สัปดาห์ก่อนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเผยว่า รัฐบาลมีแผนออกพ.ร.ก.เงินกู้วงเงินประมาณ 2 แสนล้านบาท เพื่อนำมาดูแลเศรษฐกิจในระยะ 2-3 เดือนข้างหน้า จะเป็นมาตรการชุดที่ 3 ในการดูแลผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคิดโครงการในการกระตุ้นเน้นว่าควรเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชน
เพื่อรองรับแรงงานที่ได้เดินทางกลับส่วนภูมิภาคช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด โดยให้ยึดโครงการตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในแง่วงเงินกู้นั้นไม่มีข้อจำกัดคิดว่างบฯที่จะใช้นั้นจะก้อนใหญ่พอควรเพราะผลกระทบครั้งนี้หนักกว่าเมื่อตอนเกิดต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งจีดีพีติดลบร้อยละ 10 ปีนี้แบงก์ชาติประเมินว่าติดลบร้อยละ 5 ตอนนั้นผู้ที่ถูกกระทบ คือ คนรวย แต่ตอนนี้ คนที่ถูกผลกระทบมีทั้งคนจนและคนรวย
ลองย้อนกลับไปดูตัวเลขรายได้ประชาชาติของประเทศไทยในระยะ 6 ปี รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรากฏว่าไม่มีปีไหนที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่มียอดรายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้นทุกๆปี นี่เป็นตัวเลขที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแสดงเอาไว้ดังนี้
ปีปฏิทิน 2557 ปีแรก ที่พลเอกประยุทธ์ ยึดอำนาจวงเงิน 13,230,301 ล้านบาท ปี 2558 วงเงิน 13,747,007 ล้านบาท ปี 2559 วงเงิน 14,533,475 ล้านบาท ปี 2560 วงเงิน 15,452,882 ล้านบาท ปี 2561 ยอด 16,457,300 ล้านบาท ปี 2562 ยอด 17,592,900 ล้านบาท เทียบระยะ 6 ปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เฉลี่ยต่อปี ร้อยละ 5.5 ไม่สูงนักแต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ก็แล้วกัน
การที่รัฐบาลจะกู้เงินมากระตุ้นภาวะเศรษฐกิจก็มาจากหลักวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาคของลอร์ด จอห์น เมนนาร์ด เดนส์ บารอนแห่งเตนส์ที่ 1 นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบิลชาวอังกฤษและเป็นหลักการที่พลเอก 5 ดาวแม่ทัพอเมริกันคือพลเอกจอร์ช แคตเลตต์ มาร์แชล ได้ให้ธนาคารโลกและสหรัฐอเมริกาปล่อยเงินกู้วงเงินก้อนใหญ่พัฒนายุโรปตะวันตกหลังสิ้นมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 2488 ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
เรียกว่าแผนการมาร์แชล จนพลเอกท่านนี้ได้รับรางวัลโนเบิลสาขาสันติภาพในเวลาต่อมา การที่รัฐบาลจะออกพระราชกำหนดกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจประมาณ 2 แสนล้านบาท นั้นเชื่อว่าฝ่ายค้านและฝ่ายแค้นคงมีรายการแผ่นเสียงตกร่องออกมาโจมตีรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ อีกตามเคย
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงิน 2 แสนล้านบาท นั้นเป็นนโยบายที่ดีเป็นไปตามหลักวิชาการแท้ๆที่จริงวงเงินนี้ ดูจะน้อยไปเสียด้วยซ้ำไป ไหนๆ จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทีรัฐน่าจะใช้เงินมากกว่านี้น่าจะเป็น 5 แสนล้านบาท ไปเลยจะได้ทั่วถึงประชาชนทุกๆกลุ่มจะได้รับประโยชน์ได้เต็มที่ให้สุดๆ กันไปเลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี