ปัญหาภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยเกิดความถดถอยต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 เรื่อยมาจนต้นปี 2563 ส่วนหนึ่งมาจากการผ่านงบประมาณของภาครัฐประจำปี 2563 ออกมาล่าช้าแถมในวันอภิปรายงบประมาณวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาเกิดมี 2 สส.ฝ่ายรัฐบาลไม่อยู่ในที่ประชุมเสียอีกทำให้เกิดคำถามคาใจว่าพ.ร.บ.งบประมาณฉบับปี 2563 เกิดเป็นโมฆะหรือไม่ต้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกครั้งทั้งๆ ที่พ.ร.บ.งบประมาณผ่านวุฒิสภาไปแล้ว
ด้วยเหตุผลนี้มีคนวิตกกันมากว่าพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท จะออกมาใช้ช้ามากเกินไปทำให้มีผู้เสนอว่ารัฐบาลต้องงัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปอีกโดยนำเอาวงเงินงบประมาณปี 2562 มาใช้เป็นมาตรการชั่วคราวหากจะไปรอหวังให้ฝ่ายภาคเอกชนลงทุนแทนรัฐบาลเห็นทีจะไม่ได้เรื่องอย่างแน่นอน ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ไม่ใช่เรื่องยากหากรัฐบาลใจกล้าๆ หน่อย เพราะรัฐบาลสามารถกู้เงินมาดำเนินการได้อยู่แล้ว
มาตรการเหล่านี้ประกอบด้วยโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากประกอบด้วยโครงการย่อยๆได้แก่โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับหมู่บ้านโดยจัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการประเมินจำนวน 71,742 แห่ง แห่งละไม่เกิน 200,000 บาท ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
แห่งชาติภายใต้วงเงินรวม 14,348.4 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน
การให้สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทยโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 50,000 ล้านบาท ให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สถาบันการเงินประชาชน สถาบันการเงินชุมชน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม และผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร เพื่อเป็นค่าลงทุนในการดำเนินกิจการและเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการดำเนินกิจการโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี
การพักชำระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามความสมัครใจ โดยกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองพักชำระหนี้หรือลดภาระหนี้เงินกู้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้กับสมาชิกที่มีความเดือดร้อนตามแนวทางที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกำหนด เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้ผ่อนคลายภาระการชำระหนี้ที่มีกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสามารถนำเงินส่วนดังกล่าวมาประกอบอาชีพสร้างรายได้
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวปีการผลิต 2562/63 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรโดยการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวข้าวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นโดยเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวเป็นต้น
นี่คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะมอบให้ประชาชนที่เป็นรากหญ้าอยู่แล้วตามแผนเดิมจากปี 2562 ถ้ารัฐบาลจะนำเอามาใช้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากก่อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาขอให้เร่งทำจะช่วยประชาชนคนจนได้ทันเหตุการณ์เลือกตั้งซ่อมอีกกี่ครั้งรัฐบาลจะชนะฝ่ายค้านได้อย่างสบาย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี