ถุงพลาสติกชนิดบางที่ใช้ใส่สินค้าทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าและตามร้านค้าที่เปิดขายตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลายคนเรียกถุงชนิดดังกล่าวด้วยภาษาชาวบ้านว่า “ถุงกร๊อบแกร๊บ” คือต้นตอของปัญหาขยะล้นเมืองในสังคมไทยจริงหรือ
หรือว่าจริงๆ แล้วปัญหาขยะล้นประเทศไทย เกิดมาจากพฤติกรรมการทิ้งขยะแบบไม่เป็นที่เป็นทางของคนไทยจำนวนไม่น้อย แต่ผู้แก้ปัญหาขยะล้นเมืองในสังคมไทยก็กลับแก้ปัญหานี้ด้วยความไม่รอบคอบ เพราะมีวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างคับแคบมากจนน่าสมเพช
การแก้ปัญหาขยะล้นเมืองในสังคมไทยไม่สามารถแก้ได้ด้วยการงดแจกถุงพลาสติกชนิดบางตามที่หลายฝ่ายหลงงมงายอยู่ในขณะนี้ แต่ปัญหาใหญ่ของสังคมไทยในเรื่องขยะล้นเมืองต้องแก้ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสันดานของคนไทยจำพวกมักง่าย ชอบทิ้งขยะโดยไม่เลือกที่แล้วก็ต้องไปแก้ที่กระบวนการกำจัดขยะในบ้านเมืองของเราด้วย
แน่นอนว่าต่อให้ไม่มีการแจกถุงกร๊อบแกร๊บให้กับผู้ซื้อของอีกต่อไป แต่ก็อย่าหวังเลยว่าปัญหาขยะล้นเมืองไทยจะหมดไป เพราะแม้จะไม่การแจกถุงพลาสติกดังกล่าวอีก แต่ก็ยังมีขยะอีกสารพัดชนิดกระจายอยู่กลาดเกลื่อนทั่วเมืองไทย ยกตัวอย่างเช่น เราจะเห็นว่ามีคนบางจำพวกทิ้งที่นอนหลังมหึมาลงในลำคลอง ทิ้งตู้ไม้อัดลงในแม่น้ำ ทิ้งผ้าอ้อมสำหรับเด็กและคนแก่ชนิดแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หรือที่เรียกว่าแพมเพิร์สไว้ตามริมถนน หรือไม่ก็โยนลงในแม่น้ำลำคลอง รวมถึงยังเห็นขวดน้ำพลาสติก และขวดแก้วสารพัดชนิดถูกทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ ทั้งนี้ ยังไม่นับถึงการทิ้งเสื้อผ้า กางเกงชั้นในเสื้อชั้นใน รองเท้า ถุงเท้า และอีกสารพัดชนิด รวมแม้กระทั่งหิ้งสำหรับตั้งพระพุทธรูป ตลอดจนศาลพระภูมิเจ้าเก่า และกับข้าวเน่าๆ รวมถึงเศษอาหารไว้ตามที่ต่างๆ ดังที่เราได้พบได้เห็นกันเป็นประจำว่ามีขยะที่กล่าวมานั้นถูกทิ้งอยู่เกลื่อนเมือง
อย่าว่าแต่ขยะดังที่กล่าวมาแล้วเลย มีคนบางจำพวกมักง่ายยิ่งกว่า เพราะจอดรถยนต์เก่าทิ้งไว้ตามตรอกซอกซอยทั่วเมือง โดยทิ้งไว้นานเป็นปีๆ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการกีดขวางการสัญจรของผู้คน และยังเป็นที่ซุกซ่อนของเหล่ามิจฉาชีพอีกด้วย
ขอเรียนถามว่าปัญหาดังที่กล่าวมานี้ถือเป็นปัญหาขยะล้นเมืองหรือไม่ แล้วเหตุใดเจ้าหน้าที่บ้านเมืองผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองจึงปล่อยปละละเลย ทั้งๆ ที่เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะปล่อยให้เกิดขึ้นได้เลย ไม่ว่าจะพิจารณาด้วยมุมมองใดก็ตาม
แน่นอนว่า ผู้เขียนไม่ได้เห็นด้วยกับการแจกถุงพลาสติกแบบไร้สติดังที่กระทำกันอยู่ในสังคมไทยในยุคก่อนที่จะห้ามแจก และยืนยันว่าเห็นด้วยกับการลดใช้ถุงพลาสติก แต่ก็ต้องขอย้ำว่าถุงพลาสติกไม่ใช่ปัญหาของขยะล้นเมืองในประเทศไทย เพราะต่อให้ไม่มีถุงพลาสติก ก็ยังคงมีขยะอยู่กลาดเกลื่อนทั่วเมือง
ปัญหาขยะล้นเมืองในบ้านเมืองของเราเกิดมาจากนิสัยมักง่าย ไม่รักษาระเบียบ ไม่รักษาความสะอาดของคนไทยจำนวนไม่น้อย ดังนั้นหากไม่สามารถดัดนิสัย หรือเปลี่ยนนิสัยมักง่ายของคนจำพวกนี้ได้ ก็อย่าหวังว่าปัญหาขยะเกลื่อนเมืองจะหมดไปจากประเทศไทย ทั้งนี้ยังไม่ได้กล่าวถึงประเด็นการไร้วิสัยทัศน์และปราศจากจิตสำนึกของความรับผิดชอบในกลุ่มนักการเมืองจำพวกที่อนุญาตให้ต่างชาตินำขยะสารพัดชนิดเข้ามาทิ้งในบ้านเมืองของเรา ซึ่งต้องบอกว่านักการเมืองจำพวกนี้นี่แหละที่เป็นขยะสังคมโดยแท้จริง ซึ่งก็แสนสมเพชประเทศไทยที่มีนักการเมืองขยะอยู่มิใช่น้อย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี