อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) 2 คนถูกชี้มูลคดีทุจริตเงินทอนวัด และถูกชี้มูลร่ำรวยผิดปกติทั้งสองคน
1. เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงข่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์ที่จัดสรรให้วัดพนัญเชิงวรวิหาร ประจำปีงบประมาณ 2557 และปีงบประมาณ 2558
ระบุว่า จากการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ที่ได้ยื่นไว้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบว่า นายนพรัตน์เบญจวัฒนานันท์ และนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์ (คู่สมรส) มีการนำฝากเงินซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน รวมทั้งมีการซื้อที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ และซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตจำนวนมาก ซึ่งไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่พึงมี
มีมติชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปติ มูลค่าทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติทั้งสิ้นจำนวน 575,170,566.33 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้เป็นการชั่วคราวแล้ว จำนวน 176,032,978.79 บาท
2. กรณีนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกตินั้น ประธานคณะกรรมการไต่สวน คือ นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. มือปราบทุจริตฝีมือเยี่ยม
นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นกรรมการไต่สวน
ผลการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า ขณะที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2553-30 กันยายน 2557 พบเงินฝากและทรัพย์สินต่างๆ ของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ และนางพัทธานันท์เบญจวัฒนานันท์ (คู่สมรส) รวมทั้งบุคคลใกล้ชิด ได้แก่ นางธาริณีดิตถ์วัชรไพศาล (อดีตคู่สมรส) บุตรหลาน และบุคคลอื่น โดยคณะกรรมการไต่สวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้บุคคลทั้ง 8 คน ชี้แจงที่มาของทรัพย์สินแล้ว แต่บุคคลดังกล่าวไม่สามารถพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินได้ ดังนี้
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ จำนวน 98,659,925.59 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 13 บัญชี เป็นเงิน71,974,350.59 บาท, เงินลงทุน จำนวน 4 รายการ เป็นเงิน 12,580,000 บาท และกรมธรรม์ประกันชีวิต จำนวน 12 กรมธรรม์ มูลค่า 14,105,575 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานันท์(คู่สมรส) จำนวน 196,039,741.59 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 22 บัญชี เป็นเงิน 122,921,190.40 บาท, เงินลงทุน จำนวน3 รายการ เป็นเงิน 6,815,695.39 บาท, ที่ดินในจังหวัดจันทบุรี จำนวน 1 แปลง มูลค่า 760,000 บาท, ยานพาหนะ จำนวน 1 คัน มูลค่า 3,809,000 บาท และกรมธรรม์ประกันชีวิต จำนวน 10 กรมธรรม์ รวมมูลค่า 61,733,855.80 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางธาริณี ดิตถ์วัชรไพศาล (อดีตคู่สมรส) จำนวน 131,437,217.45 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 56 บัญชี เป็นเงิน105,151,313.88 บาท, เงินลงทุน จำนวน 25 รายการ เป็นเงิน 25,235,903.57บาท และยานพาหนะ จำนวน 1 คัน มูลค่า 1,050,000 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนายธนรัตน์ ดิตถ์วัชรไพศาล (บุตร) จำนวน26,726,284.56 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 10 บัญชี เป็นเงิน 20,843,037.56 บาท, ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในจังหวัดสมุทรปราการ 1 รายการ มูลค่า 1,800,000 บาท, ยานพาหนะ จำนวน 1 คัน มูลค่า 1,014,000 บาท และกรมธรรม์ประกันชีวิต 4 กรมธรรม์ รวมมูลค่า 3,069,247 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางสาวพิมพ์ภัสสร ดิตถ์วัชรไพศาล (บุตร) จำนวน 68,307,397.14 บาท ได้แก่ เงินฝาก จำนวน 31 บัญชี เป็นเงิน 50,597,774.14 บาท, เงินลงทุน จำนวน 19 รายการ เป็นเงิน 9,750,000 บาท,ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวม 3 รายการ (ในกรุงเทพมหานคร 2 รายการ และจังหวัดสมุทรปราการ 1 รายการ) รวมมูลค่า 5,856,489 บาท และกรมธรรม์ประกันชีวิต 3 กรมธรรม์ รวมมูลค่า 2,103,134 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางสาววรัทยา พรหมมาศ (หลานของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์) จำนวน 500,000 บาท ได้แก่ ห้องชุด จำนวน 1 ห้อง ในจังหวัดชลบุรี มูลค่า 500,000 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนายปิยชาติ ศรีจันทร์ (บุคคลสนิทของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์) จำนวน 4,500,000 บาท ได้แก่ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1 รายการ ในกรุงเทพมหานคร มูลค่า 4,500,000 บาท
ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของนางสาวณัฎฐาภรณ์ ทุน (บุตรของนางพัทธานันท์เบญจวัฒนานันท์) จำนวน 49,000,000 บาท ได้แก่ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง1 รายการ ในกรุงเทพมหานคร มูลค่า 49,000,000 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติทั้งสิ้น ประมาณ 575 ล้านบาท
3. หลังจากนี้ ป.ป.ช.ก็จะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพื่อขอให้ทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน ต่อไป
ผู้เกี่ยวข้องยังมีสิทธิต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
4. สำหรับคดีทุจริตเงินทอนวัด ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้เป็นเหตุให้นำมาสู่การตรวจสอบทรัพย์สินในฐานร่ำรวยผิดปกติด้วยนั้น ได้แก่ กรณีทุจริตเงินทอนวัดพนัญเชิงวรวิหาร ปีงบประมาณ 2557
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ชี้ว่า นางสาวประนอม คงพิกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน ได้ติดต่อวัดพนัญเชิงวรวิหาร ว่า จะจัดสรรเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัดให้ จำนวน 10 ล้านบาทแต่เมื่อวัดได้รับเงินแล้วให้โอนเงินจำนวน 8 ล้านบาทเข้าบัญชีเงินฝากของนางชมพูนุท จันฤาไชย ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.พศ.ขณะนั้น หลังจากนั้น นางสาวประนอมได้จัดทำเอกสารการอนุมัติเงินอุดหนุนให้แก่วัด เสนอให้นายนพรัตน์อนุมัติเงินอุดหนุน โดยไม่มีคำขอรับเงินอุดหนุนของวัดพนัญเชิงวรวิหารประกอบการพิจารณาอนุมัติตามระเบียบแบบแผนราชการ และหลังจากที่ พศ. ได้โอนเงินอุดหนุนให้แก่วัดพนัญเชิงวรวิหาร 10 ล้านบาทแล้ว วัดได้โอนเงินกลับคืน 8 ล้านบาท เข้าบัญชีเงินฝากของนางชมพูนุท แล้วนำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต
5. ในส่วนของการทุจริตเงินทอนวัดพนัญเชิงวรวิหารนั้น อดีต ผอ.พศ.อีกคน คือ นายพนม ศรศิลป์ ก็ถูกชี้มูลความผิด จากกรณีทุจริตเงินทอนในปีงบประมาณ 2558
ป.ป.ช.ชี้ว่า นางสาวประนอมได้ติดต่อวัดพนัญเชิงวรวิหารอีก และแจ้งว่าจะโอนเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์ฯให้แก่วัด 10 ล้านบาทแต่ครั้งนี้มีเงื่อนไขว่าวัดจะต้องคืนเงินสด 5 ล้านบาท หลังจากนั้นนางสาวประนอมได้จัดทำเอกสารการขออนุมัติเงินอุดหนุนให้แก่วัด เสนอนายพนม ศรศิลป์ ขณะนั้นรักษาราชการแทน ผอ.พศ. พิจารณาอนุมัติแบบเดิมกับงบปี’57 และหลังจากวัดได้รับงบประมาณ ก็นำเงินสด 5 ล้านบาท ไปมอบให้แก่นางสาวประนอม แล้วนำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต
อย่างไรก็ตาม อดีต ผอ.พศ.ทั้งสองคน ยังมีคดีทุจริตเงินทอนวัดอีกมากมายหลายคดี
สำหรับคดีร่ำรวยผิดปกติ นายพนม ศรศิลป์ ถูกชี้มูลร่ำรวยผิดปกติ216 ล้านบาท ระบุว่า ทรัพย์สินอยู่ในชื่อภรรยา 3 คน และญาติพี่น้อง(เฉพาะที่เป็นเงินฝาก 16 แห่ง เป็นเงิน 163,022,595 บาท)
นายนพรัตน์ ถูกชี้มูลร่ำรวยผิดปกติ 575 ล้านบาท อยู่ในชื่อตนเองภรรยา และอดีตภรรยาด้วย
อาจเรียกว่า แบ่งๆ กันร่ำรวยผิดปกติ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี