“นักปกครองที่โลกต้องการ ได้แก่นักปกครองที่ดำรงชีวิตอยู่เพื่อประชาชน
นักปกครองที่ดี ต้องมุ่งมั่นป้องกันรัฐ แต่จะไม่มุ่งหมายสร้างคน สร้างตำแหน่ง และสร้างอำนาจให้แก่ตน
นักปกครองที่ดีต้องอยู่หลังประชาชน จงดูทะเลซึ่งตั้งอยู่ที่ต่ำกว่าสายธารอื่น แต่ทะเลก็รับกระแสธารไว้ได้ทั้งหมด
จงปลูกฝังคุณธรรมลงในตัวเอง และลงในทุกองคาพยพของสังคม”
ขอฝากคำสอนนี้ที่เป็นสัจธรรมในการปฏิบัติตนของผู้มีหน้าที่ในการบริหารปกครองบ้านเมืองในขณะนี้ ได้คำนึงถึงเรื่องดังกล่าวด้วย หลังประกาศนโยบายในการทำงานต่อสภาผู้แทนราษฎรไปในครั้งนี้ ว่าควรจะกระทำตนและทำงานอย่างไรเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นนักปกครองในระดับไหน
ระดับใดรับผิดชอบงานมาก ระดับนั้นก็สำคัญมาก แม้จะอยู่ในระดับที่งานน้อย แต่ความสำคัญก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าระดับที่รับผิดชอบงานมากขององค์กร
นักปกครองระดับชาติย่อมต้องรับผิดชอบต่องานสำคัญทุกด้านของชาติ ทุกอย่างจะดีขึ้นหรือเลวลงอยู่ที่ตัวนักปกครองระดับชาตินั้นเป็นสำคัญ ถ้านักปกครองระดับชาติคนใด ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอในสิ่งว่าไว้ข้างต้น การปกครองนั้นก็ไร้ผล ที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองมีความเจริญมั่นคง และประชาชนจะมีความสุข
การอยู่ข้างหลังประชาชนคือการทำให้เห็นและรู้ว่าประชาชนกำลังอยู่ในสภาพอย่างไร และประชาชนต้องการอะไร ถ้าอยู่ข้างหน้าประชาชนก็จะไม่เห็น คิดแต่จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ สร้างนโยบายอย่างนั้นอย่างนี้ตามจินตนาการของตนเอง
จะเข้าตำราดีแต่พูด แต่ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ
กลายเป็นนักปกครองที่อาศัยเสพสุขจากภาษีประชาชน หรือเป็นผู้บริหารปกครองที่คิดแต่จะสร้างตน สร้างตำแหน่ง และสร้างอำนาจให้ตนเอง
โดยเฉพาะพวกที่หาทางต่อท่ออำนาจให้ตัวเองอย่างที่เห็นกันอยู่หลายคนขณะนี้ ถ้ายังขืนไม่กลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ ก็ให้ระวังตัวให้ดีว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนๆกับพวกมีอำนาจหลายคนที่ผ่านมา
และเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการเป็นผู้ปกครองที่ดีก็คือ ต้องไม่เป็นคนชอบโอ้อวดโดยเฉพาะการโอ้อวดสรรพคุณของตนว่าทำดีมาอย่างโน้นอย่างนี้ ยึดไมโครโฟนหรือยึด ทีวี โฆษณาตัวเองทุกสัปดาห์ว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ เก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้
โขมงโฉงเฉงเหมือนน้ำไหลในลำธารที่ไม่ลึก
การเมืองบ้านเราหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการเมืองน้ำเน่า และประชาธิปไตยจอมปลอม อย่างเดิมๆที่ผ่านมาอีก ก็อยู่ที่ผู้บริหารปกครองที่กำลังเข้ามาทำหน้าที่ในขณะนี้ รวมทั้งนักการเมืองทุกคนที่เข้ามาจากการเลือกตั้ง ว่าจะประพฤติปฏิบัติตนอย่างเดิมๆที่ผ่านมาหรือไม่
ถ้ายังประพฤติปฏิบัติตนเหมือนเดิมๆ การเมืองก็จะเป็นการเมืองน้ำเน่าอย่างเดิม ประชาธิปไตยก็จะเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม อำนาจอธิปไตยก็จะไม่ใช่อำนาจของประชาชนตามความหมายที่แท้จริง
บ้านเมืองก็จะต้องวนเวียนอย่างนี้ไม่สิ้นสุด
ประชาธิปไตยในบ้านเรายังเป็นเหมือนบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ การจะสร้างประชาธิปไตยก็ต้องรู้เรื่องประชาธิปไตยจริงๆด้วย ถ้ารู้อย่างผิดๆก็จะพาประเทศไปในทางที่ผิดๆ ไม่เป็นประชาธิปไตยจริงๆสักที
หลักการปกครองประชาธิปไตยนั้น ที่สำคัญมี 5 ประการ
1. อำนาจอธิปไตยของปวงชนในประเทศ
2. เสรีภาพของบุคคล ทั้งเสรีภาพทางการเมืองและเสรีภาพส่วนบุคคล
3. ความเสมอภาค คือความเสมอภาคทางกฎหมาย และความเสมอภาคทางโอกาส
4. หลักนิติธรรม ทั้งกฎหมายหลัก (รัฐธรรมนูญ)และกฎหมายทุกฉบับต้องไม่ขัดกับหลักนิติธรรม
5. รัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชน
ทั้ง 5 หลักการนี้หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชนเป็นหัวใจสำคัญที่สุด แม้จะมีหลักอื่นๆที่เป็นส่วนประกอบ
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็เป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ผู้ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจะไปเป็นผู้บริหารปกครอง หรือเป็น สส.ในสภาผู้แทนราษฎร ก็ต้องถือว่ามาจากประชาชน การปฏิบัติงานในหน้าที่ของแต่ละคน ไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหนจะทำอะไรก็ต้องสังวร ในเรื่องดังกล่าวให้หนัก ว่าประชาชนเขาต้องการให้เข้าไปทำงานให้เขาในเรื่องใดบ้างที่เขาต้องการ
หรือเรื่องไหนบ้างที่เขาอยากให้แก้ไขช่วยเหลือเขา
ต้องอยู่ข้างหลังเขาเพื่อจะได้เห็นในสิ่งเหล่านี้
ไม่ใช่อยู่ข้างหลังของผู้มีอำนาจคนหนึ่งคนใดที่คอยชี้นิ้ว ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็รับผลประโยชน์จากคนมีอำนาจที่ชี้นิ้วนั้น ไม่ว่าจะในสภาหรือในฝ่ายบริหาร
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี