สาเหตุที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องเปลี่ยนแปลงท่าทีไม่สั่งถล่มอิหร่าน 52 จุด หลังการตอบโต้ของอิหร่านสองประการดังกล่าวในตอนก่อนคือสภาคองเกรสไม่เห็นด้วย และฝ่ายนำของกระทรวงกลาโหมส่วนใหญ่เห็นว่าไม่คุ้ม
สาเหตุประการที่สาม ซึ่งมีนัยสำคัญต่อการสงครามระหว่างสหรัฐกับอิหร่านได้แก่พันธมิตรของสหรัฐในตะวันออกกลางไม่มีใครเอาด้วย โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ บาห์เรน คูเวต โอมาน ยูเออีซึ่งล้วนได้รับคำเตือนจากอิหร่านว่าถ้าประเทศใดยินยอมให้สหรัฐส่งเครื่องบินหรือขีปนาวุธออกจากดินแดนของประเทศนั้นไปโจมตีอิหร่านแล้ว อิหร่านจะโจมตีตอบโต้ให้ราบเป็นหน้ากลอง
ประเทศเหล่านี้ไม่มีส่วนได้เสียอะไรโดยตรงกับอิหร่าน ดังนั้นวิสัยของประเทศเศรษฐีเช่นนี้และมีอุปนิสัยที่ไม่ชอบทำสงครามมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อได้รับคำทักท้วงจากอิหร่านจึงพากันคัดค้านไม่ยอมให้สหรัฐใช้ดินแดนของตนเป็นฐานทัพในการทำสงครามกับอิหร่าน
ซึ่งถ้าหากไม่สามารถใช้ดินแดนของประเทศเหล่านั้นแล้ว สหรัฐก็ไม่มีทางที่จะตอบโต้หรือเอาชนะในสงครามกับอิหร่านได้เลย โดยเฉพาะฐานทัพอากาศ ฐานทัพบก และฐานทัพเรือ ก็จะกลายเป็นฐานที่ทำอะไรไม่ได้
ประการที่สี่ บรรดาประเทศพันธมิตรของสหรัฐในนาโตไม่มีใครแสดงท่าทีสนับสนุนสหรัฐเลยแม้แต่ประเทศเดียว เพราะเห็นว่าไม่คุ้มค่าที่สหรัฐจะทำสงครามกับอิหร่านเพราะมีแต่ความสูญเสียแม้ว่าอาจเอาชนะอิหร่านได้ก็ตาม แต่อิหร่านก็มีขีดความสามารถที่จะทำลายให้เกิดความเสียหายย่อยยับแก่สหรัฐและพันธมิตรได้
มูลเหตุจูงใจที่สำคัญในประการนี้ก็คือบรรดาประเทศในกลุ่มนาโต้ถูกสหรัฐกดดันข่มเหงมาเป็นเวลาช้านานแล้ว และหลายประเทศกำลังถูกสหรัฐแซงก์ชั่นที่ไปทำการค้ากับอิหร่านหรือร่วมมือทางการลงทุนต่างๆ กับอิหร่าน และไม่ยอมทำตามที่สหรัฐต้องการ ต่างก็มีความเดือดร้อนจากการกระทำของสหรัฐ จึงต้องการจะให้บทเรียนสั่งสอนสหรัฐสักบทใหญ่
ดังนั้นสถานการณ์สรุปหลังการที่อิหร่านได้โจมตีฐานทัพสหรัฐตอบโต้การลอบสังหารนายพลกอซิม สุไลมานี ก็คือสหรัฐเสียหน้าอย่างยิ่ง เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของประธานาธิบดีทรัมป์ตกต่ำอย่างน่าใจหาย ซึ่งผลของเรื่องนี้อาจกระทบต่อการพิจารณาถอดถอนของวุฒิสภาของสหรัฐด้วย
ที่สำคัญก็คือบรรดาครอบครัวทหารของสหรัฐที่ถูกส่งไปทำการรบในอิรักและซีเรียนั้นเสียขวัญโดยเฉพาะบทเรียนอันเจ็บปวดจากสงครามเวียดนามที่ชาวอเมริกันต่อต้านสงครามอย่างกว้างขวางทั่วประเทศในยุคกระโน้น ได้ถูกยกขึ้นมากระตุ้นเตือนชาวอเมริกันอย่างกว้างขวางอีกแล้ว
ทำให้บรรดาครอบครัวทหารที่ถูกส่งไปรบพากันโศกเศร้าและห่วงใยในชะตากรรมของทหารที่ไปรบ อาการเสียขวัญเช่นนี้ก็คือลางแพ้ที่สำคัญของการสงคราม เพราะสภาพจิตใจและขวัญทหารในลักษณะนี้ไม่อาจทำการรบเอาชนะข้าศึกได้
เพราะเหตุนี้ท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์จึงออกมาในลักษณะที่จะใช้การแซงก์ชั่นแทนที่จะใช้มาตรการทางการทหาร โดยยังคงยืนยันว่าจะไม่ยินยอมให้อิหร่านผลิตอาวุธนิวเคลียร์เป็นอันขาด ซึ่งในประการนี้อิหร่านมิได้สนใจและเดินหน้าแผนการเริ่มต้นในการผลิตนิวเคลียร์ต่อไปแล้ว
คาดว่าอิหร่านสามารถบรรลุแผนการดังกล่าวได้ในเวลาอันรวดเร็วเพราะปัจจุบันนี้จีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ รวมทั้งปากีสถานก็สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ อิสราเอลก็ผลิตได้
อิหร่านซึ่งเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้มาช้านานแล้ว ดังที่ปรากฏจากถ้อยแถลงของผู้บัญชาการกองทัพกุซคนใหม่คือนายพลคอลีว่าอิหร่านรอวันนี้มานานแล้ว และได้เตรียมการเพื่อการสงครามมานานแล้ว จึงน่าที่จะมีขีดความสามารถที่จะบรรลุผลสำเร็จในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้อย่างรวดเร็ว
ต้องไม่ลืมว่าจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ คือพันธมิตรที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้นของอิหร่านและมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะเกาหลีเหนือนั้นถ้าหากสังเกตการเคลื่อนไหวในอดีตก็จะพบว่ามีจังหวะก้าวการเคลื่อนไหวทางการทหารที่สอดคล้องกับอิหร่านมานานแล้ว และบรรดาอาวุธร้ายแรงทั้งหลายไม่ว่าทั้งของอิหร่านหรือของเกาหลีเหนือก็ยากที่จะแยกแยะจำแนกได้ว่าอาวุธใดทำในเกาหลีเหนือหรืออิหร่าน กระทั่งอาจจำแนกไม่ได้ว่าอาวุธไหนทำในรัสเซียหรือจีน หรืออิหร่านหรือเกาหลีเหนือ
โดยสภาพเช่นนี้ทั่วโลกอาจจะตกตะลึงพรึงเพริด โดยคาดคิดไม่ถึงก็ได้ว่าจากนี้ไปไม่กี่วันอิหร่านอาจจะประกาศความพร้อมว่าได้ประสบความสำเร็จในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์แล้วก็ได้
และนั่นก็หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจลอบสังหารนายพลกอซิม สุไลมานี ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งแทนที่จะทำให้อิหร่านอ่อนแอลง อาจกลับทำให้อิหร่านเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นอีกประเทศหนึ่งอย่างเป็นทางการ
สถานการณ์ล่าสุดแม้ว่าไม่ปรากฏข่าวการยิงถล่มกันดังที่ทั้งสองฝ่ายกล่าวอ้าง แต่ต้องไม่ลืมว่าธงสีเลือดอันเป็นสัญลักษณ์ของการล้างแค้นหนี้เลือดยังคงสะบัดพลิ้วอยู่เหนือมหาสุเหร่าของท่านอิหม่ามมะดีฮ์พระผู้มาโปรดพระองค์ใหม่ที่ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์รอคอยการอุบัติของพระองค์
และย่อมหมายความว่า การล้างแค้นหนี้เลือดรายนี้ยังดำเนินต่อไป เพียงแต่ว่าจะดำเนินในลักษณะสงครามระหว่างประเทศ หรือในลักษณะสงครามประชาชน หรือในลักษณะสงครามตัวแทน หรือในลักษณะสงครามพลีชีพเพื่อสงครามศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในไม่ช้าคงจะได้เห็นรูปโฉมนี้ว่าจะเป็นไปในทางใด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี