “ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น” ร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่วันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่สายเอ็น-แกนนำพรรคพลังประชารัฐ” กระโจนตัวออกมากางแขนปกป้อง สำรอกลั่นว่าเรื่องส่วนตัว คดียังไม่ถึงที่สุดยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่างนี้ก็ได้หรือ “ไม้หน้าสาม” เคยติติงไว้ไม่ใช่ขู่ว่าไม่รีบแสดงความกระจ่าง ระวัง“ศพไม่สวย” ทว่าทุกอย่างยังเงียบกริบ ล่าสุด“สมาชิกและกรรมการสหกรณ์” เขาเดือดร้อน ทนไม่ได้ เดินหน้าเข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของสหกรณ์พบว่า เงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนดินแดง (โลตัส ฟอร์จูนทาวน์) กรุงเทพฯ เลขบัญชี 144-101918-9 ที่ประเดิมฝากด้วยเงินก้อนโต 748 ล้านบาท ล่องหนไป เหลือเงินติดบัญชีเพียงแค่ 7 หมื่นบาท ซึ่งการตรวจสอบจะยากยิ่ง เพราะเหตุที่สำคัญยิ่งในรอบ 9 ปี แม้จะมีการเปลี่ยนกรรมการสหกรณ์ไปแล้ว 8 ชุด แต่ทว่าว่าผู้ลงนามทำนิติกรรมในแบงก์ใบโพธิ์เจ้าปัญหา ยังเป็นคนหน้าเก่าเดิมๆ ทั้ง 4 คน หนึ่งในนั้นก็คือ “เอกราช ช่างเหลา” ร่วมอยู่ด้วย “มันแปลกดี น่ะ!!” จึงเกิดคำถามขึ้นว่า หลังการตรวจสอบบัญชีพบว่าเงินขาดบัญชีไปตั้งแต่ปี 2554 แล้วไฉนจึงมีการรับรองบัญชีถูกต้องปกติมาตลอดระยะเวลา 9 ปี คำตอบก็อาจกล่าวได้ว่า“หัวไม่กระดิก....หางก็ไม่ส่าย” ต้องมีการสมเจือกันทำเป็นขบวนการหรือไม่??? ความผิดปกติที่ถูกปกปิดมานี้ อดีตเอ็มดีเอกราชจะไม่รับรู้ หรือข้อสงสัยเลยเชียวหรือ??น่าสนใจที่ว่า เหตุใดจึงถ่อมาเปิดบัญชีถึงกรุงเทพฯ ทั้งที่แบงก์ใบโพธิ์ ขอนแก่น ก็อยู่แค่ปลายจมูกที่ทำการสหกรณ์ฯ ที่สำคัญสัญญาการซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลกับกลุ่มบริษัท 5 เสือ ถึงวันนี้บอกได้คำเดียวว่าเป็น “ดีลที่เสียเปรียบเอกชนทุกประตู” แต่อดีตผู้บริหารก็ยังดึงดันเดินหน้าทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง จนนำไปสู่ความเสียหายครั้งประวัติศาสตร์ แม้เงินที่ขาดบัญชีไปจะมีมูลค่าจิ๊บๆ แค่ 400-1,000 ล้านบาทไม่ทำให้สหกรณ์สั่นคลอน เพราะมีเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้าน ซึ่ง “ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงษ์ ประธานบอร์ด สหกรณ์ครูขอนแก่น จำกัด” ได้ให้คำมั่นกับเหล่าสมาชิก และยังเปิดเผยตัวเลขปี 2562 สามารถฟันกำไรได้ถึง 1,200 ล้านบาท ส่วน “ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ครูขอนแก่น” ก็ให้คำมั่นว่าจะไล่ล่าโจรที่ปล้นเงินสหกรณ์ไปชนิดกัดไม่ปล่อย โดยตำรวจเริ่มเรียกพยานมาสอบปากคำบ้างแล้ว ส่วนจะขยายผลเส้นทางการเงินไปถึงคนโตขาใหญ่เจ้าพ่อหวยหรือไม่ต้องคอยติดตามกันต่อไป เพราะนี่คือ “เรื่องส่วนตัว” ของ “เอกราชช่างเหลา” ตาม “เสียงสำรอก” ของ “ผู้บริหารระดับสูงของประเทศ, อดีตผู้นำกองทัพไทยและประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ” อย่าง “บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” บริภาษไว้ ไม่ใช่เรื่องส่วนรวมที่พรรคพลังประชารัฐจะหวั่นไหวใดๆ...
nn ต้องเร่งโหมงานเพื่ออุดช่องโหว่ เรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้โดยเร็ววัน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ใกล้จะระเบิดศึกซักฟอกของฝ่ายค้าน “พรรคภูมิใจไทย เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่เสียรังวัดไปโข ตั้งแต่ “แพ้น็อกแบน 3 สารเคมีการเกษตร” ล้มเหลว!!ไม่เป็นท่า ส่วนนโยบายเคาะกะลาปลูกกัญชาแก้จน ก็ยังอีกไกลสุดขอบฟ้าแถมงบปี 2563 กระทรวงสาธารณสุขโดนกมธ.งบประมาณหั่นเหี้ยนเตียนหดหายไปกว่า 1,318.3 ล้านบาท เสี่ยหนูจึงต้องวิ่งฝุ่นตลบ สั่งรมต.ในสังกัดเดินหน้าสร้างผลงาน เรียกว่า ยิ่งสูง.....ยิ่งหนาว หยิบชิ้นปลามันไปกิน ได้คุมดูแลกระทรวงเกรดเอแต่ไร้ผลงานก็ แปะเอี่ย!!...
nn แม้แต่กระทรวงสาธารณสุข “เสี่ยหนู” คุมเองยังเอาตัวแทบไม่รอด แบน 3 สารก็แพ้น็อก กัญชาเสรี กลายเป็นแผลใหญ่เพราะยังอีกไกลเหตุติดข้อกฎหมายยาเสพติด “คลินิกกัญชา” จึงถูกจัดตั้งขึ้นมาอย่างเร่งด่วนตาม “นโยบายขายผ้าเอาหน้ารอด” เปิดทางให้คนยากคนจนเข้าถึงการรักษาด้วยน้ำมันกัญชา “ไม้หน้าสาม” รู้สึก “อเนจอนาถจิต” ยิ่งนักความหวังที่จะเห็นการแพทย์แผนไทยจะเติบโตเป็นฮับ เป็นแพทย์ทางเลือก ก็เป็นเพียงแค่ฝันของเด็กอนุบาลขณะที่ “แพทย์แผนจีน” เป็นทางหลักที่โด่งดังไปทั่วโลกเหตุที่ “แพทย์แผนไทยเป็นเต่าต้วมเตี้ยม” เพราะกระบวนการและกฎระเบียบส่งเสริมภูมิปัญญาไทยแพทย์แผนไทยยังมีปัญหามากมาย เคาะกะลาเรียกตำรับยาจากหมอพื้นบ้าน สุดท้ายก็แค่ “กุศโลบายหลอกขอสูตรตำรับยา” แล้วนำไปแสวงหาผลประโยชน์กันเองใน“กองกรมกระทรวง” หมอพื้นบ้านที่ไหนเขาจะไปร่วมสังฆกรรมด้วย “ไม้หน้าสาม” พบมากับตัวเองรับร้องเรียนมาเต็มสองหู อย่างกรณี “หมอเณร-ชัยรัตน์ นนทชัย” ก็เคยยกเป็นตัวอย่างมาให้สดับกันแล้ว ส่วนใครจะขาวจะดำ จะโง่จะฉลาดจะมองผลประโยชน์ของชาติออกแค่ไหนเรื่องเช่นนี้ “ไม้หน้าสาม” หมดปัญญาไปขุนไปสั่งสอนเสนอแนะเยี่ยงคน “ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด” ประจานกันตรงนี้เลยมีขรก.มือดีในสังกัด“เสี่ยหนู” เข้าไปล้วงตับขอสูตรขอตำรับยา หอบยาไปมากมาย อ้างนำไปวิจัยรักษาคนไข้ สุดท้ายก็หายเข้ากลีบเมฆ นี่แหละนโยบายสวยหรูมันจึงเป็นแค่วาทกรรม เศษกระดาษรกตู้เก็บเอกสาร เรื่องกัญชาเสรีก็เพ้อก็ฝันค้างกันต่อไป...
nn ฤๅ ... อาจต้องรอถึงชาติหน้าตอนบ่ายแก่ๆ หลังทานมื้อเที่ยงเสร็จหรือรอนักธุรกิจต่างประเทศเข้ามาศึกษาจนถ่องแท้ ลั่น “...ยูเรคา...” แล้วนำไปต่อยอดกลับมาตั้งโรงงานผลิตขายคนไทยก็มิอาจรู้ได้ประวัติศาสตร์เขียนมาให้อ่านละครโทรทัศน์สร้างมาให้ดูให้ตริตรอง ดันไม่เป็นมรรคเป็นผลไม่เกิดประโยชน์ เรื่องที่ทำได้ทันทีผู้นำบ้านนี้เมืองนี้กลับสายตาสั้นไร้วิชชั่นวิสัยทัศน์ ถ้าส่งเสริมตำรับยาสมุนไพรจะเกิดผลดีโดยรวมต่อเศรษฐกิจประเทศชาติ หากคนไทยปลูกสมุนไพรเป็นสินค้าเศรษฐกิจส่งออกได้ก็จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เกษตรกรจะมีรายได้มากกว่าการปลูกข้าว เช่น กระชาย สามารถขายได้ถึงตันละ 8 แสนบาท ผู้นำที่ชาญฉลาดจะต้องทุ่มเทกับผลงานด้านวิจัยด้านสมุนไพรเพื่อใช้รักษาโรค ไม่ใช่ขึ้นบัญชีดำ หากหมอพื้นบ้านรายใดหัวแข็งฉลาดไม่ยอมตนบอกสูตรยา ก็ไม่ต้องส่งเสริม มันจะเป็นหมอเทวดา ตำรับยาจะดีวิเศษ รักษาเบาหวานหายไม่ต้องตัดขา รักษาโรคหัวใจ ไม่ต้องใส่แบตเตอรี่ ก็ช่างหัวมัน อย่างนี้บ้านเมืองไปไม่รอด “เสือตัวที่ห้าของเอเชีย” ก็ไม่มีโอกาสไปได้ถึงแม้แต่จะคิด...
nn ทิ้งท้ายวันนี้ “ไม้หน้าสาม” แสดงความยินดีและชื่นชมผลงานของเยาวชนไทยในการแข่งขัน “ฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย” ที่ขุนพลลูกหนังไทยประเดิมสนามได้อย่างน่าพิศวง เอาชนะทีมชั้นยอดจากตะวันออกกลางอย่าง “บาห์เรน” ถล่มทลายถึง 5 ประตูต่อ 0 นัดต่อไปจะลงสนามเพิ่มโอกาสเป็นตัวแทนทวีปเอเชียสู้ศึกฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2021 กับ ทีมชาติออสเตรเลีย อย่าลืมกำลังใจและส่งเสียงเชียร์ให้กึกก้อง “ราชมังคลากีฬาสถาน”เพราะนั่นคือพลังที่ไม่มีวันหมดของนักกีฬาไทย และอยากบอกว่า“แสงสว่างใดๆ จะไม่เข้าถึงเราได้ หากเราปิดใจ ... ความมืดใดๆ ไม่อาจปิดกั้นแสงสว่างที่อยู่ในใจเราได้หรอก”...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี