เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 ตรงกับ “วันช้างไทย” หรือวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี ซึ่งในมุมหนึ่งช้างก็เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศ แต่ในอีกมุมหนึ่ง สภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ควาญช้างจำเป็นต้องเลี้ยงชีพ จึงมีการนำช้างมาฝึกให้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่สนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยว ตั้งแต่การให้นักท่องเที่ยวขี่ไปจนถึงการแสดงต่างๆ
อย่างไรก็ตาม “กระบวนการฝึกช้างนั้นทำให้นักสิทธิสัตว์ไม่สบายใจนัก” ดังภาพข่าวที่ถูกเผยแพร่ในสื่อต่างประเทศหลายสำนัก เช่น รายงานพิเศษ “Elephants in Thailand ‘broken’ for lucrative animal tourism” เมื่อเดือน ธ.ค. 2562 มีการกล่าวถึงพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ อาทิ ลูกช้างถูกพรากจากแม่ ใช้ขอสับ บางครั้งปล่อยให้อดอาหาร มีการทำให้ช้างเชื่องก่อนขายให้กับแหล่งท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ที่โฆษณาว่าเป็นเขตอนุรักษ์ เป็นต้น
เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย สาธิต ปรัชญาอริยะกุล ขอสะท้อนมุมองส่วนตัวโดยไม่เกี่ยวข้องกับสมาคม ถึงเรื่องนี้ ว่า ปัจจุบันมีกฎหมายที่เกี่ยวกับช้างไทยหลายฉบับและมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับช้างหลายหน่วยงานหลายกระทรวง ดังนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบควรมีการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างจริงจัง
เช่น พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งถ้ามีลักษณะที่เข้าข่ายการทารุณกรรมช้างหรือการจัดสวัสดิภาพช้างไม่เหมาะสมก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ และในขณะนี้ทางกรมปศุสัตว์ ได้แต่งตั้งคณะทำงานในการศึกษาและเสนอความเห็นในการจัดทำร่าง ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวัสดิภาพช้างในปางช้างรวมทั้งในขณะนี้กำลังมีการจัดทำ (ร่าง) พ.ร.บ.ช้างแห่งชาติซึ่งก็มีการศึกษาและยกร่างกฎหมายฉบับนี้ คาดว่าจะมีการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องช้างโดยเฉพาะ
สำหรับด้านการศึกษาและวิจัยสวัสดิภาพช้างรศ.น.สพ.ดร.ฉัตรโชติ ทิตาราม คณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนักวิชาการหลากหลายสถาบันที่เกี่ยวข้อง ได้จัดทำคู่มือการจัดสวัสดิภาพของช้างเลี้ยงเอเชียที่ใช้ในการท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมทั้งมี กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงช้างในภูมิภาคเอเชีย (Asian Captive Elephant Working Group : ACEWG) ได้จัดทำแนวทางปฏิบัติเพื่อสวัสดิภาพของช้างเลี้ยงในเอเชีย เรื่องการจัดการปัญหาช้างเลี้ยงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คณะทำงานมีความเห็นที่น่าสนใจ เช่น “ควรมีการศึกษาการปล่อยช้างเลี้ยงเข้าป่า แต่ในปัจจุบันทางเลือกนี้ไม่สามารถเป็นไปได้ทั้งหมด เนื่องจากช้างเลี้ยงส่วนใหญ่ขาดที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และยังพบปัญหาความขัดแย้งของคนกับช้างในทวีปเอเชีย”ดังนั้นการปล่อยช้างเข้าสู่ป่า อาจทำให้ปัญหาความขัดแย้งนี้เพิ่มสูงขึ้น “การใช้ช้างในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นมีความหลากหลาย แต่ไม่มีข้อควบคุมการทำงานของช้าง” เช่น การนั่งช้าง การอาบน้ำ การมีกิจกรรมร่วมกับนักท่องเที่ยว การแสดงโชว์ การฝึกควาญช้างและการจัดการท่องเที่ยวชมช้าง
นอกจากนี้ยังสามารถเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และการศึกษาเกี่ยวกับช้าง ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับช้างนั้นมีมานานกว่าพันปี ธุรกิจการท่องเที่ยวปางช้างจะช่วยรักษาความรู้และวัฒนธรรมการเลี้ยงช้างในอดีต และยังแสดงให้เห็นถึงความผูกพันของคนกับช้างที่ช่วยส่งเสริมความเข้าใจและคุณค่าของช้าง ช้างเป็นสัตว์ที่ฉลาดและสามารถเคลื่อนที่ได้ มีการพึ่งพาในกลุ่ม และมีโครงสร้างทางสังคมที่มีความซับซ้อน การเลี้ยงช้างจึงต้องมีการจัดการที่ดีและต้องการการดูแลอย่างมืออาชีพ
ทั้งนี้ “ช้างสามารถทำอันตรายต่อคนและช้างด้วยกันไม่ว่าช้างเลี้ยงหรือช้างป่า จึงจำเป็นต้องมีการจัดการที่เหมาะสม” การศึกษาทางวิทยาศาสตร์จะมีส่วนช่วยเพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติที่มีการคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์และปรับปรุงวิธีการจัดการช้างในอนาคตช้างเลี้ยงส่วนใหญ่มีเจ้าของหรือถูกดูแลตามแบบวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีการสืบทอดกันมากว่าพันปี ความพยายามที่จะพัฒนาคุณภาพการจัดการช้างเลี้ยง โดยสร้างความเข้าใจวิธีการเลี้ยง การจัดการช้างแบบใหม่ตลอดจนการนำมาปฏิบัติ ต้องอาศัยระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลง
“การจัดทำแผนการขึ้นทะเบียนช้างอย่างเป็นทางการนั้นมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะช่วยลดการค้าช้างที่ผิดกฎหมาย การดูแลสุขภาพของช้างรายเชือกที่เป็นระบบ อันจะทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก เช่น ข้อมูลการเกิด การเสียชีวิต การผสมพันธุ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการจัดการทางพันธุกรรมและการจัดการประชากรช้างที่ยั่งยืน เป็นต้น”
แม้ปัจจุบันแนวความคิดในเรื่องการจัดการและสวัสดิภาพช้าง ยังอาจจะเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้างระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ หรือภายในกลุ่มเลี้ยงช้างภายในประเทศ ซึ่งมีแนวความคิดการเลี้ยง 2 แบบ ตามความเชื่อแบบชาวตะวันออก เช่น ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เห็นว่ายังคงใช้ช้างได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขต กฎหมายและเงื่อนไขที่เน้นสวัสดิภาพสัตว์ ส่วนชาวตะวันตก เช่น ประเทศในสหภาพยุโรปและกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ NGOs เน้นการไม่ใช้ช้าง
แต่การเลี้ยงช้างในประเทศไทย คือวิถีชีวิตของคนไทยที่ผูกพันกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานซึ่งต่างประเทศอาจจะไม่มี ทำให้มุมมองและวิธีคิด ประสบการณ์เรื่องดังกล่าวแตกต่างกัน ดังนั้นกระบวนการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ข้อกำหนด แนวทางปฏิบัติต่างๆ รวมทั้งการสอดส่องป้องกันและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ องค์ความรู้ความคิดเห็น ข้อมูลทางวิชาการที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับด้านการจัดการและสวัสดิภาพช้างไทยนั้น
จะเป็นการช่วยพัฒนาในการจัดการช้างไทย ให้มีสวัสดิภาพและลดปัญหาการทารุณกรรมได้ เพื่อให้คนอยู่กับช้าง ช้างอยู่กับคนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างปกติสุขยิ่งขึ้นต่อไป!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี