“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” อุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา เพิ่งผ่านทั้ง “วันมาฆบูชา”และ “วันโคราชวิปโยค” มาพร้อมๆ กันในวันเดียว ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ประจำการเล่าขานความเป็นจริงทุกบรรทัดทุกตัวอักษร...
nn ขอประเดิมเริ่มต้นด้วยข้อมูล “ศูนย์คุณธรรม” (องค์การมหาชน) ที่ทิ้งท้ายไว้เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน “ไม้หน้าสาม” ปักหมุดนั่งยันนอนยันว่า องค์กรแห่งนี้มีปัญหาเชิงโครงสร้างที่หมักหมมมายาวนาน ผลลัพธ์ที่ปรากฏต่อสังคมมันฟ้อง นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม มีคำตอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร??? โดยเฉพาะการขับเคลื่อนองค์กรแห่งนี้ “ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง” ความเห็นนี้มิได้มีเจตนาป้ายสีให้ร้ายใดๆ แต่การที่ ศูนย์คุณธรรมไม่นำข้อมูลเข้าระบบ ITA ของ ป.ป.ช. ส่งผลให้ศูนย์คุณธรรมติด F เป็น 1 ใน 78 หน่วยงานรัฐ“สอบตก” เกณฑ์ประเมินธรรมาภิบาลความโปร่งใสประจำปี 2562“ไม้หน้าสาม” รู้มาว่าก่อนที่จะมีการตีตรา F มีความพยายามออดอ้อน “ผอ. ITA” เพื่อขอให้ ป.ป.ช. เปิดระบบ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ...
nn น่าสลดหดหู่ใจเพียงใดสำหรับองค์กรต้นแบบที่ทำหน้าที่บ่มเพาะปลูกหว่านต้นกล้าคุณธรรม “สอบตก” ตายน้ำตื้นกับเรื่องสามัญพื้นฐานเหล่านี้ “ไม้หน้าสาม” ฟันธง!! เหตุสำคัญของ ITA ที่ศูนย์คุณธรรมติด F นั้น เกิดจาก ฝ่ายบริหารบกพร่องในหน้าที่ และเลือกปฏิบัติ ทำกระบวนการไม่ถูกต้อง งานที่ต้องรับผิดชอบในการติดตาม ตรวจสอบการปฏิบัติงานตามนโยบาย ระเบียบ และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการควบคุมภายในขององค์กร เพื่อให้การควบคุมภายใน เกิดผลและบรรลุภารกิจขององค์กร กลับไม่ให้ความสำคัญ...nn ภาพเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นของ “ศูนย์คุณธรรม” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปัดกวาดชะล้างกันครั้งใหญ่หรือยัง??? หรือจะปล่อยให้เป็นภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ โดยผู้บริหารระดับสูงนั่งอยู่บนภู...ใช้กลยุทธ์ตามวาสนาถนัด “บริหาร...โดยไม่ต้องบริหาร” จึงนำพาองค์กรสอบตก และเกิดปัญหาภายในเจ้าหน้าที่ต้องเดินสายฟ้องร้องศาลปกครอง และกรรมาธิการป.ป.ช. นี่คือปฐมเหตุการใช้อำนาจ การบริหาร การให้คุณให้โทษที่ ไร้มาตรฐานธรรมาภิบาลหรือไม่???คงได้รู้แจ้งเห็นผลกันในเร็ววันนี้ หลังจากที่ป.ป.ท.รับวินิจฉัย กรณีเช็ค 4.2 หมื่นบาท ในการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ และบริษัทคู่สัญญาได้ตีเช็คตอบแทนค่าแรงให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์คุณธรรม เมื่อมีปัญหาก็คืนเงินเอกชน ให้มันจบเลยดีกว่า ไม่มีอะไรทั้งนั้น เหอะ...เหอะ...เหอะ...สวัสดีคุณธรรม...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ไม่ลืมที่จะแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังญาติผู้สูญเสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ “โคราชวิปโยค” เมื่อค่ำวันมาฆบูชา-เสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึงตอนสายๆ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นทั้งประชาชนคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่-ทหาร-ตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ดับเหตุครั้งนี้ และจ่าสิบเอกที่ก่อเหตุครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 30 ราย บาดเจ็บ 57 ราย ในจำนวนนี้ สาหัส 10 ราย ถึงจุดนี้อะไรคือประเด็นสำคัญในการก่อเหตุคงต้องให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทว่า “ไม้หน้าสาม” สนใจในเรื่องของกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาอาวุธสำคัญค่ายทหารมากกว่า...nn นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการปล้นปืนจากค่าทหารถอดบทเรียนจากเมื่อปี 2547 ที่โจรกระจอก ของ “ไอ้ผู้ต้องโทษหน้าเหลี่ยม-ทักษิณ ชินวัตร” สำรอกไว้เมื่อครั้งก่อเหตุปล้นปืนค่าย “กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จนถึงปัจจุบันสามารถกลับคืนมาได้หรือยัง “ไม้หน้าสาม” สรุปได้ว่าเกิดจากความหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยทหารและกองทัพเป็นที่สุด...
nn ประเด็นแรกต้องยอมรับก่อนว่ากองรักษาการณ์คือหัวใจของหน่วยทหาร มีกำลังพลเกือบสิบนายเฝ้าระวัง ทั้งมีนายทหารชั้นสัญญาบัตร เป็นผู้บัญชาการ มีกฎระเบียบวางไว้อย่างเข้มงวดชัดเจน ทว่าปฏิบัติจริงมีความเข้มงวดตามกฎระเบียบหรือไม่ อาทิ รถจักรยานยนต์ผ่านกองรักษาการณ์ต้องดับเครื่องและลงจากรถจูงจยย.ผ่านกองรักษาการณ์ รถยนต์ปิดไฟหน้าลดกระจก เปิดไฟเก๋ง ขับช้าๆ เพื่อการตรวจสอบอาวุธทุกชนิดห้ามพกพาเข้าในหน่วยทหารเด็ดขาด อะพิโธ่!!!อะพิถัง กะละมังแตก!!! ตำรวจจะเข้าเขตทหารยังต้องฝากอาวุธไว้ที่กองรักษาการณ์ ท่านผู้ทรงเกียรติจะเข้าไปหาเสียงเลือกตั้งยังต้องทำหนังสือขออนุญาตจากหน่วยเหนือเลย แต่จ่าสิบบเอกฆาตกรโหดผู้ก่อเหตุวิปโยคกลับสามารถพกอาวุธปืนร้ายแรง 9 มม.เข้าไปจี้อาวุธถึงคลังอาวุธได้ แถมซิ่งรถฮัมวี่ขนเครื่องระเบิดและเครื่องกระสุนจำนวนมากมาถึงย่านชุมชนได้อีกอย่างนี้กองทัพ-หน่วยงานทหารจะพิจารณาดำเนินการอย่างไร ฤๅ คือเก่า !!! “ปล่อยให้เป็นไฟไหม้ฟาง”อีกกระทอกเหมือนอย่าง “ไต้ก๋งเรือแป๊ะ” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้หามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในอนาคตอีกเอาตรงๆ “วัวหายล้อมคอก” นั่นแหละ “ไม้หน้าสาม” เรียนรด.และเคยเป็นทหารเกณฑ์ในค่ายภาณุรังษี เขากรวด ราชบุรี จึงพอมีความรู้เรื่องกองรักษาการณ์ละรู้จักกฎระเบียบในการปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าเวรยามบ้าง ถ้าวันนี้การปฏิบัติหน้าที่เคร่งครัดวินัยไม่หย่อนยานเรื่องบางเรื่องในบ้านเมืองไทยคงไม่ก่อความเสียหายเยี่ยงนี้กรณี “โคราชวิปโยค” เป็นแค่กระผีกหนึ่งในหลายๆ กระผีกที่เกิดขึ้นในสังคมไทย แน่นอนกรณีของการหย่อนยานจนเกิดเหตุ “วิปโยคโคราช” เป็นหนึ่งตัวอย่างของการไม่ยึดถือระเบียบวินัยกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดชัดเจน ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดความเสียหายในสังคมไทย หรือกรณีการไม่มีสามัญสำนึกของท่านผู้ทรงเกียรติเสียบบัตรแทนกันในการลงคะนนเสียงในวาระสองและสามในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบรายจ่ายปี 2563 จนเป็นเหตุให้ถึงวันนี้ยังไม่สามารถนำงบประมาณมาใช้ในการพัฒนาประเทศให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลได้...
nn หากท่านผู้ทรงเกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองรู้จัก “สามัญสำนึก” ปฏิบัติตนตามระเบียบกฎกติกาไม่ยกตนข่มท่านไม่ใช้อภิสิทธิ์ชน“ไต้ก๋งเรือแป๊ะ” คงไม่ต้องหามาตรการใดๆ ให้วุ่นวาย แต่หากยังขาดจิตสำนึกสามัญสำนึก เยี่ยงนี้ร่ำไป “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” ก็ไม่มีความหมายใดๆ...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี