ภายหลังจบศึกเลือกตั้งซูเปอร์ทิวสเดย์ (Super Tuesday) ใน 14 มลรัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทำให้พรรคเดโมแครตเหลือแคนดิเดตเพียงสองคนที่ยังต้องสู้กันต่อไป คือโจ ไบเดน (78 ปี) อดีตรองประธานาธิบดี สมัยโอบามากับ เบอร์นี แซนเดอร์ส (79 ปี) วุฒิสมาชิก มลรัฐเวอร์มอนต์ ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็คงต้องทยอยถอนตัวออกจากการแข่งขันไปตามลำดับเพราะรู้ตัวดีว่าถ้ายังขืนทู่ซี้ต่อไปมีแต่จะเสียเงินค่าโฆษณาหาเสียงไปเปล่าๆ
เช่น ไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีเจ้าของสำนักข่าว Bloomberg และอดีตนายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก ที่เอาเงินกว่า 500 ล้านดอลลาร์ มาถลุงเล่นในการหาเสียงศึกซูเปอร์ทิวสเดย์โดยแทบไม่ได้อะไรเลย และทันทีที่ถอนตัว บลูมเบิร์กก็ประกาศขอสนับสนุน โจ ไบเดน เช่นเดียวกับแคนดิเดตอีกหลายคนที่ถอนตัวมาก่อนหน้านั้นแล้วมาสนับสนุนไบเดนเพื่อเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตในการต่อสู้กับพรรครีพับลิกันที่ยังคงส่งแชมป์เก่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ (74 ปี) ลงป้องกันตำแหน่งอีกสมัยตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมา
การที่อดีตแคนดิเดตของเดโมแครตหันมาสนับสนุนไบเดน มากกว่า แซนเดอร์ส ก็เพราะพวกเขามองว่าถ้าไบเดนได้เป็นตัวแทนของพรรคไปสู้กับทรัมป์นั้นไบเดนน่าจะมีโอกาสที่จะชนะทรัมป์มากกว่าเบอร์นี แซนเดอร์ส นอกจากนั้นผลการเลือกตั้งในศึกซูเปอร์ทิวสเดย์ยังบ่งบอกว่า คนอเมริกันที่เป็นเดโมแครตต้องการได้แคนดิเดตที่ลงแล้วจะมีโอกาสชนะทรัมป์มากกว่าการมาพิจารณาดูเนื้อหานโยบายที่ถูกนำเสนอโดยแคนดิเดตแต่ละคน
ความจริงแล้ว ตอนที่ไบเดนเริ่มเปิดตัวใหม่ๆ ในปีที่แล้วนั้น เขาถือเป็นคู่แข่งที่ตัวทรัมป์เองก็ยังกลัวๆ จนต้องหาวิธีการเตะตัดขา ทำลายเครดิตไบเดนต่างๆ นานา จนนำไปสู่การทำให้ตัวเองเข้าสู่กระบวนการถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี (Impeachment) เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ทรัมป์ก็รอดตัวมาได้ด้วยความช่วยเหลือของวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการพ่ายแพ้การเลือกตั้งหยั่งเสียงเบื้องต้นใน 3 มลรัฐแรก คือ ไอโอวา นิวแฮมป์เชียร์และเนวาดาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ไบเดนก็ออกอาการเป๋ไปเกือบสองเดือนเหมือนกัน แต่พลังชีวิตของไบเดนกลับมาอีกครั้งเมื่อเขาได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งหยั่งเสียงของรัฐเซาท์ แคโรไลนา เมื่อสัปดาห์ก่อนและกลับมาระเบิดฟอร์มได้ชัยชนะอีก 10 รัฐ ในศึกซูเปอร์ทิวสเดย์ที่ผ่านมา ขณะที่แซนเดอร์สชนะไป 4 รัฐ
ทั้งไบเดนและแซนเดอร์สจะต้องต่อสู้กันอีก 32 รัฐ ที่เหลือจนถึงปลายเดือนมิถุนายนเพื่อแย่งชิงจำนวนคณะตัวแทนผู้ลงคะแนน(delegates) ให้ได้ 1,991 คน หรือครึ่งหนึ่งของจำนวน delegates ทั้งหมด 3,931 คน เพื่อคณะตัวแทนผู้ลงคะแนนเหล่านี้จะไปลงคะแนนเสียงรับรองให้ไบเดนหรือแซนเดอร์สเป็นตัวแทนผู้สมัครของพรรคเดโมแครตในการลงเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ในการประชุมใหญ่ของพรรคที่จะจัดขึ้นในกลางเดือนกรกฎาคม โดยตอนนี้ไบเดนมีจำนวน delegates อยู่ในมือประมาณ 509 คน ส่วนแซนเดอร์สมี 449 คน
พูดถึง โจ ไบเดน แล้ว เขาถือว่าเป็นรุ่นใหญ่และรุ่นเก๋าคนหนึ่งในสังคมการเมืองอเมริกัน ไบเดนได้รับการเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิก รัฐเดลาแวร์ (Delaware) ตั้งแต่ปี 2515ตอนนั้นไบเดนอายุเพียง 30 ปี ด้วยการชนะอดีตวุฒิสมาชิกแชมป์เก่าผูกขาดของพรรครีพับลิกัน ด้วยคะแนนเพียงสามพันกว่าคะแนน
แต่อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งเดือนต่อมา ว่าที่วุฒิสมาชิกหนุ่ม โจ ไบเดน ต้องสูญเสียภรรยาและลูกสาวคนเล็กอายุเพียงหนึ่งขวบจากอุบัติเหตุรถยนต์ โดยลูกชายคนโตและคนรองได้รับบาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนั้นด้วย ภายหลังเหตุการณ์โศกนาฏกรรมนั้น ไบเดนไม่ต้องการที่จะรับตำแหน่งวุฒิสมาชิกเพราะต้องการจะทุ่มเวลาทั้งหมดเพื่อดูแลลูกชายสองคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เขาก็ได้รับการทักท้วงจากบุคคลรอบข้าง
เดือนมกราคม ปี 2516 ประมาณสองอาทิตย์กว่าหลังจากการสูญเสียภรรยาและลูกสาวคนเล็ก ไบเดนตัดสินใจสาบานตนเข้ารับตำแหน่งวุฒิสมาชิก มลรัฐเดลาแวร์ ที่โบสถ์เล็กๆ แห่งหนึ่งในเมือง Wilmington โดยมี โบ ไบเดนลูกชายคนโตนั่งอยู่บนรถเข็นและ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกคนที่สองที่พึ่งออกจากโรงพยาบาลมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
ภายหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ไบเดน แทบจะไม่ได้เดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะอีกเลย โดยเฉพาะส่วนใหญ่เวลาที่ต้องมาประชุมวุฒิสภา ไบเดนเลือกที่จะนั่งรถไฟฟ้าจากรัฐเดลาแวร์มาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตลอดเป็นระยะเวลา 30 กว่าปี (2516-2551) ในช่วงที่เขาเป็นวุฒิสมาชิก ก่อนที่จะมาเป็นรองประธานาธิบดี
ในปี 2552-2559
ปี 2558 ไบเดนต้องสูญเสีย โบ ไบเดน ลูกชายคนโตวัย 46 ไปด้วยโรคมะเร็งสมองตอนนั้นโบ ไบเดน กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของการเมืองอเมริกันคนหนึ่ง เมื่อเขากำลังเป็นตัวเต็งที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐเดลาแวร์
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ว่าทำไมไบเดนถึงคว้าชัยชนะ 10 ใน 14 รัฐ ศึกเลือกตั้งซูเปอร์ทิวสเดย์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพราะความสูญเสียสองครั้งใหญ่ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้ไบเดนสามารถสื่อสารเข้าไปในจิตใจของชาวเดโมแครตที่มีความไม่ชอบทรัมป์เป็นเจ้าเรือน ตั้งแต่ระดับธรรมดาๆ ไปจนถึงขึ้นระดับที่โกรธและรังเกียจกับพฤติกรรมที่ชอบลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น(dehumanize) อยู่ตลอดเวลาของทรัมป์ไม่ว่าจะเป็นคนผิวสี ชนกลุ่มน้อย ผู้อพยพ ชาวต่างด้าว หรือแม้กระทั่งคนอเมริกันด้วยกันเองอย่างพวกชาวเดโมแครต
ธิติ สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี