ปัญหาฝุ่นพิษของประเทศไทยกำลังยกระดับขึ้นสู่กระแสสูง และก่อความเดือดร้อนเสียหายระดับสูงมากชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และส่งผลกระทบต่อชาวไทยแทบทั่วประเทศแล้ว เพราะขณะนี้นอกจากพื้นที่จังหวัดสงขลาและบางจังหวัดในภาคใต้แล้วล้วนถูกฝุ่นพิษคุกคามทั้งสิ้น
ฝุ่นพิษนี้เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ที่อาจเกิดอาการแพ้ อาการปอดอักเสบ และอาจเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนั้นแม้ผู้คนที่มีสุขภาพดี หากมีฝุ่นพิษสะสมก็จะทำลายปอดอย่างรุนแรง ทั้งเป็นแหล่งสำคัญที่ก่อเหตุมะเร็งขึ้นแก่ร่างกายด้วย
ดังนั้นปัญหาฝุ่นพิษจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นอันตรายร้ายแรงอีกเรื่องหนึ่งของประเทศชาติและประชาชน ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบต่อปัญหาสุขภาพอนามัยของประชาชนเท่านั้น แต่ย่อมส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว การลงทุน และการค้าทั้งหลายทั้งปวงด้วย เพราะเมื่อมีฝุ่นพิษทั่วทั้งบรรยากาศน่านฟ้าประเทศไทยแล้ว ไม่ว่าชีวิตใดในแผ่นดินนี้ที่ฝุ่นพิษครอบคลุมอยู่ก็ย่อมเป็นอันตรายและก่อให้เกิดความเสี่ยงรุนแรงทั้งสิ้น
ความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษด้วยความคิดที่ใช้รถสูบน้ำพ่นน้ำขึ้นไปด้านบนก็ดี ความคิดที่จะแจกวัชพืช 7 ชนิด เพื่อให้ดูดฝุ่นพิษที่ตกลงที่พื้นก็ดี หรือความพยายามสร้างฝนเทียมก็ดี ล้วนเป็นความคิดแก้ไขที่ปลายเหตุ และไม่เกิดผลอันใด
เพราะตราบใดที่มีฝุ่นพิษ ถึงจะแก้ไขในเรื่องเหล่านี้ ฝุ่นพิษก็ยังมีอยู่และอาจจะรุนแรงเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปลายเหตุนั้นแทบไม่ได้ผลอะไร หรือถึงแม้ได้ผลบ้างก็ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย
แม้ความพยายามที่จะทำฝนเทียมก็ต้องถือว่าเป็นความคิดแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเหมือนกัน ซึ่งที่ทำกันมาแล้วนับปีก็เห็นกันอยู่แล้วว่าได้ผลหรือไม่เพียงใด ที่สำคัญคือมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากและทำได้ในพื้นที่อันจำกัด ที่สำคัญคือได้ทำให้ความชื้นในอากาศและฤดูกาลวิปริตแปรปรวนไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบและผลข้างเคียงที่เสียหายร้ายแรงยิ่งกว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสสอนไว้แล้วว่าจะแก้ผลอันใดต้องแก้ไขที่เหตุของผลอันนั้น แต่น่าเสียดายที่แทบไม่มีใครน้อมนำพระธรรมคำสอนนี้มาใช้ในการแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง แล้วยังจะพร่ำเรียกหาให้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้ศาสนาพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไปทำไมกัน
อันต้นเหตุของฝุ่นพิษนั้น เมื่อพิจารณาโดยแยบคายแล้วก็เห็นจะมีสาเหตุสำคัญ 4 ประการคือ
ประการแรก การใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันที่มี จำนวนมากมายมหาศาลสร้างฝุ่นพิษจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน ยิ่งสร้างถนนมากขึ้นเท่าใด ยิ่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนทั้งหลายก่อหนี้สินไปซื้อรถมากขึ้นเท่าใดก็สร้างฝุ่นพิษมากขึ้นเท่านั้น และเป็นฝุ่นพิษที่เจือปนด้วยแก๊สพิษอีกด้วย
ดังนั้นหนทางแก้ไขในประการนี้ก็คือ การส่งเสริมให้ใช้รถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเหมือนกับที่หลายประเทศใช้ได้ผลมาแล้ว ซึ่งรถยนต์ก็ราคาถูกกว่า ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า ตัดรายจ่ายค่าน้ำมันให้กับประเทศชาติจำนวนมหาศาลในแต่ละปี และที่สำคัญมีความปลอดภัยกว่า และไม่มีฝุ่นพิษด้วย ขอเพียงมีความกล้าหาญและไม่ยอมตัวเป็นประเทศราชทางการเงินของใครก็สามารถทำเรื่องนี้ได้แค่พลิกฝ่ามือเท่านั้น
ประการที่สอง การเผาไร่เผาป่าที่เกิดขึ้นแทบทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน และมีการเผาป่าเผาไร่กันจังหวัดละหลายสิบแห่งจนควันคลุ้งไปทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ซึ่งล้วนเป็นควันพิษและแก๊สพิษทั้งนั้น
หนทางแก้ไขในเรื่องนี้คือการทำความเข้าใจและหาทางออกให้ผู้เกี่ยวข้องโดยธรรม ควบคู่กับการป้องกันปราบปรามอย่างเข้มงวดเด็ดขาด มีบทลงโทษสถานหนักแก่ผู้ฝ่าฝืนและมีบทลงโทษแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บังคับการ ผู้กำกับ และผู้บริการส่วนท้องถิ่น ที่ถ้าหากปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการแก้ไขแล้วเกิดการเผาไร่เผาป่าขึ้น ซึ่งวิธีการนี้ประเทศจีนใช้ได้ผลมาแล้ว
ประการที่สาม โรงงานที่ปล่อยฝุ่นพิษและแก๊สพิษ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานเผาถ่านหินประเภทใดๆ หรือโรงงานประเภทใดก็ตามที่ก่อให้เกิดฝุ่นพิษควันพิษซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทั้งสิ้น
หนทางแก้ไขในเรื่องนี้คือจะต้องหยุดโรงงานนั้นทันทีและต้องลงโทษสถานหนักทั้งเจ้าของโรงงาน วิศวกรผู้ควบคุมงาน ตลอดจนผู้อนุญาตและผู้ควบคุมการก่อสร้างโรงงาน รวมทั้งผู้ที่ปล่อยปละละเลยให้โรงงานปล่อยควันพิษแก๊สพิษอย่างเฉียบขาดด้วย
ประการที่สี่ การเผาขยะประเภทต่างๆ ทั้งเผาในบ่อขยะหรือในที่อื่นๆ เพื่อกำจัดขยะล้วนก่อให้เกิดควันพิษและแก๊สพิษทั้งนั้น เข้าลักษณะมึงบ้าง กูบ้าง โดยมีการปล่อยปละละเลยเพิกเฉยให้มีการเผาอย่างไม่หยุดหย่อน ล้วนเป็นต้นเหตุให้เกิดควันพิษแก๊สพิษทั้งสิ้น
หนทางแก้ไขในเรื่องนี้ก็ต้องปฏิบัติอย่างเดียวกันกับหนทางปฏิบัติในเรื่องการเผาป่าเผาไร่
เมื่อดับเหตุหรือแก้ไขเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษแก๊สพิษทั้งสี่ประการนี้แล้ว ฝุ่นพิษทั้งหลาย แก๊สพิษทั้งหลายก็จะหมดไปหรือน้อยลงมาก จนไม่เกิดผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนอีก
ชนใดที่มีอำนาจหน้าที่ ก็ลองตั้งสติจำเริญน้อมนำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าบทที่ว่าด้วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุก็ย่อมสัมฤทธิผลโดยเร็วอย่างแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี