ผมก็ยังเดาไม่ถูกว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน แต่เอาเป็นว่าทุกคนมีความหวัง มีความตั้งใจจริง ซึ่ง พรรคกล้าได้จัดประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรค ไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
มีการคัดเลือกผู้บริหารพรรค คือ 1.นายกรณ์ จาติกวณิชหัวหน้าพรรค 2.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค 3.นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค 4.นายภิมุข สิมะโรจน์รองหัวหน้าพรรค 5.นายพงษ์พรหมยามะรัต รองหัวหน้าพรรค 6.นายณัฐนันทน์ กัลยาศิรินายทะเบียนพรรค 7.ดร.เอราวัณทับพลี เหรัญญิกพรรค 8.นายเบญจรงค์ ธารณา กรรมการบริหาร และ 9.นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหาร
และยังได้มีการประกาศ 4 อุดมการณ์ทางการเมือง คือ 1.ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เข้มแข็งมั่นคง ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.ปฏิบัตินิยมคู่คุณธรรม นำไทยก้าวหน้า ทันสมัย พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงและวิกฤตการณ์ของโลก 3.ระบบเศรษฐกิจเสรีมีความรับผิดชอบต่อสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการแข่งขัน ขจัดการผูกขาด และ 4.คนไทย ครอบครัวไทย ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
โดยนายกรณ์กล่าวว่า ทุกคนมาด้วยความตั้งใจที่จะสร้างพรรคการเมืองที่เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนคนไทย ด้วยเจตนามุ่งมั่นที่จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ “การทำให้คนไทยมีความหวังในอนาคตที่ดีขึ้น”
หัวหน้าพรรคกล้าได้พูดในหลายประเด็น และสรุปในตอนท้ายว่า “วันนี้คนไทยกำลังพบกับความท้าทายรอบด้าน สังคมแตกแยก การทำมาหากินลำบาก ระบบราชการอุ้ยอ้าย คนเก่งคนทำงานไม่มีโอกาส กฎหมายล้าสมัย เทคโนโลยีล้าหลัง ปัญหาพื้นฐานขาดการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็น เรื่องน้ำและที่ดินของเกษตรกร เรื่องการศึกษาของเยาวชน เหล่านี้คือภารกิจของเรา เราจะรวมตัวคนมีของในแต่ละด้าน และชักชวนเขามาทำงานการเมือง ประเทศต้องอาศัยมืออาชีพทำงาน พวกเราทุกคนในพรรคกล้าขอประกาศว่า “เรามาเพื่อลงมือทำ”
ครับ! นายกรณ์ เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แต่ผู้ใหญ่ในพรรคดองเค็มเอาไว้ไม่ใช่งานอะไรไม่สมกับที่เคยเป็นอดีตรมว.คลัง มาก่อนถึงตอนนี้เป็นหัวหน้าพรรคกล้าเต็มตัวแล้ว คงจะได้แสดงฝีมือแนวความคิดออกมาให้ประชาชนได้เห็นกัน
ผมคิดว่าการบ้านข้อแรก ที่ควรไปศึกษาคือกรณี “ความวิตกกังวล” ของประชาชน ที่สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ไปสำรวจมาก 1,162 คนเมื่อเร็วๆ นี้
อันดับ 1 ปากท้อง 78.45% สาเหตุ สภาพเศรษฐกิจตกต่ำรายได้ไม่พอจ่าย สินค้าขายเกินราคา ทำมาหากินยากขึ้น มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ฯลฯ วิธีป้องกัน/แก้ไขต้องดูแลตัวเองประหยัดอดทนทำงานให้มากขึ้น หารายได้เสริมรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ
อันดับ 2 โควิด-19 71.47% สาเหตุ ระบาดทั่วโลกมีผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงเข้ามาในไทยต่อเนื่อง มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ยังไม่มีมาตรการป้องกันที่ชัดเจน หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ขาดตลาด ฯลฯ วิธีป้องกัน/แก้ไข รัฐบาลมีพื้นที่กักตัวผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เร่งแก้ปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย ดูแลช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ประสบปัญหา รายงานข้อมูลที่เป็นจริงให้ประชาชนได้รับรู้ ฯลฯ
อันดับ 3 โจร ผู้ร้าย 64.51% สาเหตุ มีข่าวให้เห็นทุกวัน พฤติกรรม รูปแบบการก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น กลัวว่าจะเกิดกับตัวเองหรือกับคนในครอบครัว สภาพเศรษฐกิจและสังคมเสื่อมโทรม ฯลฯ วิธีป้องกัน/แก้ไข ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจในทุกพื้นที่ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพิ่มบทลงโทษให้รุนแรง ฯลฯ
อันดับ 4 การเมือง 58.93% สาเหตุ รัฐบาลแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ตรงจุด มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยมีการชุมนุมเคลื่อนไหว บ้านเมืองวุ่นวาย ฯลฯ วิธีป้องกัน/แก้ไข ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ รัฐบาลควรเร่งสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ ฯลฯ
อันดับ 5 ธุรกิจท่องเที่ยว 57.60% สาเหตุ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงผู้ประกอบการขาดทุน ปิดกิจการ คนตกงาน ฯลฯวิธีป้องกัน/แก้ไข รัฐบาลและภาคเอกชนต้องหารือร่วมกันรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา ธุรกิจท่องเที่ยวต้องปรับตัว กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ฯลฯ
ถ้าพรรคกล้า มีข้อเสนอหรือแนวทางแก้ไขปัญหาใกล้ตัวประชาชนที่ดีกว่านี้ ก็รีบๆ เสนอมานะครับ เผื่อจะได้จุดประกายความหวังของสังคมที่เป็นรูปธรรมได้บ้าง!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี