“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ยึดมั่น “จรรยาบรรณ” ยืนหยัด “อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอน้อมนำกระแสพระราชดำรัส “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” มาเป็นหลักชัยในการดำรงชีวิตและฉุกคิดตริตรองแก่ปวงชนชาวไทยทุกๆ ท่านความว่า “การมีเสรีภาพนั้นเป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้จำเป็นจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้มิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความปกติสุขของส่วนรวมด้วย” พระราชทานไว้ ณ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2514 แก่ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ “ไม้หน้าสาม” หวังเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ก่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยอ้างเอากลุ่มมวลชนที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบทางเศรษฐกิจ จักได้ฉุกคิดและน้อมนำพระราชดำรัสมาเป็นสมมุติฐานในการดำเนินการต่างๆ ในทางการเมืองที่คิดและปลุกเร้าประชาชนว่าอยู่อย่างไร้สิทธิเสรีภาพ ใต้ระบอบเผด็จการ...
nn มัวแต่คิดจะเตือนสติ “พวกกะโหลกหนาปัญญากระบือ” จนลืมแสดงความเสียใจกับทีมนักตบ “ลูกยางหญิงทีมชาติไทย”ที่ไม่สามารถสานฝัน 7 เซียนตำนานตบลูกยางหญิงไปประกาศศักดาในกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังแพ้ทีมชาติเกาหลีใต้ 3 ต่อ 0 เซตอย่างไร้ข้อครหา “ไม้หน้าสาม” ต้องยกย่องหัวจิตหัวใจในการต่อสู้อย่างเต็มเปี่ยมและชื่นชมกับบทสัมภาษณ์ของ “หน่อง-ปลื้มจิตร์ ถินขาว” หลังพ่ายแพ้ในเกมการแข่งขัน “ที่ยืนยันในความเพียรพยายามไม่ท้อถอยและมีความหนักแน่นรู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้จักให้อภัย สนับสนุนและมุ่งมั่นที่จะต่อสู้และช่วยเป็น นักกีฬาตัวอย่างให้รุ่นน้องได้ต่อสู้เพื่อฝันของตนเองต่อไป ผู้มีน้ำใจเป็นนักกีฬาเป็นผู้ที่มีประโยชน์ต่อสังคม และน่าคบหาสมาคมด้วยอย่างยิ่ง” “ไม้หน้าสาม”เลี้ยวรถวกกลับมาประเด็นทางการเมืองที่ผ่านมา...
nn ผ่านไปแบบสบายมือ สำหรับ “ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563” วงเงินกว่า 3.2 ล้านล้านบาท น่าสนใจยิ่งสำหรับจำนวน สส.ที่โหวตหนุนพ.ร.บ.งบปี 2563 นอกจากเสียง สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่ลงคะแนนเป็น “เอกภาพ” ยังมีเสียงจาก สส.จากพรรคฝ่ายค้านที่มองเห็นประโยชน๋ของชาติมากกว่าพวกพ้องมาเชียร์รัฐบาล“ลุงตู่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” หากโฟกัสลงไปพบว่ามีสส.จากพรรคเพื่อไทย 1 คน คือสส.ปทุมธานี อดีตนักร้องชื่อดัง “ก้อย-พรพิมล ธรรมสาร” ซึ่งถูกสมาชิกฝ่ายค้านกล่าวหาว่าเธอคือ “งูเห่า” มาก่อนหน้านี้แล้ว และพรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 5 คน โดยเฉพาะพรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมหนุนรัฐบาลชนิดยกพรรค เว้นเพียงแค่ "ป้ามิ่ง-มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” หัวหน้าพรรคเท่านั้น เมื่อสมการเป็นเช่นนี้ ก็พอหลับตาเห็นอนาคตรัฐบาลลุงตู่แล้วล่ะว่า อยู่ยาว อยู่สบายๆ จนครบเทอม จะห่วงก็แค่ว่า อย่าเดินหกล้มเหตุสะดุดขาตัวเองเท่านั้นแล้วกัน โดยเฉพาะกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่บรรดาพรรคเล็กเรียกร้องมาตั้งแต่ครั้งฟอร์มรัฐบาล โดยเฉพาะ “พรรคพลังท้องถิ่นไท” ของอดีตสว.คนดังคนหนึ่ง“ชัช เตาปูน - ชัชวาลล์ คงอุดม” วันนี้รวบรวมสส.ในมือ ผสมที่ฝากเลี้ยงรวมกว่า 10 ที่นั่ง รัฐบาลจะจัดสรรโควตาให้ไปนั่งกระทรวงหรือดูแลกระทรวงไหนเพราะแค่ “ชื่นชอบ คงอุดม” นั่งเก้าอี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีคลัง ย่อมเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลทางการเมืองหรือไม่???...
nn ยังเกาะติดสืบตามกันต่อไปสำหรับความไม่โปร่งใสในการบริหาร “สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด” คดีส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับพรรครัฐบาลของ “เอกราช ช่างเหลา” สส.พรรคพลังประชารัฐและอดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น สร้างผลงานชิ้นโบดำไว้จนถูกกรรมการสหกรณ์ฯ และมวลสมาชิกฯ ตรวจสอบจนพบความผิดปกติเงินขาดหายไปจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาดินแดง กรุงเทพฯ กว่า 400ล้านบาท ที่สำคัญยังพบด้วยว่า มีการนำเงินไปซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกเช็คเงินสดจำนวนกว่า 700 ล้านบาท ค้ำประกันกับบริษัทเอกชน จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามเงินดังกล่าวกลับคืนสหกรณ์ได้ และหากสืบค้นลงไปก็จะพบว่า สหกรณ์ฯทำสัญญาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่วงการหวย คือ “บริษัท หยาดน้ำเพชร” และ “ขวัญฤดี” เอ่ยชื่อ 2 ธุรกิจเอกชนนี้คนในวงการต่างรู้ดีว่าเป็นของใคร มีสัมพันธ์กับใคร สำหรับ “การทำนิติกรรมว่าด้วยเรื่องหวยของสหกรณ์ครูขอนแก่น” ถึงตรงนี้ต้องส่องไปถึงสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น “เอกราช ช่างเหลา”กับ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ทั้งสองต่างก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อ ทำมาค้าขายประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่างงดงาม และกลายเป็นขุนพลภาคอีสาน ผลักดันให้การเลือกตั้งซ่อมสส.ขอนแก่นสามารถคว้าชัยชนะเหนือพรรคเพื่อไทยได้อย่างสวยหรู แม้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในสหกรณ์ครูขอนแก่นจะมีตัวเลขราวพันกว่าล้านบาท ย่อมไม่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อเสถียรภาพความมั่นคงของสหกรณ์ฯขนาดใหญ่ที่มีเงินหมุนเวียนกว่าหมื่นล้านและมีทรัพย์สินกว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่ทุกบาททุกสตางค์ก็เป็นเงินบริสุทธิ์ เป็นเงินของข้าราชการครู ข้าราชการบำนาญ คงไม่นานเกินรอทีมกฎหมายสหกรณ์ฯจะรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีไล่ล่าหาตัวคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ใครเป็นใคร คงจะได้รู้ในเร็ววันนี้...
nn ณ วันเวลานี้ “ไม้หน้าสาม” ไม่ทราบด้วยประการทั้งปวงว่า “กระทรวงสาธารณสุข” ยกเมฆตำราตำรับสมุนไพรไทยมาจากไหน เข้าใจ?!!?!!?อะไรกันผิดอยู่หรือเปล่า เพราะที่เที่ยวโปรโมทกันอยู่นี้มันไม่ใช่เหรอ !?!?! วิธีการหรือตำรับยาสมุนไพรไทย “น้ำมันกัญชา” ไม่ใช่กรรมวิธีแพทย์แผนไทย หากแต่ใน “ตำรับยาไทย” กำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องใช้ราก ต้น ใบ ดอก ฯลฯ ไม่ปรากฏเลยว่าตำราเล่มใดจะระบุให้มีการสกัดสารจากกัญชา ถือเป็นการละเลยภูมิปัญญาดั้งเดิม และพากันหลงทางครั้งประวัติศาสตร์ ทุ่มเถียงกันไม่จบไม่สิ้นกรณีน้ำมันกัญชา หากแต่ผู้รู้จริงเกี่ยวกับแพทย์แผนไทย เป็นหมอพื้นบ้าน เป็นหมอสมุนไพรตัวจริงเสียงจริง เขาไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับกระทรวงสาธารณสุข ด้วยท่านผู้ทรงภูมิปัญญาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อมั่นว่า หน่วยงานราชการเหล่านี้จะมีความจริงใจส่งเสริมแพทย์แผนไทยอย่างแท้จริงเพราะอย่างไรหมอหนูไม่สนใจหาเหตุให้กระจ่างแจ้ง บ้างรึ “ผลงานหมอพื้นบ้านดีๆ มากมายไม่ได้รับการส่งเสริม แม้แต่แพทย์แผนปัจจุบันหลายคนก็ยอมรับว่า การแพทย์แผนไทยมีตำรับยาดีๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งกระบวนการรักษามีประสิทธิภาพมีผลดีต่อผู้ป่วย” เพราะหลายกรณีคนไข้ไม่สามารถรักษาโรคร้ายจากแพทย์แผนปัจจุบันได้ แต่เมื่อรับยาสมุนไพรก็หายขาดจากโรคร้าย ปัญหาใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุขก็คือ ต้องหาคนที่มีความรู้ความเข้าใจในแพทย์แผนไทยอย่างแท้จริงยกเครื่องการแพทย์แผนไทยให้เป็นแพทย์ทางเลือก ไม่ใช่เป็นแพทย์ทางผ่านงบประมาณจัดทำยาเชิงเดี่ยว ยาลม ยาหม่อง เช่นทุกวันนี้ หาไม่แล้วตำรับยาสมุนไพรไทย ภูมิปัญญาบรรพชนคงถึงคราวล้มหายไปแต่ในชั่วอายุเราเป็นแน่...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” สะกิดเตือนฝุ่นละออง PM2.5 บั่นทอนคุณภาพชีวิตคนไทย ล่าสุด “กรุงเทพมหานคร”ติดอันดับเมือง “อากาศ”ยอดแย่อันเป็นผลมาจากฝุ่นละออง PM2.5 โดยอยู่เป็นเมืองอันดับสองของเมืองในประเทศกลุ่มอาเซียน ซึ่งอันดับหนึ่งได้แก่ “นครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” เป็นลำดับที่ 19ของโลก วัดค่าได้โดยเฉลี่ย 151 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตภาคเหนือ อีสาน กลาง และตะวันตกของประเทศ
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี