“สินค้าบริการทั่วไปถ้าคิดราคาต่ำกว่าต้นทุนก็คือขาดทุน ไม่มีการแจกของฟรี แต่กรณีแพลตฟอร์ม (Platform) หลายครั้งเราจะรู้สึกเหมือนได้ของฟรี หลายครั้งเป็นราคาที่นอกจากฟรีแล้วแถมเงินด้วย ท่านก็คงพบกับเหตุการณ์มากมาย เช่น ท่านสั่งอาหารผ่านแอพฯ (แอพพลิเคชั่น-Application) ออนไลน์ ท่านจะพบว่าถ้าไปที่ร้านท่านถูกคิดราคาหนึ่ง แต่ถ้ามาสั่งอาหารออนไลน์ท่านได้ส่วนลดด้วย บางครั้งก็ยังส่งฟรีด้วย นี่คือเศรษฐศาสตร์ของแพลตฟอร์ม มันไม่เหมือนเศรษฐศาสตร์ของสินค้าและบริการทั่วไป”
ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ตั้งข้อสังเกตดังกล่าวไว้ในงานสัมมนาวิชาการ “เศรษฐกิจไทยในยุค Disruptive Technology : พลิกความปั่นป่วนเป็นโอกาส” ในส่วนหัวข้อย่อย “ช่วงที่ 3 นำเสนอผลการศึกษาผลกระทบ และการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับ Disruptive Technologyในอุตสาหกรรมสื่อ ค้าปลีก ภาคบริการโรงแรม และบริการขนส่งผู้โดยสารทางบก” เมื่อต้นเดือนม.ค. 2563 ที่ผ่านมา ถึงโลกวันนี้ที่ไม่เหมือนเดิม และวิชาความรู้ที่คนรุ่นแล้วรุ่นเล่าเคยร่ำเรียนถ่ายทอดกันมาอาจใช้กับปัจจุบันไม่ได้อีก
ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อปี 2551 บริษัทที่ครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาด 6 แห่งแรก ของโลก มีเพียง 2 บริษัท ที่เป็นบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม แต่ในปี2561 กลับพบว่า 6 บริษัท ที่ครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดโลกล้วนเป็นบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มทั้งสิ้น “คำถามที่น่าสนใจสำหรับประเทศไทย..แพลตฟอร์มกำลังจะนำไปสู่การผูกขาดแบบใหม่หรือไม่?” โดยแพลตฟอร์มมีความได้เปรียบธุรกิจทั่วไปอยู่ 2 ประการ คือ 1.ประสิทธิภาพ จากการใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เก็บข้อมูลพฤติกรรมทุกอย่างของผู้ใช้บริการ และประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)
2.ไม่อยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกับธุรกิจแบบเดิม เช่น แอพพลิเคชั่นตัวกลางจับคู่ระหว่างผู้ที่ต้องการใช้รถโดยสารกับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนบุคคลแล้วอยากนำรถมาหารายได้ ในมุมหนึ่งเกิดความสะดวกกับผู้ใช้บริการและเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ของผู้ครอบครองรถ แต่อีกมุมหนึ่ง แท็กซี่ที่จดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนดนั้นถูกควบคุมราคาค่าโดยสาร ในขณะที่ผู้นำรถส่วนตัวมาวิ่งผ่านแอพฯ ไม่ถูกควบคุมแบบเดียวกัน
“ที่พักตามโรงแรมปกติจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้น ถ้าเกิดเป็นโรงแรมต้องมีมาตรฐานความเป็นโรงแรม ต้องมีบันไดหนีไฟ สปริงเกอร์ ขณะที่บ้านพัก Airbnb ไม่ได้ถูกกำกับดูแลแบบนี้ เรื่องของการคุ้มครองแรงงาน โรงแรมก็ต้องคุ้มครองพนักงานในฐานะที่เป็นแรงงาน ถ้าอยู่ในระบบประกันสังคมก็ต้องปฏิบัติตามประกันสังคม Airbnb เป็นผู้ประกอบการอิสระมาทำ ไม่ได้มีประเด็นเรื่องการคุ้มครองแรงงาน
โรงแรมทั่วไปจ่ายภาษี ธุรกิจเปิดห้องพักให้เช่าผ่าน Airbnb ผมเข้าใจว่ายังไม่ได้จ่ายภาษี เรื่องของการรบกวนผู้อื่น เรื่องของผังเมืองบ้าง การใช้เสียงดังบ้าง พวกนี้โรงแรมก็จะถูกควบคุมมากกว่า อันนี้ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งเมื่อการกำกับดูแลไม่เหมือนกัน อาจทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันกันได้ ปัจจัยที่ทำให้แพลตฟอร์มได้เปรียบจึงมีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอยู่แล้ว กับอีกเรื่องคือการกำกับดูแลที่ไม่เหมือนกัน” ประธาน TDRI ยกตัวอย่าง
โจทย์ที่ต้องคิดกันต่อไป “รู้ได้อย่างไรว่าแพลตฟอร์มกำลังจะผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด?” ตามหลักการทั่วไปสามารถดูได้จาก “ผู้ประกอบการมีอำนาจกำหนดราคาโดยที่ผู้บริโภคไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” เช่น ในอดีตโรงภาพยนตร์ในไทยมีผู้ประกอบการหลายเจ้า ต่อมาเหลือเพียงไม่กี่เจ้าซึ่งพบว่าราคาตั๋วหนังยุคหลังๆ นี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในส่วนของแพลตฟอร์มก็สังเกตได้เช่นกัน อาทิ แอพฯ เรียกรถรับ-ส่งผู้โดยสาร มีการคิดส่วนแบ่งระหว่างผู้ให้บริการแอพฯ กับคนขับ หรือผู้ให้บริการแอพฯ คิดราคากับผู้โดยสารอย่างเกินสมควรหรือไม่
อย่างไรก็ตาม “มีแพลตฟอร์มบางประเภทซึ่งไม่มีการเก็บค่าใช้บริการ แต่บังคับเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ประสงค์จะใช้งาน นำมาสู่คำถามที่ว่าเก็บข้อมูลมากเกินไปหรือไม่? เพราะผู้ให้บริการสามารถนำข้อมูลผู้ใช้งานไปขายต่อได้” ประเด็นนี้กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม อนึ่ง นอกจากการควบคุมตามกฎหมายป้องกันการผูกขาดทางการค้าแล้ว สมเกียรติเสนอแนะว่า 1.ต้องมีกฎห้ามผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ออกข้อบังคับให้ผู้ใช้บริการห้ามไปใช้บริการแพลตฟอร์ม เพิ่มเติมขึ้นมาด้วย
เช่น ผู้ประกอบการแอพฯ เรียกรถรับ-ส่งผู้โดยสาร ต้องไม่ตั้งกฎห้ามบุคคลที่นำรถมารับงานกับแอพฯ ของตน ไปรับงานของแอพฯ เรียกรถรับ-ส่งผู้โดยสารของเจ้าอื่น 2.ต้องมีกฎเรื่องการคิดราคาที่โปร่งใส เช่น แอพฯ เรียกรถรับ-ส่งผู้โดยสาร การใช้บริการช่วงที่มีการจราจรติดขัดผู้ให้บริการมักคิดราคาสูงกว่าปกติ เรื่องนี้ต้องแจ้งกับผู้ใช้บริการให้ชัดเจนด้วย อีกประเด็นที่ต้องคำนึงคือ “จะกำกับดูแลอย่างไรให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเสมอภาคแต่ไม่ทำลายโอกาสของธุรกิจใหม่?” เช่น ห้องเช่าตามแอพฯ อาจไม่ต้องใช้กฎเกณฑ์อย่างโรงแรมทุกประการ
แต่ในส่วนที่จำเป็นก็ต้องมีเพื่อลดความเสี่ยง อาทิ โฮมสเตย์ขนาดเล็ก บ้านแบ่งห้อง อาจไม่จำเป็นต้องมีบันไดหนีไฟ หรือต้องมีสปริงเกอร์ฉีดน้ำดับเพลิงทุกห้อง แต่หากเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีบริการเช่าห้องรายวันก็ต้องติดตั้งเพื่อความปลอดภัย เป็นต้น หรือแอพฯ เรียกรถรับ-ส่งผู้โดยสาร ไม่ควรบังคับค่าบริการให้เท่ากับแท็กซี่แบบเดิมเพราะไม่สร้างแรงจูงใจในการให้บริการ แต่ขณะเดียวกันรัฐควรผ่อนผันกฎบังคับค่าบริการฝั่งของแท็กซี่ดั้งเดิมด้วยว่าไม่ต้องตายตัว เพื่อให้แท็กซี่ดั้งเดิมสามารถแข่งขันได้
เรื่องราวของยุค “ดิสรัปทีฟ (Disruptive)” หรือยุคที่เทคโนโลยีส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อผู้ประกอบอาชีพต่างๆ ยังไม่จบ สัปดาห์หน้ายังเป็นการบรรยายของ TDRI โดยละเอียดในหลายภาคธุรกิจ..โปรดติดตาม!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี