ธรรมชาติย่อมเข้าข้างมนุษย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาฝนกระหน่ำห่าใหญ่ ทำหน้าที่เทศกิจชะล้างฝุ่นละอองใน กทม. ทำให้คลายร้อนช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีๆ กลับคืนมาบ้าง
ก็ถือว่าเหมาะสมกับคุณภาพและความสามารถ ที่ผลโพลล์จัดอันดับให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เป็นรัฐมนตรีที่ทำให้เกษตรกรมีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะ รมว.เกษตรฯ ยึดสโลแกน “คำไหนคำนั้น” ล่าสุดก็ต้องเติมคำว่า “ทำงานค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่นเพื่อให้งานสำเร็จ” เพราะภารกิจมากมายต่อเนื่อง ต้องเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง
แต่ก็โชคดีที่ยังมีตัวช่วย หลายๆ ท่าน เก่งกาจด้วยความรู้ประสบการณ์ แบ่งเบาภารกิจดูแลชาวบ้าน อย่าง นายอลงกรณ์ พลบุตร ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ วันก่อน ก็รับมอบหมายงานไปปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานเปิดงาน รณรงค์หยุดเผาในพื้นที่การเกษตร-
ตัดอ้อยสดลดมลพิษ ณ แปลงเรียนรู้ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกอ้อยแปลงใหญ่ บ้านหนองผักหนาม ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ชูพื้นที่ทำแปลงใหญ่อ้อยอัจฉริยะ ขับเคลื่อนมาตรการลดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมแบบยั่งยืน
ซึ่งทาง ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์กล่าวหลังการเปิดงาน ว่า หลังจากที่ คณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อน การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง เป็นวาระแห่งชาติกระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมกำหนดนโยบาย และมาตรการเพื่อเร่งยกระดับการแก้ไขปัญหา เนื่องจากสถานการณ์วิกฤติหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้น สาเหตุหนึ่งเกิดจากการเผาในพื้นที่เกษตรเพื่อเตรียมเพาะปลูกในฤดูถัดไป และเผาเพื่อเก็บเกี่ยวอ้อย ทำให้เกิดหมอกควันและฝุ่นละออง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของเกษตรกรเอง
รวมทั้งทำให้ดินเสื่อมโทรม ต้นทุนการผลิตสูง ผลผลิตลดลง การแก้ไขโดยให้เกษตรกรเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงปัญหา รวมถึง แสดงนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนและเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะลดทั้งปัญหามลพิษ ลดทรัพยากรต่างๆ เป็นการแก้ไขในระยะยาว ทั้งปัญหาแรงงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
พระเอกของนายอีกคนหนึ่ง คือ นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่าการรณรงค์หยุดเผาในพื้นที่เกษตร ได้รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรตระหนักและเข้าใจ รวมถึงการสร้างเครือข่ายชุมชนปลอดการเผา ได้กว่า 1,600 แห่ง เพื่อที่จะเฝ้าระวังอย่างจริงจัง ควบคู่กับการส่งเสริมแนวทางการเกษตรยั่งยืน ใช้เศษวัสดุทางการเกษตร นำมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นทำปุ๋ยหมัก ผลิตเป็นพลังงานทดแทน การเพาะเห็ด ซึ่งมีเกษตรกรเข้ามาเรียนรู้ เฉพาะปี’63 ถึงกว่า 17,000 ราย แสดงให้เห็นถึงการตื่นตัวของเกษตรกรที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องการแสดงนวัตกรรม ในแปลงใหญ่อ้อยอัจฉริยะ ที่ขับเคลื่อนโดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรอัจฉริยะของกระทรวงเกษตรฯ เพราะการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เครื่องจักรกลในการตัดอ้อย ทดแทนการเผา ให้เกษตรกรเรียนรู้การปรับระบบการปลูกให้สอดคล้องกับความต้องการจริง เพื่อลดปัญหาการเผา ก่อนเก็บเกี่ยว
โดยแบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 4 สถานี ได้แก่1.สถานีการเตรียมดิน ปลูก และบำรุงรักษา2.สถานีบำรุงรักษาตออ้อย 3.สถานีการตัดอ้อยสดด้วยรถตัดอ้อย และจัดการเศษวัสดุด้วยเครื่องม้วนใบอ้อย 4.สถานีสำรวจและจัดทำแผนที่การเจริญเติบโต และการพ่นสารป้องกันและกำจัดวัชพืชด้วยโดรน มีเกษตรกรในจังหวัดสระแก้ว ร่วมงานกว่า 500 คน
ครับหยุดเผาพื้นที่การเกษตร หยุดทำลายป่าผมสนับสนุนเต็มที่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี