“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า อุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมาฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ทำหน้าที่นำข้อเท็จจริงมาเผยแพร่ ขอเริ่มต้นด้วยวาทกรรมที่เปี่ยมไปด้วย “จิตสำนึกหน้าที่ความรับผิดชอบของพลเมือง” ของ “เรือเอกจอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี้ หรือ เจเอฟเค (JFK) ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา" จาก พรรคเดโมแครต ที่ว่า “จงอย่าถามว่าประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามตัวท่านเองว่า ท่านจะทำอะไรให้ประเทศชาติ”ดูเหมือนประโยคนี้เข้ากับสถานการณ์ร้อนฉ่าที่มีการแหกปากโหวกเหวกโวยวายกระทั่งมีการติด “แฮชแท็ก”...
nn รัฐบาลเฮงซวยกันอยู่ในขณะนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ “ไม้หน้าสาม” ได้รับคลิป คลิปหนึ่งเป็นการแถลงข่าวของ “ไต้ก๋งเรือแป๊ะ–พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” ออกมาสะกิดสามัญสำนึกคนเลว“ไม้หน้าสาม” ขีดเส้นใต้เน้นคำว่า “คนเลว ที่ชอบบิดเบือน สร้างปัญหาในวันที่ประเทศชาติกำลังมีปัญหาคนพวกนี้ก็ทำทุกอย่างให้เป็นการเมืองอย่างเดียว” ปล่อยเฟคนิวส์เรื่อง “ไวรัสโคโรนา 2019” ออกข่าว “หน้ากากอนามัยขาดตลาด” สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชน “ไม้หน้าสาม” ต้องบอกว่า ไม่ใช่แค่จิตสำนึกของนักการเมืองที่ควรมีเท่านั้น แต่เกรียนคีย์บอร์ด ดารานักแสดงหลายคนที่แสดงตัวตนชัดเจนว่า ไม่พอใจ “รัฐบาลเฮงซวย” ที่ออกมายืนยันว่าหน้ากากอนามัยไม่ขาดตลาด แต่ก็หาซื้อไม่ได้ ต่อว่ารัฐบาลเฮงซวยไม่ดูแล คงต้องย้อนไปที่วาทกรรมของเจเอฟเคที่บอกว่า ถามตัวเองหรือยังว่าได้ทำอะไรเพื่อประเทศชาติบ้าง กรณีที่แหกปากเห่าหอนค่อนแคะรัฐบาลอยู่นั้น ถ้าช่วยกันคนละไม้ละมือ เจอสินค้าหน้ากากอนามัยขาดตลาดเพราะการกักตุนเจอก็แจ้งความกับเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ให้ดำเนินการตามกฎหมายเพราะเป็นสินค้าควบคุม เจอทุกที่แจ้งทุกครั้ง ปัญหานี้จะไม่เกิด ความตื่นตระหนกในสังคมไทยก็ไม่มี นี่ไม่ใช่จิตสำนึกหน้าที่ความรับผิดชอบของพลเมืองไทยหรือส่องกระจกแล้วนึกสมเพชตัวเองกับการกระทำที่ไร้จิตสำนึกนั้นบ้างก็ได้!?!?!...
nn วันก่อน “ไม้หน้าสาม” มีโอกาสไปร่วมงานแถลงข่าวการจัดเสวนาทางวิชาการเพื่อ “ปลุกสำนึกนิสิต นักศึกษาให้ตื่นรู้ต่อขบวนการทุจริตคอร์รัปชั่น” สร้างความเสียหายต่อสังคมไทยอย่างใหญ่หลวง ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) มูลนิธิต่อต้านการทุจริต และภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) กับ 5 มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริต พูดถึงปัญหาคอร์รัปชั่นไว้อย่างน่าสนใจมีความตอนหนึ่งว่า “สี จิ้น ผิง” ประธานาธิบดีจีน ระบุว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นเปรียบเหมือนสัตว์ร้าย ถ้าเป็นเสือ...เราก็ต้องทุบตีมันให้ตาย ถ้าเป็นยุง..ก็ต้องตบมัน สะท้อนถึงภาวะผู้นำที่มองปัญหาคอร์รัปชั่นไม่ได้มุ่งเน้นปราบปรามการทุจริตเฉพาะแต่โครงการใหญ่ๆ แต่การทุจริตเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ ส่วนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริตแนะนำว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการ ควรน้อมนำศาสตร์พระราชา และทศพิธราชธรรมพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นต้นแบบในการปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง...
nn เป็นที่ชัดเจนแล้วในเบื้องต้น สำหรับเทศกาลอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 6 คน ซึ่งวิปฝ่ายค้าน และรัฐบาลหารือกันเพื่อกำหนดเวลาในศึกซักฟอก 24-28 ก.พ.นี้ “ไม้หน้าสาม” เอาใจช่วยทั้งสองทุกฝ่ายหาข้อมูลข้อเท็จจริงมาตีแผ่ให้ประชาชนได้หูตาสว่างบ้างไม่มากก็น้อย ฝ่ายไหนติดเชื้อไวรัสร้าย “มโนว่า” ชาวบ้านจะได้รับทราบกัน หวังแต่เพียงว่าการอภิปรายครั้งนี้จะไม่ใช่กลเกมเพื่อสางแค้นทางการเมือง เปลืองสารพัดผลาญภาษีประชาชนที่กำลังเผชิญกับปัญหาปากท้องเดือดร้อนไปทั่วอีกต่างหากแม้นายกฯลุงตู่จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อบ้านเมืองเพียงใด หากบริวารรอบข้างยังอยู่ในวังวนโกงชาติกินเมืองก็ไม่อาจนำพาบ้านเมืองนี้หลุดพ้น “วงจรอุบาทว์คอร์รัปชั่น”ไปได้ ยกกรณีสส.เสียบบัตรแทนกัน เป็นกฎแห่งกรรมสะท้อนการทุจริตตระบัดสัตย์ต่อหน้าที่ที่ผู้ทรงเกียรติยังมิอาจยึดมั่นปฏิบัติได้ และยังส่งผลกระทบต่อร่างพ.ร.บ.รายจ่ายงบประมาณปี 2563, สส.รุกป่าใช้วิชามารครอบครอง “ส.ป.ก.4-01” รวยแล้วยังเอารัดเอาเปรียบประชาชนคนยากจน ใช้อำนาจไปในทางมิชอบบางรายก้าวสู่อำนาจทางการเมืองด้วยเงินโสมมทุจริตคอร์รัปชั่นเชิดหน้าชูคอเป็นสส.ผู้ทรงเกียรติอยู่ในสภาฯ เรื่องเยี่ยงนี้ “ไต้ก๋งเรือแป๊ะและทีมงานผู้มีอำนาจบารมี” จักมองเผินๆ ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่ถูกต้องนัก...
nn อย่างกรณีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นร้องเรียน มีการเล่นแร่แปรธาตุนำเงินสมาชิกไปลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล สุดท้ายเงินถูกยักยอกออกจากบัญชีเงินฝากสหกรณ์ไปกว่าสี่ร้อยล้านบาท หากมองเรื่องนี้เสมือนแค่ยุงกัดแทะประชาชนเล็กน้อย ก็คงต้องถามผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ว่าหากยุงร้ายตัวนี้เป็น “พาหะไข้เลือดออก” หน้าไหนตัวไหนใครจะรับผิดชอบ???ก็หวังว่ากรรมาธิการปราบโกง ภายใต้การนำของ “อ้ายตู่-พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” จะตั้งเป้าสะสางความเดือดร้อนของประชาชนกันเสียที...
nn ล่าสุดมีตัวเลขชี้ชัดว่าดัชนีความโปร่งใสของไทยถูก “เวียดกง” แซงหน้า ตอกย้ำให้ชัดเจนขึ้นจากเกณฑ์ธรรมาภิบาลความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ ITA ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แสดงบัญชีหน่วยงานรัฐ “สอบตก”ในปี 2562 ถึง 78 หน่วยงาน น่าสนใจตรงที่ ศูนย์คุณธรรม(องค์การมหาชน) มีชื่อติดโผอยู่ 1 ใน 78 องค์กรรัฐ “สอบตก”บอกกันตรงๆ “ไม้หน้าสาม” คงรู้น้อยหูตาไม่กว้างไกลเลยไม่คุ้นหูชื่อองค์กรนี้เท่าไหร่ มารู้ว่ามีหน่วยงานนี้ก็ที่มีข่าวเจ้าหน้าที่เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมจากกมธ.ป.ป.ช.ที่รัฐสภา รวมถึงการร้องเรียนเกี่ยวกับ “การทุจริตจากการจัดพิมพ์หนังสือองค์ความรู้ ๒๐ องค์กรต้นแบบคุณธรรม”จับใจความได้ว่า มีเจ้าหน้าที่ศูนย์คุณธรรมเข้าไปเอี่ยวรับเช็คจากบริษัทเอกชนจำนวนกว่า 4 หมื่นบาท พอเรื่องแดงผู้บริหารก็แก้ปัญหาแบบมืออาชีพสั่งให้คืนเงินบริษัทเอกชนไป ที่สำคัญมาทราบข้อเท็จจริงภายหลังซึ่งน่าตกใจอย่างยิ่งนั่นคือว่า เงินที่เอกชนมอบให้เจ้าหน้าที่นั้่น เป็นค่าตอบแทนในการปิดต้นฉบับ เนื่องจากบริษัทที่รับงานไปไม่สามารถทำงานได้ทันตามสัญญา ทางหน่วยงานคู่สัญญาเลยส่งเจ้าหน้าที่มือดีไปช่วยเอกชนผู้ประมูลงานทำให้เสร็จเสียอย่างนั้น เอาเป็นว่าคืนเงินแล้ว...แต่เรื่องมันไม่จบ เพราะความผิดครบสำเร็จองค์แล้ว ความอัปยศนี้จึงถูกร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งป.ป.ท.แทงเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช.ล่าสุดป.ป.ช.ส่งไม้ให้ป.ป.ท.ลงดาบดีลอัปยศนี้แล้ว เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมานี่เอง เรื่องยังไม่จบแค่นี้ ไว้ฉบับหน้า“ไม้หน้าสาม” จะนำข้อมูลข้อเท็จจริงเรื่องนี้มาขยี้ให้สังคมไทยได้รับทราบ หลังได้พูดคุยกับ “พ.ต.ท.วันนพสมจินตนากุล เลขาฯป.ป.ท.” ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมาป.ป.ท.เน้นเรื่องการปราบปรามทุจริตเชิงโครงสร้าง เพราะต้องการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ มีประชาชนร้องเรียนกรณีที่พนักงาน ขสมก.ทุจริตตั๋วโดยสารแค่ 6.50 บาท ป.ป.ท.พิจารณาข้อมูลหลักฐาน เราก็ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเพราะต้องการสร้างบรรทัดฐานที่ดีงามให้กับสังคม ไม่ได้มองเรื่องไหนทุจริตเงินมากเงินน้อย ฉะนั้น “ไม้หน้าสาม”ขอฝากท่านเลขาป.ป.ท.ตรวจสอบศูนย์คุณธรรมด้วยเพราะ “ไม้หน้าสาม” รู้มาว่าองค์กรนี้มีปัญหาเชิงโครงสร้างกฎระเบียบ ฯลฯ แม้จะได้นักบริหารมืออาชีพมาก็ชำระล้างสะสางไม่ไหว ใครเป็นใครไปไล่เลียงกันดู ไม่นานเกินรอจักเห็นบาดแผลเน่าเหม็นจนต้องใช้เกลืออุดแน่นอน...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี