ราคาผลปาล์มน้ำมันพุ่งไปที่ 6-7 บาท/กิโลกรัม ต้องยกเครดิตให้ ลุงสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เพราะสามารถทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มยิ้มออกแล้วหลังจากที่บักโกรกมานาน ราคาขนาดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินไปช่วยอุดหนุนชาวสวนปาล์มอีกแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย จากสมาพันธ์ปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย และสมาคมปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สระบุรี สกลนคร ปทุมธานี ตรัง กระบี่ ได้เข้าพบลุงสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เพื่อขอบคุณกระทรวงพลังงานที่ได้ผลักดันนโยบายการบังคับใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ถูกต้องและเข้าถึงเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ช่วยยกระดับราคาปาล์มน้ำมันให้สูงขึ้น สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั่วประเทศ พร้อมขอร้องให้ผลักดันโครงการดีๆ แบบนี้ต่อไป โดยไม่มีการนำเข้าน้ำปาล์มจากต่างประเทศด้วย
เกษตรชาวสวนปาล์มมีโอกาสได้นั่งโต๊ะคุยกับรัฐมนตรีถือว่าไม่ธรรมดานะครับ
ทาง รมว.พลังงาน ก็อธิบายกลยุทธ์ทำให้ราคาปาล์มพุ่งสูงขึ้น ส่วนหนึ่งคือการผลักดันนโยบายน้ำมัน B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานของประเทศ ซึ่งในเดือนมีนาคม 2563 นี้ จะสามารถจำหน่าย B10 ได้ทุกสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ขณะนี้ยอดการใช้ B10 ถือว่าเติบโตเร็วมาก ซึ่งเป็นเพราะความเชื่อมั่นจากนโยบายที่กำหนดไว้จะไม่เปลี่ยนสัดส่วนของ B10 ไม่ว่าสต๊อกของปาล์มจะเป็นอย่างไรก็ตาม ทำให้ตลาดเกิดความเชื่อมั่นทั้งค่ายรถยนต์ ทั้งผู้ประกอบการโรงกลั่น
น้ำมันไบโอดีเซล B10 คือ น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10%ทุกลิตร
“ต้องถือว่านโยบาย B10 เป็นกลไกสำคัญ มีส่วนแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันได้เหมือนดังที่พี่น้องเกษตรกรมาแลกเปลี่ยนในวันนี้ แต่สิ่งที่จะต้องเดินหน้าต่อจากนี้ไปคือ การบริหารกลไกตลาด ซึ่งสำหรับกลไกที่มีอยู่ของทางกระทรวงพลังงานเชื่อมั่นว่า จะรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ แต่คงต้องทำงานใกล้ชิดกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับพี่น้องเกษตรกร รวมทั้งกลไกด้านผู้ค้าด้วย ซึ่งในส่วนของไบโอดีเซล(B100) ได้เตรียมการรองรับไว้ระดับหนึ่งแล้ว เร็วๆ นี้จะเตรียมติดตั้งมิเตอร์ในถัง B100 เพื่อติดตามตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ และสามารถบูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ที่เตรียมติดมิเตอร์ในส่วนของ CPO อีกด้วย” รมว.พลังงานระบุ
และว่าในอนาคตมีความเป็นไปได้ในเรื่องของตลาดซื้อขายล่วงหน้า โดยอาจจะนำสต๊อก B100 มาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อช่วยลดผลกระทบเรื่องฤดูกาล และช่วยบริหารสต๊อก ช่วยรักษาเสถียรภาพราคาได้ระดับหนึ่ง
“ผมไม่ได้หวังผลเรื่องราคาปาล์มน้ำมันอย่างเดียว เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือ ต้องการให้เกิดมาตรฐานปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพ หวังจะยกระดับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน สร้างการเติบโตแบบยั่งยืนให้กับชาวสวนปาล์ม”
ในการพบปะหารือ หนนี้ทางตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มฯ มีข้อห่วงกังวลเรื่องต่างๆ อาทิ เรื่องการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เรื่องฤดูกาลช่วงก.พ.-เม.ย. ที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันจะออกสู่ตลาดมาก เรื่องกลไกตลาดที่มีผลกระทบต่อราคา เป็นต้น
ด้าน นายชโยดม สุวรรณรัตนะ ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ตัวแทนสมาพันธ์สวนปาล์มภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้จะเริ่มใกล้สู่ฤดูกาลที่ปาล์มจะล้นตลาดแล้วคือช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.
และยังกังวลเรื่องการปั่นราคาปาล์มสูงเกินจริงเพื่อให้เกิดการนำเข้า จึงอยากให้ทางการเตรียมมาตรการรองรับ
ผ่านมาหลายปีราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่ 1.80 บาทต่อกิโลกรัม แต่ต้นทุนการปลูกอยู่ที่3.60 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนเรื่อยมา วันนี้ปาล์มน้ำมันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6-7 บาทต่อกิโลกรัม เพราะนโยบายส่งเสริม B10 ของ รมว.พลังงงาน
ครับราคาผลปาล์ม คงจะทรงตัวอยู่ที่6-7 บาท ต่อกิโลกรัมแล้ว ขออย่างเดียวอย่าปล่อยให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศแม้แต่หยดเดียว ไม่ว่าโดยถูกกฎหมายหรือลักลอบเข้ามา เพราะจะเป็นการทำร้ายชาวสวนปาล์มโดยอัตโนมัติ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี