สภาพที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติทางเศรษฐกิจนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว และคนทั้งหลายก็ได้ติงได้เตือนและทักท้วงกันมาโดยลำดับ แต่ทุกครั้งก็ถูกโต้แย้งว่าเป็นเรื่องของคนที่ไม่รู้เรื่อง ไม่ทราบความจริงและไม่เป็นความจริง
ถึงกับนำเอาเอกสารสื่อสิ่งพิมพ์จากต่างประเทศที่สรรเสริญยกย่องความสำเร็จในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศมาเป็นหลักฐานแสดงให้คนทั้งปวงเห็นคล้อยตามไปด้วย
แต่ทว่าเมื่อมาถึงวันนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันตรงกันทุกฝ่ายแล้วว่าบ้านเมืองของเรากำลังเผชิญอยู่กับวิกฤติทางเศรษฐกิจที่รุนแรง และอาจจะกล่าวได้ว่าอย่างทั่วด้านด้วย เป็นชะตากรรมที่ประชาชาติไทยทุกภาคส่วนจะต้องเผชิญหน้าและรับผลแห่งชะตากรรมนี้ร่วมกัน ไม่ว่าพวกที่สนับสนุนหรือพวกที่ติติงเตือนในเรื่องนี้มาก่อนหรือไม่
ดังนั้นเรื่องชะตากรรมทางเศรษฐกิจของบ้านเมืองนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของพวก ของสี ของพรรคใดแต่เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศต้องประสบชะตากรรมร่วมกันและรับผลร่วมกัน รับภัยพิบัติทั้งหลายร่วมกัน จึงเป็นเรื่องที่คนทั้งหลายควรจะได้ร่วมจิตใจสมานฉันท์ช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อพาประเทศชาติของเราให้หลุดรอดออกไปจากวิกฤติทางเศรษฐกิจนี้ให้จงได้
พิบัติทั้งหลายที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ที่สำคัญคือ
ปัญหาภัยแล้งและปัญหาน้ำท่วม ซึ่งแม้จะดูเป็นสองเรื่อง แต่แท้จริงแล้วก็เป็นเรื่องเดียวกัน ที่จะคุกคามปัจจุบันและอนาคตอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในภาคเกษตร ปศุสัตว์ และการทำมาหากินของราษฎร ซึ่งถึงวันนี้ก็ไม่มีการแสดงท่าทีใดๆ ที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้ตรงกับต้นเหตุเลย
ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับราษฎรส่วนใหญ่ของประเทศตกต่ำหัวทิ่มดินแทบทุกรายการ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการไม่พัฒนาการแปรรูปในประเทศ การไร้ความสามารถในการส่งออกโดยเปรียบเทียบกับประเทศอื่น และการไม่สามารถพัฒนาและขยายตลาดผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร ซึ่งเกี่ยวข้องกับประชากรส่วนใหญ่ของประเทศและเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจของประชาชาติไทย
ความจริงได้เปิดเผยตัวเองให้เห็นว่าการโฆษณาชวนเชื่อ การเล่นแร่แปรธาตุ การเล่นลิเกโกหกพกลมปลิ้นปล้อนเพื่อหวังเสียงทางการเมือง ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ไขปัญหานี้ได้เลย และมีอนาคตที่น่าวิตกอย่างยิ่ง
ปัญหาประชาชนไม่มีรายได้และเงินหมุนเวียน ซึ่งเป็นปัญหาโดยตรงและปัญหาอันเป็นผลกระทบต่อเนื่อง ที่ไม่มีการลงทุนในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศอย่างแท้จริง ไม่มีการจ้างงานในภูมิภาคต่างๆ ประหนึ่งว่าประเทศไทยมีแต่ EEC แค่สามจังหวัดเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดอับของประเทศไทยเท่านั้น ดังนั้นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศในทุกภาคจึงไม่มีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาประเทศ ที่สำคัญคือโครงการพัฒนาและลงทุนทั้งหลายไม่เคยเผื่อแผ่ตกไปถึง ต่างคนต่างดิ้นรนเอาตัวรอดกันเองตามยถากรรม
ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ขยายวงกว้างชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย จนกระทั่งเป็นที่รู้กันทั่วโลก ถึงขนาดสื่อต่างประเทศก็เปิดเผยอย่างไม่เกรงใจกันว่ามีเพียง 5 นักธุรกิจใหญ่ของประเทศเท่านั้นที่เป็นผู้ถือสิทธิ์ประโยชน์และเป็นเจ้าของกิจการทั้งหลาย กระทั่งชี้ให้เห็นด้วยว่ารายจ่ายของประชาชนไทยกว่าร้อยละ 80 ตกได้แก่ธุรกิจของ 5 นักธุรกิจใหญ่นี้ทั้งสิ้น
ความเหลื่อมล้ำที่ขยายวงห่างออกไปมากเช่นนี้ไม่ต่างอันใดกับสภาพก่อนการปฏิวัติประเทศจีน ที่มีแค่สี่ตระกูลใหญ่คุมอำนาจทั้งทางการเมือง
การทหาร และเศรษฐกิจจนหมดสิ้น ในขณะที่คนจีนทั้งประเทศกลายเป็นคนยากไร้อนาถาขอทาน สิ่งที่เรียกว่าระบบ “เจียงซุงค่งเฉิง” อันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำขนาดใหญ่เช่นนั้นจึงเป็นสาเหตุและบ่อเกิดการปฏิวัติประชาชาติจีน และสิ่งนั้นก็กำลังจะเป็นบทเรียนที่มาเยือนประเทศไทยของเรา จนกระทั่งทุกภาคส่วนมีความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อเรื่องนี้
ปัญหาการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีลักษณะเหมือนปั๊มหัวใจที่ทำกันมาหลายครั้งหลายหน แต่ผลทั้งหมดกลับเป็นประโยชน์แก่กลุ่มธุรกิจที่จำกัดวงทั้งสิ้น ในขณะที่ได้สร้างบาดแผลและความบอบช้ำให้แก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงและกำลังจะดำเนินการอีกครั้งหนึ่งในยามที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด
การกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาทั้งหมดนั้นมีเพียงสองมาตรการเท่านั้นคือ
มาตรการแรก การกระตุ้นให้ประชาชนนำเงินออกมาใช้จ่าย กระทั่งกู้หนี้ยืมสินออกไปใช้จ่าย โดยกำหนดการปิดงานงดจ้างในลักษณะของเพิ่ม
วันหยุด จนวันหยุดเพิ่มพูนขึ้นชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผู้ประกอบการทั้งหลายเดือดร้อนขาดทุนป่นปี้ แม้กระทั่งคนทำงานที่ถูกกระตุ้นให้เอาเงินไปจับจ่ายใช้สอยท่องเที่ยวก็ได้ก่อหนี้ยืมสินทั้งหนี้นอกระบบและหนี้บัตรเครดิต จนหนี้สินล้นพ้นตัวไปตามๆ กัน
มาตรการที่สอง คือมาตรการลดแลกแจกแถม เอาเงินจากภาษีอากรของราษฎรเป็นส่วนรวมไปให้กับผู้ถือบัตรที่จัดสรรให้ เพื่อไปจับจ่ายใช้สอยในบางที่บางแห่ง และในที่สุดเงินที่ใช้ไปนั้นก็ไปรวมตัวอยู่ที่ธุรกิจของนักธุรกิจเพียงไม่กี่คน โดยที่ธุรกิจส่วนรวมของประเทศไม่ได้รับผลประโยชน์อันใดเลย
การกระตุ้นเศรษฐกิจในยามนี้ด้วยมาตรการทั้งสองนี้และในสถานการณ์ที่ประเทศได้รับผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสจึงอาจทำให้ประเทศไทยหัวใจวายก็ได้ จึงต้องระวังให้จงหนัก!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี