สังคมไทยมีภาพลวงตามากมายเหลือเกิน ภาพลวงตาที่เกิดในสังคมไทยนั้นเกิดมาจากคนบางคนจงใจสร้างขึ้น แต่ก็ยังมีภาพลวงตาอีกมากมายที่เกิดขึ้นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนบางกลุ่มที่หลงเชื่อคำลวงอย่างแสนง่ายดาย
คำลวงอย่างหนึ่งในสังคมไทยที่ถูกสร้างขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยคนสร้างภาพ ที่จงใจสร้างวาทกรรมเพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อให้กลุ่มของตนเองขึ้นไปมีอำนาจรัฐคือ สังคมไทยมีความไม่เสมอภาค มีความไม่เท่าเทียม มีความอยุติธรรม และเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ
คนที่มีสติปัญญาในสังคมไทยต่างประจักษ์ดีเสมอมาว่า “ปีศาจ” ในสังคมไทยนั้นถูกประดิษฐ์ขึ้นมาโดยคนสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่มีอำนาจรัฐ และกลุ่มที่ต้องการชิงอำนาจรัฐ โดยทั้งสองกลุ่มได้สร้างปีศาจขึ้นมา แล้วฝังภาพของปีศาจลงในความนึกคิดของประชาชนผู้ที่อ่อนด้อย และรู้ไม่เท่าทันกลเกมการเมือง
ดังนั้นปีศาจในสังคมไทยจึงได้เกิดขึ้นตลอดเวลา แล้วคอยหลอกหลอนคนที่รู้ไม่ทันเรื่อยมาและอาจจะตลอดไป โดยผู้สร้างปีศาจกลุ่มหนึ่งก็ชอบอ้างตลอดเวลาว่า ปีศาจมาจากคนที่อยู่ในฝั่งอนุรักษ์นิยม หรือพวกโลกเก่า มีความคิดเก่าๆ
ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งก็สร้างปีศาจขึ้นมาเช่นกัน โดยกำหนดให้คนรุ่นใหม่ หรือคนที่ชอบเรียกตัวเองว่าคนหัวก้าวหน้า กลุ่มเสรีนิยม หรือพวกต่อต้านอนุรักษ์นิยม ว่าเป็นปีศาจที่คอยล้มล้างสิ่งดีงามในอดีต เป็นปีศาจที่ทำลายล้างความร่มเย็นเป็นสุขของสังคม
ดังนั้นสังคมไทยจึงเต็มไปด้วยปีศาจซึ่งแต่ละฝ่ายจงในประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อหวังใช้ปีศาจที่ตนสร้างขึ้นเป็นเครื่องมือทำลายล้างฝ่ายที่เห็นไม่เหมือนกับตนเอง
สำหรับคุณๆ ที่เคยอ่านนวนิยายเรื่อง ปีศาจ ของเสนีย์ เสาวพงศ์ (ศักดิ์ชัย บำรุงพงศ์) มาแล้วหลายรอบ คงจะคุ้นเคยกับประโยคในนวนิยายเรื่องนี้ ที่ระบุว่า
“ผมเป็นปีศาจที่กาลเวลาได้สร้างขึ้นมาหลอกหลอนคนที่อยู่ในโลกเก่า ความคิดเก่า ทำให้เกิดความละเมอหวาดกลัว และไม่มีอะไรที่จะเป็นเครื่องปลอบใจท่านเหล่านี้ได้ เท่ากับไม่มีอะไรหยุดยั้งความรุดหน้าของกาลเวลาที่จะสร้างปีศาจเหล่านี้ให้มากขึ้นทุกที”
คำพูดนี้ออกมาจากปากของ สาย สีมา ตัวละครหลักของเรื่องปีศาจ โดยสาย สีมา ได้ตอบโต้กับ ท่านเจ้าคุณ ซึ่งเป็นคุณพ่อของสาวรายหนึ่งที่สาย สีมา เกิดไปหลงรักเข้า แน่นอนว่า สาย สีมาย่อมต้องรู้ดีอยู่แก่ใจว่า เศรษฐสถานะของเขากับลูกสาวท่านเจ้าคุณมันต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ถึงกระนั้นสาย สีมา ก็ยังคงยืนยันว่าตนเองมั่นคงในความรัก แล้วจึงกล่าวตอบโต้กับท่านเจ้าคุณด้วยประโยคข้างต้น หลังจากสาย สีมา ถูกท่านเจ้าคุณและผองเพื่อนของท่านเจ้าคุณแสดงอาการเหยียดหยาม ดูแคลนในเรื่อง ความไม่รู้จักเจียมกะลาหัว ไม่รู้จักฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ ไม่ตักน้ำใส่กะโหลก แล้วชะโงกดูเงาของตนเองเสียบ้าง
แน่นอนว่า สังคมไทยและสังคมโลกยังมีเรื่องของชนชั้นดำรงอยู่ เมื่อชนชั้นยังดำรงอยู่ มันจึงถูกคนบางกลุ่มนำไปสร้างเป็นตัวปีศาจร้ายเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยคนที่อ้างว่าตนเองเป็นคนหัวใหม่ หัวทันสมัยก็จะอ้างว่าพวกหัวเก่า ไดโนเสาร์เต่าล้านปี เป็นผู้สร้างปีศาจเรื่องของชนชั้นขึ้นมาเพื่อกีดกันขัดขวางผู้ที่ต่ำศักดิ์กว่ามิให้เข้าไปมีโอกาสสมาคมกับผู้ที่มีเศรษฐสถานะ และชนชั้นสูงกว่า ซึ่งในประเด็นนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นความจริง แต่มิได้เป็นความจริงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น เพราะในที่ต่างๆ ทั่วทั้งโลกก็เป็นเช่นนี้ ยกเว้นมีเพียงที่เดียวที่ไม่มีชนชั้นคือในความฝันของพวกที่ต้องการจะกำจัดชนชั้น ซึ่งก็ไม่มีวันจะเกิดขึ้นได้จริง
ไม่ต้องดูอะไรมากเลย ดูแค่ในอดีตพรรคอนาคตใหม่ก็ได้ เพราะเห็นได้ชัดเจนว่า ก็ยังมีเรื่องของชนชั้น ตำแหน่งแห่งที่ แม้คนในอดีตพรรคอนาคตใหม่จะพยายามปฏิเสธความจริงในเรื่องนี้แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความจริงเรื่องชนชั้นภายในอดีตพรรคฯ การเมืองที่เพิ่มถูกยุบไปได้
มีผู้ตั้งคำถามว่า ภายในอดีตพรรคอนาคตใหม่นั้น ทุกคนในพรรค เท่าเทียมกันจริงหรือ เพราะแม้กระทั่งคนที่เคยอยู่กับพรรคนี้มาก่อนยังบอกกับผู้เขียนว่า ความเท่าเทียมภายในพรรคอนาคตใหม่เป็นเพียงเรื่องสมมุติ เป็นเรื่องเสมือนจริง ที่ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างแท้จริง เพราะคนที่คิดไม่เหมือนกับแกนนำพรรค หรือผู้บริหารพรรค ก็จะไม่สามารถอยู่ในพรรค ได้ต่อไป หากมีความเท่าเทียมภายในพรรคอนาคตใหม่แท้จริงแล้ว ทุกคนก็ต้องสามารถคิดและทำตามสิ่งที่แต่ละคนคิดและเชื่อได้ โดยไม่มีใครสามารถขัดขวางความคิดความเชื่อและการกระทำของใครได้ เนื่องจากทุกคนเท่าเทียมกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีปีศาจที่น่ากลัวมากที่สุดอีกตัวหนึ่งในสังคมไทย ปีศาจที่ว่านั้นคือ คนที่เชื่อมั่นว่าตนเองเป็นผู้ที่ถูกต้องที่สุด ส่วนคนอื่นที่คิดและเชื่อไม่เหมือนกับตัวเองคือผู้ที่เลวร้าย และเป็นผู้ที่สมควรต้องถูกกำจัดให้หายไปจากสังคม
ปีศาจที่ว่านี้คือคนที่อ้างว่าตัวเองรู้กฎหมายเป็นอย่างดีเพราะมีสถานะเป็นถึงอาจารย์สอนกฎหมายในมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งหนึ่ง แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจมากกับคนที่ติดตามดูพฤติกรรมของปีศาจในคราบนักกฎหมายที่พยายามยกตนว่าตัวเองเป็นผู้รอบรู้ด้านกฎหมายอย่างเอกอุจนยากจะหาใครทัดเทียมได้จนในที่สุดก็ทำให้ตัวของคนผู้นั้นเกิดอาการสติหลุดในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยนักกฎหมายที่คิดว่าตัวเองเก่งฉกาจเกินใครๆ ถึงกับแสดงอาการดูหมิ่นศาลอย่างซึ่งๆ หน้าต่อหน้าสาธารณชน
จนทำให้สังคมไทยเกิดคำถามตามมาว่า หากปีศาจที่อ้างว่าตนเองเก่งฉกาจด้านกฎหมายสามารถแสดงอาการดูหมิ่นศาลได้อย่างโจ่งแจ้งแล้ว คนอื่นๆ ในสังคมไทยจะสามารถทำพฤติกรรรมเดียวกับปีศาจตนนั้นได้หรือไม่ หากกระทำแล้วศาลจะปล่อยให้คนอื่นๆ ไม่ต้องรับผิดเหมือนกับที่ปีศาจได้กระทำหรือไม่
ปีศาจในหนังสือของเสนีย์ เสาวพงศ์ เป็นปีศาจที่ถูกเขียนขึ้นมาตามความคิดของนักเขียนนวนิยาย แต่ปีศาจที่ดูถูกศาลอย่างซึ่งๆ หน้านั้น ไม่ได้มาจากนวนิยาย แต่มีตัวตนจริงๆ และได้กล่าวคำดูหมิ่นศาลจริงๆ
ปีศาจในหนังสือไม่สามารถทำให้สังคมไทยพังพินาศได้แต่ปีศาจที่มีตัวตนจริงๆ สามารถทำให้สังคมไทยเกิดความเกลียดชังกันได้อย่างลึกล้ำ เพราะปีศาจตนนั้นประกาศถ้อยคำบิดเบือนสารพัดชนิด เช่น ไม่มีใครตรวจสอบศาลได้ และไม่มีใครตรวจสอบ กกต. ได้
มีคำถามต่อไปว่า ปีศาจตนที่ว่านั้นเข้าใจกฎหมายไทยอย่างแท้จริงหรือไม่ หรือว่าในความจริงนั้น ปีศาจตนนั้นไม่มีความรู้ด้านกฎหมายไทยอย่างแตกฉานแม้แต่น้อย แต่กลับแสดงภาพลวงตาว่ารู้จริง แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้น คนในสังคมไทยที่บอกว่ารู้ทันกลอุบายของปีศาจตนนั้น ให้ความเห็นว่า แท้จริงแล้วปีศาจตนนั้นเข้าใจกฎหมายไทยดี และเข้าใจลึกซึ้ง แต่ตั้งใจบิดเบือนหลักกฎหมายไทย ด้วยความมุ่งหวังให้คนที่ไม่รู้เท่าทันหลงกลอุบาย แล้วหลงเข้าใจว่าพรรคอนาคตใหม่ถูกกลั่นแกล้งรังแกด้วยอำนาจอันไม่เป็นธรรมจากใครบางคนที่ปีศาจตั้งธงไว้ว่าเป็นศัตรูตัวใหญ่ของตนเอง โดยในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่นั้น ปีศาจได้หลุดคำว่า ผู้กำกับการแสดง แล้วที่สำคัญคือปีศาจตนนั้นได้หลุดคำว่า โลกของเราเป็นคนละโลก โลกของผมเป็นของธรรมดาสามัญชน
คำพูดต่างๆ นานา ที่หลุดจากปากของปีศาจทั้งในยามที่ปีศาจอยู่ในอาการโกรธจนเสียสติ กับในยามที่ปีศาจยังดูเสมือนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ล้วนแล้วแต่ส่อแสดงชัดเจนถึงโลกคนละโลกระหว่างธรรมดาสามัญชนกับโลกของคนที่ไม่ใช่ธรรมดาสามัญชน
น่าสนใจมากกับการที่ปีศาจระบุว่ามีผู้กำกับการแสดง แล้วระบุว่าผู้กำกับการแสดงจะไม่ได้ในสิ่งที่ตั้งความหวังไว้ คำถามคือปีศาจเห็นและเชื่อเอาเองว่าใครคือผู้กำกับการแสดง
สิ่งที่สาธารณชนสนใจมากเป็นพิเศษอีกประการหนึ่งคือ เหตุใดปีศาจจึงจงใจบิดเบือนหลักกฎหมายไทย ทั้งๆ ที่ปีศาจตระหนักและประจักษ์ดีมาโดยตลอดว่า การจงใจทำผิดกฎหมายพรรคการเมืองคือมูลเหตุสำคัญที่ทำให้พรรคต้องถูกยุบ
สาเหตุที่ปีศาจจงใจบิดเบือนกฎหมายไทย เพราะปีศาจต้องการให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมทางการเมือง จนกลายเป็นเหตุมิคสัญญีกลียุค เลือดคนไทยท่วมนองพื้นปฐพี ใช่หรือไม่ ปีศาจเอ๋ย เจ้าคิดว่าเจ้าลึกซึ้งมากจนไม่มีใครล่วงรู้แผนการเลวร้ายของเจ้ากระนั้นหรือ เจ้าชะล่าใจมากไป จนเจ้าคิดดูถูกสติปัญญาของคนอื่นในสังคมไทยใช่หรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี