“คนหิวอยู่เป็นปกติสุขไม่ได้
ต้องวิ่งหาโน่นหานี่
เจออะไรก็คว้าติดมือโดยไม่สำนึกผิดถูก
คนที่หลงจึงต้องแสวงหา
ถ้าไม่หลงก็ไม่ต้องหา
จะตื่นตะครุบเงาไปทำไม”
คำสอนของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ
คำสอนดังกล่าวที่ยกมานี้ใช้ได้กับความหิวทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะหิวอะไร หากใครเป็นอย่างนี้จะเรียกว่าเป็นคนไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ และไม่รู้จักประมาณก็ได้ ต้องกลายเป็นคนโลภ คนงก เป็นคนที่หิวอยู่ตลอดเวลา
มีอำนาจเท่าไรยังไม่พอก็เรียกว่าเป็นคนหิวอำนาจได้
ถ้าบ้านเมืองใดมีคนที่หิวในอำนาจตลอดเวลามาเป็นผู้บริหารบ้านเมืองนั้นหรือประเทศนั้นก็ต้องเสื่อมโทรมและพังทลายไปในที่สุด
ใครก็ตามที่เป็นคนอย่างว่านี้ แม้จะหมดเวลาในการใช้อำนาจตามระยะเวลาที่กำหนด แต่ยังไม่อยากจะหมดอำนาจ ต้องเร่หาวิธีการต่างๆมาใช้เพื่อสืบต่ออำนาจ หรือดำเนินการในรูปแบบเพื่อให้ดูดี เช่น ในทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยที่ได้อำนาจมาตามระบอบเลือกตั้ง คนประเภทนี้ก็จะแสวงหาพรรคพวกในทางการเมือง ซึ่งได้แก่นักการเมือง หรือพรรคการเมือง มาคอยสนับสนุนให้ตนยังได้รับตำแหน่งหน้าที่ในการใช้อำนาจ หรือมีอำนาจอย่างเดิมต่อไป
หรือแม้กระทั่งการจัดตั้งพรรคการเมืองของตนขึ้นมาเอง โดยให้พรรคพวกของตนที่รู้ใจเป็นคนจัดการ รวบรวมผู้คนมาเข้าพรรคโดยเฉพาะคนที่มีแววว่าเลือกตั้งเมื่อใดก็ได้รับการเลือกตั้งเมื่อนั้น อย่างที่กำลังเห็นกันอยู่ในขณะนี้
คำว่า “นักการเมือง” นั้น ชื่อก็บอกแล้วว่า เป็นคนที่เข้ามาทำหน้าที่ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนราษฎร หรือเป็นรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี หรือตำแหน่งอื่นที่มีอยู่ในทางการเมือง ซึ่งคนเหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลสาธารณะ
คนเหล่านี้มีทั้งดีและไม่ดี
นักการเมืองที่ดีก็ได้การยกย่องนับถือ คนที่ไม่ดีก็ได้รับคำประณาม มีอยู่ให้เห็นในแวดวงทางการเมืองบ้านเราขณะนี้ ทั้งคนหน้าเก่าและคนหน้าใหม่
ที่มาของนักการเมืองบ้านเรานั้น ถ้าจะแบ่งออกให้เห็นอย่างกว้างๆแล้ว มีที่มาจากแหล่งที่แตกต่างกัน 5 ประการด้วยกัน คือ
1.นักการเมืองโดยสายเลือดที่สืบทอดกันมา
2.นักการเมืองที่มาจากอาชีพต่าง
3.นักการเมืองท้องถิ่น
4.นักธุรกิจการเมือง
5.นักวิชาการประเภทต่างๆ
ทั้ง 5 ประเภทดังกล่าว มีให้เห็นในวงการเมืองบ้านเราในสภาผู้แทนราษฎร หรือในฝ่ายบริหารขณะนี้ ไม่เว้น “นักการเมืองจำเป็นที่ต้องเข้ามาทำงานทางการเมือง” ตามสถานการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจมาก่อน แม้กระทั่งคนที่มาจากการยึดอำนาจ
ในระยะเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ได้มีนักการเมืองอีกประเภทหนึ่งเกิดขึ้นในบ้านเรา นั่นก็คือ “นักธุรกิจการเมือง” ที่เข้ามามีบทบาทในทางการเมืองมากขึ้นในบ้านเราขณะนี้ เพราะ “เงิน” เป็นปัจจัยสำคัญในการได้มาซึ่งอำนาจ
“นักธุรกิจการเมือง” ที่ดีๆก็พอมีในบ้านเรา ที่ใช้เงินใช้ทองอย่างตรงไปตรงมาในกระบวนการต่างๆของการเข้าสู่เวทีการเมือง แต่ก็มี “นักธุรกิจการเมืองอีกจำพวกหนึ่งที่สวมหน้ากาก “คนดี” แต่ใช้อำนาจเงินของตนไปในหนทางที่ไม่สุจริตเพื่อการได้มาซึ่งอำนาจ ไม่ว่าจะในการเลือกตั้ง หรือในการซื้อตำแหน่งเพื่อเข้ามามีอำนาจหน้าที่ทางการเมือง
รูปโฉมทางการเมืองบ้านเราในขณะนี้ เงินเป็น “แก้วสารพัดนึก” ให้กับความสำเร็จที่ต้องการ เข้าทำนองที่ว่า “มีเงินก็จ้างผีโม่แป้งได้” หรือ “มีเงินแล้วก็จ้างผีลงคะแนนได้” นั่นเองทำให้การเมืองบ้านเราขณะนี้กลายเป็นธุรกิจการเมืองไปอย่างที่เห็นๆกันอยู่ในขณะนี้
พรรคการเมืองใหม่ๆที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ จำเป็นต้องมีเงินเป็นองค์ประกอบสำคัญ ทั้งในการจัดตั้งพรรค การหาคนเข้าพรรค การบริหารพรรค เป็นต้น โดยเฉพาะในเวลาเลือกตั้งที่ต้องแข่งขันกันทุกพรรคการเมืองที่ลงสนามเลือกตั้ง
พรรคการเมืองใหม่ๆที่มีการจัดตั้งขึ้นขณะนี้ โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหม่บางพรรคที่ออกมาประกาศตนอย่างเปิดเผยว่า เป็นพรรคที่สนับสนุนผู้มีอำนาจในการบริหารปกครองบ้านเมืองขณะนี้ให้ได้เป็นโน่นเป็นนี่อย่างที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น พรรคการเมืองใหม่ที่ว่านี้ ไปเอาเงินเอาทองจากไหนมาใช้จ่ายดำเนินการ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูให้ดี
โดยสรุปแล้วการเมืองบ้านเราก็ยังวนเวียนอยู่อย่างนี้ในทางการเมือง โดยเฉพาะ “คนหิวอำนาจ” ที่ทำได้ทุกอย่าง และวิ่งหาโน่นหานี่อย่างไม่เป็นปกติสุข
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี