อิทธิฤทธิ์ของการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ที่ลามไปทั้งโลกครบ 204 ประเทศ ยังผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรโลก 7,500 ล้านคน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ฐานะเศรษฐกิจของโลกทรุดดิ่งอย่างรวดเร็วอุตสาหกรรมหลักของโลกไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว, การค้าระหว่างประเทศ,ตลาดหลักทรัพย์และอุตสาหกรรมปิโตรเลียมตกต่ำอย่างรุนแรงเพราะการห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออกประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบันโลกสามารถผลิตน้ำมันดิบได้ทั้งหมดเฉลี่ยวันละ 80,622,000 บาร์เรล มีชาติที่ผลิตน้ำมันทั้งสิ้น 96 ประเทศ จาก 204 ประเทศทั่วโลก จาก 8 ทวีป คือ เอเชีย, แอฟริกา, ยุโรป, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, โอเชียเนีย, อาร์กติกและแอนตาร์กติก ประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบได้สูงมากที่สุดต่อวัน คือ สหรัฐอเมริกาทำได้15,043,000 บาร์เรล และเป็นชาติที่บริโภคน้ำมันต่อวันมากที่สุดด้วยรองลงมา 2 อันดับ คือ ซาอุดีอาระเบียแกนนำของกลุ่มโอเปกผลิตได้วันละ 12 ล้านบาร์เรล และรัสเซียแกนนำชาตินอกโอเปกผลิตได้วันละ 10,800,000 บาร์เรล รั้งอันดับ 3
สำนักงานใหญ่ของโอเปกตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรียมีเจ้าชายมะหะหมัด บิน ซัลมานมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยเป็นประธานกลุ่มโอเปก ชาติสมาชิกประกอบด้วย 12 ประเทศ คือ อิหร่าน ผลิตน้ำมันได้วันละ 3,990,956 บาร์เรล อิรัก ผลิตได้วันละ 4,451,516 บาร์เรล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผลิตได้วันละ 3,106,077 บาร์เรล คูเวต ผลิตได้วันละ2,923,825 บาร์เรล เวเนซุเอลา ผลิตได้วันละ 2,276,967 บาร์เรล ไนจีเรีย ผลิตได้1,999,885 บาร์เรล อังโกลา ผลิตได้ 1,769,615 บาร์เรล แอลจีเรีย ผลิตได้1,348,361 บาร์เรล ลิเบีย ผลิตได้1,003,000 บาร์เรล เอกวาดอร์ ผลิตได้548,425 บาร์เรล อิเควทอเรียลกินี ผลิตได้ 227,000 บาร์เรล กาบอง 210,820 บาร์เรล รวมกำลังผลิต13 ประเทศต่อวัน 35,856,447 บาร์เรลเท่ากับร้อยละ 44.47 ของโลก
ส่วนสหรัฐอเมริกาที่ผลิตน้ำมันได้จากอ่าวเม็กซิโกและหินน้ำมันผลิตได้วันละ 15,043,000 บาร์เรล เท่ากับร้อยละ 18.65 ของโลก ส่วนคาร์เตลกลุ่มนอกโอเปกนั้นมีแกนกลางอยู่ที่รัสเซีย สำนักงานอยู่กรุงมอสโก มีนายอเล็กซานเดร โนวัค เป็นเลขาธิการคาร์เตล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีชาติสมาชิกมีทั้งหมด 13 ชาติคือ แคนาดา 3,652,694 บาร์เรล ออสเตรเลีย 289,749 บาร์เรล อินเดีย 715,459 บาร์เรล อาเซอร์ไบจาน833,538 บาร์เรล โคลอมเบีย 897,784 บาร์เรล โอมาน 1,006,841 บาร์เรล สหราชอาณาจักร 939,760 บาร์เรล เม็กซิโก 2,186,877 บาร์เรล นอร์เวย์ 1,647,975 บาร์เรล คาซัคสถาน 1,595,199 บาร์เรล กาตาร์ อดีตสมาชิกโอเปกที่ย้ายกลุ่มเพราะขัดแย้งกับซาอุดีอาระเบีย 1,522,902 บาร์เรล จีน 3,980,650 บาร์เรล ชาติที่บริโภคน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา บราซิล 2,515,459 บารเรล ภาคีนอกโอเปกรวมรัสเซียผลิตน้ำมันดิบได้รวมวันละ 26,088,748 บาร์เรลเท่ากับร้อยละ 32.36 ของโลก
สำหรับกลุ่มชาติอาเซียน 11 ชาตินั้นมีประเทศที่สามารถผลิตน้ำมันดิบออกมากลั่นน้ำมันสำเร็จรูปได้เองทั้งสิ้นจำนวน 6 ชาติ คือไทยวันละ 257,525 บาร์เรล อินโดนีเซีย 833,667บาร์เรล มาเลเซีย 661,240 บาร์เรล เวียดนาม 301,850 บาร์เรล บรูไน 109,117 บาร์เรล และติมอร์ เลสเต 60,661 บาร์เรล ไทยนั้นซื้อน้ำมันดิบมากลั่นเอง รวมจากโอมาน, ติมอร์ เลสเต, กาตาร์บางครั้งก็ซื้อเพิ่มจากมาเลเซีย ในขณะที่ไทยเป็นชาติในอาเซียนที่บริโภคน้ำมันมากเป็นที่ 2 รองจากอินโดนีเซียกำลังผลิตรวมของอาเซียนทำได้วันละ 2,224,060 บาร์เรล โดยไทยมีโรงกลั่นน้ำมันมากกว่าทุกชาติ
ส่วนต้นทุนการขุดน้ำมันดิบของโลกปัจจุบันราคาสูงกว่าราคาขายในตลาดในวันที่ 24 มีนาคม 2563 ไปแล้วโดยราคาน้ำมันดิบในทะเลเหนือ Brent ลอนดอน บาร์เรลละ 29.74 เหรียญสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ WTI บาร์เรลละ23.63 เหรียญสหรัฐ ต้นทุนในการขุดน้ำมัน 1 บาร์เรล มีดังนี้ สหรัฐอเมริกา 23.35 เหรียญสหรัฐ หักแล้วมีกำไรแค่ 28 เซนต์ ทะเลเหนือ 44.33 เหรียญสหรัฐ ขาดทุน21 เหรียญสหรัฐ เวเนซุเอลา 27.62 เหรียญสหรัฐขาดทุน 3.99 เหรียญสหรัฐ รัสเซียต้นทุน 19.21 เหรียญสหรัฐ กำไร 4.4 เหรียญสหรัฐ อิหร่านต้นทุนผลิต 9.08 เหรียญสหรัฐ กำไร14.55 เหรียญสหรัฐ ซาอุดีอาระเบีย ต้นทุนผลิต8.98 เหรียญสหรัฐ กำไรถึง 14.65 เหรียญสหรัฐเมื่อวัดผลผลิตต่อวัน ซาอุดีอาระเบียมีกำไรจากน้ำมันดิบถึงวันละ 175.8 ล้านเหรียญสหรัฐเท่ากับ 5,800 ล้านบาท ตลอดปีจะโกยเงินจากน้ำมันถึง 2.117 ล้านล้านบาท
ปัญหาจากโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกตกลงไปมาก ประกอบกับชาติกลุ่มนอกโอเปกที่รัสเซียเป็นผู้นำต้องการทำสงครามราคาบีบให้ฐานะทางเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอเมริกาขาดทุนกำไรด้วยการไม่ยินยอมลดโควตาการผลิตน้ำมันดิบ ยังผลให้น้ำมันในตลาดโลกมีตัวเลขอุปทานมากกว่าอุปสงค์ทำให้ชาติผู้บริโภคมีต้นทุนโลจิสติกส์ต่ำ ว่ากันว่าเป็นการชิงไหวชิงพริบของ 3 ผู้นำตลาดน้ำมัน คือ วลาดิมีร์ ปูตินประธานาธิบดีรัสเซีย, นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และเจ้าชายมะหะหมัด บิน ซัลมาน นายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย เพราะรัสเซียต้องการโค่นการผูกขาดขายน้ำมันของซาอุดีอาระเบียลงนั่นเอง
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี