ผ่านไปแล้วสำหรับกระแสการจัดวิ่งไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ของรัฐบาลผสม 18 พรรค การเมืองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าพวกจัดงานที่อ้างเอาประชาชนมาบังหน้าเป็นพวกใครส่วนใหญ่เป็นพวกพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายแค้นที่เคยถูกคณะทหารก่อรัฐประหารโค่นล้ม ขับไล่รัฐบาลจอมโกงออกไปจากตำแหน่งถึง 2 ครั้ง 2 คราว ในวันที่ 19 กันยายน 2549 และวันที่ 27 พฤษภาคม 2557
ผู้ที่ออกมาขับไล่พลเอกประยุทธ์คงจะไม่ลืมว่ารัฐบาลนักการเมืองที่เป็นพรรคพวกของระบอบทักษิณได้กระทำการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงจนประเทศชาติเสียหายด้วยวงเงินเป็นจำนวนมหาศาลเป็นล้านล้านบาทมิหนำซ้ำยังอาศัยพวกมากลากไปในสภาไปออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่คนที่โกงบ้านกินเมืองเสียอีกด้วยดังมีหลักฐานที่ปรากฏในศาลสถิตยุติธรรมเป็นจำนวนมากมายหลายคดี
กิจกรรมวิ่งล่าลุงตู่ที่มีการจัดทำขึ้นมีจำนวนประชาชนที่ออกมาร่วมไม่มากนักอย่างไรก็ไม่มากเป็นล้านๆคนเหมือนการที่ประชาชนชาวไทยจากทั่วประเทศออกมาไล่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2556 ต่อเนื่องยาวมาหลายเดือนจนถึงการรัฐประหารในวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ประชาชนคนไทยที่เป็นศิษย์เก่าของสถาบันชื่อดังจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียนที่มีชื่อเสียงทั้งของรัฐบาลและของราษฎร์จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ
ได้รวมตัวกันออกมาร่วมไล่รัฐบาลจอมโกงของระบอบทักษิณอย่างมากมายเป็นพันๆ สถาบันคิดเป็นจำนวนคนหลายแสนคนและพวกเขายังช่วยสนับสนุนเงินทองให้กลุ่มประชาชนที่มีชื่อว่า กปปส.เป็นจำนวนนับพันล้านบาท นอกจากนี้บรรดาข้าราชการบำนาญทุกหมู่เหล่าได้ออกมาประกาศความสนับสนุนคณะ กปปส.กันอย่างคับคั่งในขณะที่ประชาชนที่ออกมาชุมนุมขับไล่ลุงตู่นั้นเป็นประชาชนฝ่ายที่ประกาศตัวสนับสนุนระบอบทักษิณมาแล้วทั้งสิ้น
การจัดวิ่งไล่รัฐบาลที่มีพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกนี้ดูแล้วก็เป็นกลุ่มคนหน้าเก่าและหน้าเดิมสายที่แสดงวความสนับสนุนพวกคนโกงบ้านกินเมืองและฉ้อราษฎร์บังหลวงมาแล้วทั้งนั้น เป็นอันว่ากระแสต่อต้านคณะทหารไม่สามารถจุดติดได้ในครั้งนี้พวกที่เป็นสมุนทักษิณต้องกลับไปหาวิธีใหม่เพื่อปลุกระดมมวลชนซ้ำซากกันอีกเพราะนายใหญ่ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆเพราะการล้างแค้นยังกระทำได้ไม่สำเร็จนั่นเอง
ส่วนการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพลเอกประยุทธ์โดยพรรคฝ่ายค้านนั้น แม้จะขอเปิดอภิปรายได้แต่หลักฐานที่มีอยู่ออกจะดูเลื่อนลอยหาหลักฐานอะไรที่เป็นจริงไม่ได้ชัดเจน การขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลคงทำได้แต่ไร้หลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงมากพอที่จะนำมาพิสูจน์ทราบได้
ดีไม่ดีการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพลเอกประยุทธ์คงจะกลายเป็นเรื่องตลกและยังไปงัดเอาหลักฐานในสมัยรัฐบาล คสช. มาโจมตีมันจะกลายเป็นเรื่องตลกที่มโนสาเร่ที่ไร้ราคาเอามาเป็นหลักฐานยืนยันได้เผลอๆ จะถูกตราหน้าว่ารับอามิสสินจ้างมาจากคนแดนไกลที่หนีคดีอยู่ในต่างประเทศมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง ซึ่งจะนำความอับอายและทำหน้าแตกเปล่าๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี