“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ยึดมั่น จรรยาบรรณ ยืนหยัด “อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” เรียงร้อยข้อเท็จจริงทุกคำทุกบรรทัดทุกตัวอักษรบอกเล่าความเคลื่อนไหวทั้งทางการเมืองที่ฟอนเฟะ เศรษฐกิจที่ดิ่งเหว และสังคมที่ก้าวร้าว ข่มขู่ โดยไม่ได้ต้องการให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือก๊วนค่ายหนึ่งค่ายใดแต่นำเสนอเพื่อเป็นข้อเสนอแนะเพื่อให้ผู้รับผิดชอบนั้นๆ ได้สติมีปัญญาฉุกคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ ของ “เทือกเถาเหล่ากอ” ใคร...
nn “ไม้หน้าสาม” ขอเรียงร้อยข้อเท็จจริงด้วยกระแสข่าวการ “ยุบสภาฯ” !?!?! ดังขึ้นมาระหว่างที่พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งสำรอก ทั้งเห่าหอนโหยหวน “เปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” แม้ยังไม่มีญัตติที่ชัดเจนจากฝ่ายค้าน แต่ก็พอคาดเดาได้ว่า “พี่น้อง 3 ปอ-ประยุทธ์-ป้อม-ป๊อก” จะเป็นเป้าหมายหลักที่จะถูกจับจองกฐินถูกจับขึ้นเขียงชำแหละสาแหรกความล้มเหลวในการบริหารบ้านเมืองในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมา แม้จะมีกระแสข่าวย้อนแย้งพอเป็นกระษัยว่า ฝ่ายค้านจะละเว้นไม่ลงดาบอภิปรายซักฟอก “พี่ใหญ่ใจโตตัวเตี้ยอย่างลุงป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี เพราะต้องการกรุยทางร่วมรัฐบาลในอนาคต หาก “พรรคประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” ไม่ทำหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลที่ดีได้ แต่ดีลนี้มองเหลี่ยมไหนก็เป็นไปได้ยากลำบากยิ่งอย่างไรก็ตาม การเมืองเรื่องผลประโยชน์ “รบไป..คุยไป” อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ “ไม้หน้าสาม” เคยเตือนมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ศึกนอกยังไม่เท่าศึกภายใน “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน” เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในพรรคอนาคตใหม่ของ “ตี๋ทอน-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” มาแล้ว โฟกัสไปที่พรรคประชาธิปัตย์ แฟนคลับคอการเมืองมองว่า ปชป.เดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? แม้แต่สมาชิกสส.ประชาธิปัตย์เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ “เลือดไหลไม่หยุด” มันสมองก้อนโตหลั่งไหลออกจากพรรคไม่ขาดสาย ในยุคของ “พี่ตู่-อู๊ดด้า-จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ที่ประกาศรังสรรค์ยอดมนุษย์ “อเวนเจอร์ส”ไม่มีอยู่จริง...
nn “กรณ์ จาติกวณิช” มือเศรษฐกิจอดีตขุนคลังคู่ใจ “หนูมาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” โบกมือลาต้นสังกัดด้วยความขมขื่น รายนี้ไม่ได้ออกเพื่อย้ายไปสังกัดไปพึ่งใบบุญลุงป้อมและพลังประชารัฐ อย่าง “พี่ตุ๋ย-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่หันหลังให้ “ก๊วนพระแม่ธรณีบีบมวยผม” ไปก่อนหน้านี้ทว่า “บุตรชาย ซูเปอร์เค-เกษม จาติกวณิช” กลับรวบรวมประสบการณ์ทางการเมืองตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่ร่วมทุกข์สุขกับประชาธิปัตย์ หมายมั่นร่วมกับกลุ่มคนหนุ่มวัยรุ่นไฟแรง ก่อร่างสร้างพรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างกว้างขวางความเคลื่อนไหวนี้ ถูกขนานนามว่าเป็น “จุฬา คอนเนคชั่น” ขึ้นมาทันทีเมื่อมีกระแสข่าวแว่วว่า “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”ก็วาดหวังปูทางจะตั้งพรรคการเมืองด้วยเช่นกัน...
nn “ไม้หน้าสาม” ไม่ลากยาวไปไหนไกลวกกลับมาที่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน วิเคราะห์ฟังความรอบด้าน ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจตกสะเก็ด และยังไม่เห็นแสงสว่างใดจะนำพาให้ประชาชนพ้นทุกข์ร้อนจากภาวะนี้...
nn ขณะที่ “นักวิชาการ แล นักวิชาเกิ๊นเกิน” ยังเห็นว่า การบริหารของรัฐบาลลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ยังคงวนเวียนกับนโยบายประชานิยม ลดแลกแจกแถม ขณะเดียวกันพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคที่รับผิดชอบกระทรวงต่างๆ ก็ไม่ได้มีการขับเคลื่อน “ยุทธศาสตร์” อะไรโดดเด่นยังหายใจทิ้งไปวันๆ เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม ออกมาสำรอกนโยบาย-มาขายฝันให้ประชาชนอยู่ในภวังค์ตื่นมามีสติอีกครั้งนักการเมืองเหล่านั้นก็เป็นเสนาบดีที่ลืมสัญญาประชาคมจนหมดจนสิ้น ไม่มีอะไรที่กระทำเพื่อแก้ไข แค่แก้ตัวแก้ต่างอ้างความไม่พร้อมด้านข้อกฎหมายไปวันๆ...
nn “รัฐบาล คสช.”เตะส่ง “รัฐบาลนารีขี่ม้าขาว-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ด้วยข้อหาทุจริตโครงการจำนำข้าว รัฐบาลนี้ผลัดใบมาเป็นนโยบายประกันราคาข้าวรวมถึงผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศ เป็น สัญญาประชาคมไว้ “ไม้หน้าสาม” มองมุมไหนก็ไม่แตกต่างกันแค่ “ขายผ้าเอาหน้ารอด” แก้วิกฤติและดูแลความเป็นอยู่ของเกษตรกรคนรากหญ้าให้ไม่อดตายในฤดูกาลการผลิตนี้ไปได้ แต่จะตาม “สโลแกน-มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” หรือไม่...
nn มีความเห็นที่น่าสนใจกรณีการบริหารบ้านเมืองโดยนัยว่า “นักการเมืองให้ปลา...พระราชาให้เบ็ด” รัฐบาลต้องกลับมาทบทวนว่าแจกปลาหรือแจกเบ็ดเพื่อให้ประชาชนเขามีภูมิปัญญาดิ้นรนต่อสู้เพื่อความยั่งยืนกันหรือไม่อย่างไร “ไม้หน้าสาม”ขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” มาเพื่อเตือนสติพรรคร่วมรัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายทั้งปวงให้ฉุกคิดและนำใส่เกล้าฯไปปฏิบัติเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของเกษตรกรคนรากหญ้าและประชาชนคนไทย ความว่า “การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป” การน้อมนำศาสตร์พระราชามาปฏิบัตินั้น อย่าทำแค่นโยบายสวยหรูในกระดาษ ทว่าในการปฏิบัติกลับไม่ประสีประสาไม่นำพา “ภูมิปัญญาบรรพบุรุษ” ที่ใกล้จะสูญหายจากประเทศไทย ปี 2560 รัฐบาลลุงตู่เทงบ 1.8 หมื่นล้านเพื่อส่งเสริมพัฒนาการแพทย์แผนไทย มีเป้าหมายสนับสนุนหมอพื้นบ้าน ส่งเสริมเกษตรกรปลูกสมุนไพรเป็นยารักษาโรค “ไม้หน้าสาม” ตอกย้ำมาหลายครั้งเขียนถึง“หมอเณร-ชัยรัตน์ นนทชัย” หมอพื้นบ้านชื่อดังกาญจนบุรีที่ถือตำรับยาพระพุทธเจ้าหลายหนซ้ำซาก เพราะเป็นบุคลากรมีผลงานการรักษา “โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ด้วยสมุนไพร”ไม่ได้หวังผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือพวกพ้อง อย่างที่กล่าวมาข้างต้น“ไม้หน้าสาม” ไม่มีเจตนาที่จะโจมตีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เห็นว่า “ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย” ควรได้รับการวิจัยสนับสนุนต่อยอด...
nn “ซินเจิ้งหยูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ” ... คิดหวังสิ่งใดขอให้สมหวังสมปรารถนาในปีใหม่นี้ มีแต่ความสุขมั่งคั่งโชคดี ร่ำรวยตลอดปี “ซินเหนียนไคว้เล่อ” ... ขอให้คนไทยเชื้อสายจีนไม่ว่าจะอาศัยอยู่บนผืนดินไหนในโลกใบนี้จงมีความสุขในเทศกาลวันปีใหม่จีนด้วยเทอญ...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี