เหตุการณ์โรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากเป็นอันตรายคุกคามสุขภาพอนามัยและชีวิตของมวลมนุษย์แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศอย่างใหญ่หลวง และเป็นภาระของรัฐบาลต่างๆ ที่จะต้องเยียวยาระบบเศรษฐกิจของตนไม่ให้พังพินาศไปเพราะไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้
สำหรับประเทศจีน ขณะนี้คณะกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ได้มีมติให้รัฐบาลจีนจัดตั้งงบประมาณฉุกเฉินเพื่อเยียวยาผลกระทบจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่โดยตรง ถึง 500,000 ล้านหยวน
และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจของจีน ก็ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นจำนวนเงินมหาศาลที่สุดถึง 9 ล้านล้านหยวน เพื่อทำให้ระบบเศรษฐกิจของจีนสามารถขับเคลื่อนไปได้ตามปกติให้มากที่สุด ซึ่งเท่ากับเป็นการป้องกันผลกระทบถึงประเทศต่างๆ ด้วย
สำหรับประเทศต่างๆ ก็ต้องเตรียมการเตรียมตัว และกำหนดมาตรการเพื่อฟันฝ่าผลกระทบทั้งหลายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เช่นเดียวกัน เพราะแน่นอนว่าผลกระทบย่อมเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในทุกประเทศ และกำลังเห็นชัดขึ้นทุกที เนื่องจากสายพานและระบบทางเศรษฐกิจจำนวนมากของแต่ละประเทศกำลังได้รับผลกระทบและหยุดชะงัก กระทั่งหยุดลงก็ปรากฏให้เห็นโดยทั่วไปแล้ว
สำหรับประเทศไทย ก็ดูเหมือนว่าได้ตระหนักถึงผลกระทบและอันตรายดังกล่าวเช่นเดียวกันดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้ช่วยเหลือภาคธุรกิจเป็นบางประการ เช่น การเลื่อนกำหนดการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปอีก 3 เดือน การให้หักค่าใช้จ่ายในการลงทุนบางประเภท หรือในการจัดซื้อจัดหาบางประเภทถึง 2.5 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง รวมทั้งการอัดฉีดเงินให้แก่ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดย่อม ในระดับหมื่นล้านบาท
ได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่ามาตรการดังกล่าวอาจจะไม่พอเพียงต่อการฟันฝ่าพายุหนักอันเกิดแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่และมาตรการบางอย่างอาจก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงลบมากขึ้นอีก
การเลื่อนการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเดือนมีนาคมไปอีก 3 เดือนนั้น อาจเกิดผลกระทบต่อรายได้แผ่นดินอย่างรุนแรง เพราะในแต่ละปีงบประมาณนั้นจะมีรายได้แผ่นดินมากที่สุดอยู่สองช่วงจากการจัดเก็บภาษีอากร คือจากการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในเดือนมีนาคมราว 700,000 ล้านบาท และจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในเดือนพฤษภาคมเป็นเงินราว 700,000 ล้านบาท เช่นเดียวกัน และรายได้แผ่นดินนี้ก็ต้องนำไปใช้จ่ายตามกฎหมายงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป
การเลื่อนกำหนดการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอาจเกิดผลกระทบสองประการ คือรายได้แผ่นดินจะขาดหายไปในช่วงนั้นถึง 700,000 ล้านบาท โดยประมาณ และเมื่อเงินอยู่ในมือของผู้เสียภาษีก็อาจนำไปใช้จ่ายอย่างอื่น ครั้นถึงกำหนดชำระก็อาจไม่มีเงินหรืออาจต้องไปกู้ยืมเงินมาชำระ ที่สำคัญคือการที่เงินจำนวนมากระดับนี้ขาดการไหลเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก็ย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อไปด้วย
สำหรับมาตรการในการให้หักค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไม่ได้มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพียงแต่ให้ประโยชน์สำหรับบริษัทนิติบุคคลที่ได้จัดซื้อเครื่องมือเครื่องจักรตามที่กำหนดมากกว่าปกติเท่านั้น ซึ่งมิได้เป็นแรงจูงใจใดๆ ในการจัดซื้อหรือในการจ่ายเงินหรือถ้ามีการจ่ายเงินประเภทนี้ก็มักจะเป็นการจ่ายเงินออกไปยังต่างประเทศ จึงยังอาจไม่เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ
สำหรับการให้กู้ยืมเงินแก่ธุรกิจขนาดเล็กขนาดย่อมในสถานการณ์เช่นนี้และในวงเงินอันจำกัดมาก ย่อมไม่มีพลังเพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจมีผลแค่นำไปชำระค่าดอกเบี้ยค้างรับเท่านั้น
ในสภาพปัจจุบันนี้ ความจริงได้เปิดเผยชัดเจนแล้วว่าทั้งภาคการท่องเที่ยวทั้งระบบ ภาคการผลิตทั้งระบบ ภาคการค้าและการลงทุนทั้งระบบ กำลังได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวนั้นแทบจะหยุดชะงักสิ้นเชิงแล้ว จึงเป็นผลกระทบวงกว้างและมีขนาดใหญ่มากที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ ที่ถ้าหากกำลังเงินที่อัดฉีดลงไปในระบบเศรษฐกิจไม่เพียงพอ นอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังจะเป็นการสูญเสียเงินเปล่าด้วย
ดังนั้นถ้าหากประมาณสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างน้อยที่สุด รัฐบาลจำเป็นจะต้องจัดวงเงินไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาท เพื่ออัดฉีดเข้าสู่ระบบโดยเร็วที่สุด โดยไม่ให้กระทบต่องบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างอื่นต่อไปอีก ดังนั้นจึงต้องดำเนินการสองเรื่องควบคู่กันคือ
ประการแรก จะต้องรีบดำเนินการให้ธนาคารของรัฐโดยเฉพาะธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ออกตราสารหนี้ระยะ 7-10 ปี อัตราดอกเบี้ย2.5-3.5% วงเงินรวมกันประมาณ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบได้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2563 นี้
ประการที่สอง จะต้องอัดฉีดเงินดังกล่าวไปยังจุดที่จะกระตุ้นหรือขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการขยายภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ไม่ว่าการก่อสร้างศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า โรงแรม และทรัพยากรท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งการลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าภาคเกษตรทุกประเภท โดยเฉพาะคือการนำเอาที่ดินในพื้นที่ ส.ป.ก. ประมาณ 1-2 ล้านไร่ ออกโฉนดจำหน่ายให้แก่ผู้ครอบครองทำประโยชน์ในราคาประมาณ 30% ของราคาตลาด และให้สินเชื่อเพื่อการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นเชิงพาณิชย์หรือการค้าหรือการท่องเที่ยวเป็นต้น และที่สำคัญจะต้องอำนวยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจที่กำลังขาดสภาพคล่องเพื่อไม่ให้ปัญหาการขาดสภาพคล่องลุกลามเข้าสู่ระบบการเงินของประเทศอีกระบบหนึ่งโดยเร็วที่สุด
อันของหนักนั้นก็ต้องใช้กำลังที่มากพอจึงจะกอบกู้ยกของหนักได้ฉันใด การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก็ฉันนั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี