“สำหรับตน เก็บไว้ ได้รำลึก
เตือนสำนึก กับการ ทำงานใหม่
มากทั้งผู้ หวังดี และมีภัย
อยู่ที่ใจ เรานั้น ต้องมั่นคง”
ฝากกลอนบทนี้ให้กับคนที่กำลังทำงานในหน้าที่ให้บ้านเมืองซึ่งต้องระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบในการทำงานของตน ต้องรู้จักระมัดระวังการทำงานของตน ถ้าทำดีทำถูกต้องแล้วก็ไม่หวั่นไหวเมื่อถูกด่าถูกว่า หรือเคลิบเคลิ้มไปกับคำสอพลอ ต้องรู้จักแยกแยะให้ออกในสิ่งผิดสิ่งถูก ด้วยใจที่มั่นคงของตน
บ้านเมืองต้องปั่นป่วน วุ่นวาย เกิดปัญหามากมายในขณะนี้ก็เพราะคนมีอำนาจหน้าที่ในการทำงาน โดยเฉพาะงานใหญ่ของบ้านเมืองที่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบ เมื่อถูกยั่วยุเข้าหน่อยด้วยคำพูดด่าว่า ก็“เม้งแตก” อาละวาด กราดเกรี้ยวจนเสียบุคลิก
โดยเฉพาะทหารบางคนขณะนี้ที่มักจะเห็นอยู่บ่อยๆ
พลอยทำให้ทุกคนที่เป็นทหารในกองทัพเสียหายไปด้วย
ผู้ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของทหารในกองทัพตกต่ำ หรือเสื่อมศรัทธาจากผู้คน ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากทหารบางคนที่มีอำนาจหน้าที่ใหญ่โตในการทำงานสำคัญๆให้บ้านเมือง โดยเฉพาะในงานทางการเมือง ที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของทหาร
เพราะทหาร “ต้องอยู่กับบ้านเมือง”
ไม่ใช่ทหาร “เข้าไปวุ่นกับการเมือง”
การเข้าไปวุ่นกับการเมืองอยู่ตลอดเวลา อย่างไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ของทหารนั้น ทำให้ต้องถูกวิจารณ์ได้เยี่ยงนักการเมืองที่ไม่ดี ซึ่งมักจะทำงานเพื่อผลประโยชน์ตนและพรรคพวกเป็นส่วนใหญ่
กองทัพก็เลยเป็นกองทัพที่เปรอะเปื้อนไปด้วย
ไม่เป็นกองทัพของทหารอาชีพที่มีหน้าที่ปกป้องประเทศรักษาอธิปไตยของชาติบ้านเมือง รักษาผลประโยชน์แห่งชาติ
โดยเฉพาะต้องระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า “จอมทัพ” ของกองทัพทั้งสามในบ้านเมืองของเรานั้น ก็คือพระมหากษัตริย์ การกระทำใดๆของตนจึงต้องระมัดระวังให้มาก เพราะถ้าทำไม่ดีก็จะกระทบกระเทือนไปถึงด้วย
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสูงสุดของบ้านเมืองเรามาช้านานกว่าพันปี เป็นสถาบันที่ได้รับการเคารพเทิดทูนของประชาชนคนไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีเรื่อยมาจนถึงยุคกรุงศรีอยุธยา ยุคกรุงธนบุรี และยุคกรุงรัตนโกสินทร์ขณะนี้
ในสมัยกรุงสุโขทัยนั้น การปกครองเป็นลักษณะของการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ราษฎรสามารถร้องทุกข์ได้ต่อพระมหากษัตริย์ ราษฎรมีสิทธิเสรีภาพในการค้าขายดังที่ทราบกันดีในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
สมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพมีพระบรมเดชานุภาพเด็ดขาด เป็นจอมทัพที่กอบกู้อิสรภาพของประเทศให้กลับคืนมาได้ แม้ต่อมา
จะเสียเมืองให้แก่พม่า ก็มีพระมหากษัตริย์อย่างพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้กลับมาได้ในสมัยกรุงธนบุรี
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่รักและเป็นที่ยอมรับของพสกนิกรชาวไทยทั้งปวง ทั้งเคารพศรัทธาในพระราชจริยาวัตรของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ อีกทั้งยังทรงตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม คือธรรม 10 ประการ เช่น
ทานัง การให้วัตถุทาน ธรรมทาน และอภัยทาน
ศีลัง การละเว้นจากการประพฤติผิด การบริจาค
ความซื่อตรง อดทน ไม่เบียดเบียน เป็นต้น
ไม่ว่าจะอยู่ในรัชสมัยไหนก็ตาม พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ไม่เคยแสดงอำนาจบาตรใหญ่ต่อพสกนิกรของพระองค์ มีแต่ความเอื้อเฟื้อ ให้ความเมตตา ความเป็นธรรม ทรงให้ความช่วยเหลือราษฎรและประเทศชาติมาโดยตลอด
และคราใดที่ประเทศชาติประสบปัญหา ประชาชนเกิดความขัดแย้ง หรือมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น ตลอดจนความวิกฤติทางการเมือง หากประเทศไทยไม่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขบ้านเมืองก็คงเกิดมิคสัญญี เกิดความเสียหายที่ประเมินค่ามิได้
องค์คุณ 3 ประการแห่งความเป็นเอกภาพของประเทศชาติบ้านเมืองก็คือ ชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์
ชาติ หมายถึงชนชาติไทยที่อยู่ร่วมกันในประเทศ
ศาสนา คือทุกศาสนาในประเทศที่คนไทยนับถือ
พระมหากษัตริย์ คือประมุขแห่งรัฐ
องค์คุณแห่งความเป็นเอกภาพทั้ง 3 ดังกล่าวแยกกันไม่ออก แต่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เหมือนธงไตรรงค์ในผืนเดียวกันที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย
สถาบันชาติทั้ง 3 ดังกล่าวในปัจจุบันขณะนี้ต่างได้รับผลกระทบไปหมด จากการกระทำของคนบางกลุ่มบางพวกที่ประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสม
ความมั่นคงแห่งชาติโดยรวมได้รับผลกระทบไปด้วย
ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ต้องใส่ใจแก้ไข โดยเฉพาะที่มีอำนาจหน้าที่อยู่ในขณะนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี