ก่อนอื่นต้องยืนยันว่า ไม่มีคนปกติรายใดต้องการป่วยเพราะติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 แล้วก็ต้องยืนยันว่ารัฐบาลไทยชุดนี้ต้องการให้ประเทศไทยและคนไทยทุกคนรอดพ้นวิกฤติเชื้อไวรัสมฤตยูตัวนี้ แต่สาธารณชนไม่แน่ใจว่านักการเมืองฝ่ายค้านทุกคนต้องการให้รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันประสบความสำเร็จในการแก้วิกฤติ COVID-19 หรือไม่ เพราะประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับการชิงอำนาจรัฐระหว่างนักการเมืองด้วยกันเอง แล้วนักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยก็ไม่เคยให้ความสำคัญของความอยู่รอดของประเทศ เพราะไม่ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ใดๆ ในบ้านเมือง แต่ก็ยังคงปรากฏเสมอว่า นักการเมืองจำนวนไม่น้อยยังคงแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบต่อไป
มีความจริงของประเทศไทยในวันนี้คือ มีผู้ติดเชื้อโรคชนิดนี้ในบ้านเมืองของเราแล้วเป็นจำนวนหลักร้อย (แต่ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร และเพิ่มอย่างไร ต้องติดตามการแถลงตัวเลขนี้จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้เท่านั้น ส่วนพวกที่ชอบเสพ Social Media ที่ไร้ที่มาที่ไปแล้วเกิดอาการจิตหลุด ก็ต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม) แต่ก็มีผู้ป่วยโรคนี้ที่รักษาจนหายดีแล้ว และกลับบ้านไปแล้วเป็นจำนวนหลักสิบ ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ มิได้หมายความว่าผู้ติดเชื้อโรคนี้ต้องเสียชีวิตทุกคน
ประเด็นสำคัญของปัญหานี้อยู่ที่ เราทุกคนจะป้องกันตัวเองให้รอดพ้นจากการตกเป็นผู้ป่วยด้วยโรคนี้อย่างไร เพราะต่อให้เราพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด แต่ถ้าหากรอบๆ ตัวของเรายังคงมีผู้ซึ่งเป็นพาหะของเชื้อโรคโควิด-19 อยู่ เราก็คงจะเอาตัวรอดจากเชื้อโรคนี้ได้ยากมาก แต่ครั้นจะสนับสนุนให้ปิดเมือง ปิดประเทศ ก็ต้องกลับมาถามรัฐบาลว่า รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้ถี่ถ้วนและรอบคอบมากดีพอแล้วหรือยัง เพราะการปิดประเทศ ปิดเมือง จะมีทั้งผลบวกและลบไปพร้อมๆ กัน ผลบวกก็คือจะช่วยให้กันมิให้ผู้คนออกไปเพ่นพ่านอยู่ในเมือง ทำให้ลดการแพร่กระจายเชื้อโรคตัวนี้ได้ระดับหนึ่ง แต่ด้านลบก็คือ แล้วรัฐบาลจะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย หรือคนยากจนที่ต้องดำรงชีวิตประจำวันด้วยการรับจ้างรายวันอย่างไร เพราะคนกลุ่มนี้มิได้มีเงินเดือนประจำ และไม่สามารถทำงานจากที่พักของตนเองได้
ส่วนการที่มีกลุ่มบุคคลและองค์กรบางแห่งระบุว่าต้องปิดประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และให้เร่งประกาศว่าขณะนี้ในประเทศไทยอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้ในระยะที่สาม ก็ต้องถามว่าผู้เรียกร้องมั่นใจว่าประเทศไทยอยู่ในระยะที่สามแล้วจริงหรือ มีหลักฐานทางวิชาการใดยืนยันได้บ้าง
วิกฤตการณ์เชื้อโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ของมวลมนุษยชาติในขณะนี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไข และต้องร่วมกันรับผิดชอบ ขอยืนยันว่าต่อให้รัฐบาลกำหนดมาตรการใดๆ ที่เรียกได้ว่าวิเศษอย่างที่สุดออกมา แต่ถ้าหากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน มาตรการนั้นก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ ส่วนประชาชนนั้น ก็ต้องดูแลระวังและรักษาตัวเองให้ดีที่สุด อย่ามีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความเสี่ยงและไม่รับผิดชอบต่อตัวเองและต่อสังคม หากรู้ว่าตนเองอยู่ในข่ายสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ก็ต้องหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด แล้วถ้าหากมั่นใจว่าตนเองอยู่ในข่ายของผู้ที่อาจจะติดโรคนี้แล้ว ก็ต้องรีบไปรับการรักษาโดยเร็ว พร้อมกับต้องบอกความจริงทั้งหมดของตนเองให้แพทย์ผู้รักษาได้รับทราบ เช่นเดินทางไปไหนมาไหนบ้าง อยู่และสัมผัสใกล้ชิดกับคนกลุ่มไหน ในเวลาไหน และสถานที่ใดบ้าง
ขอย้ำอีกครั้งว่า โควิด-19 เป็นโรคร้ายแรงก็จริงแต่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือต้องร่วมมือและร่วมใจกันเป็นอย่างดีระหว่างประชาชนทุกคนกับรัฐบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของเชื้อโรคตัวนี้คนไทยยังมั่นใจว่าประเทศไทยจะรอดพ้นจากวิกฤตการณ์นี้ได้ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายในเวลานี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี