การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วจากจีน ไปสู่เอเชีย ยุโรป และสหรัฐ ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและสุขภาพของประชาชนไปทั่วโลก ทำให้หลายๆ
ประเทศเริ่มออกมาตรการในการป้องกันการระบาด การควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องไม่ให้ขาดแคลนและ การออกมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าได้ หลังจากที่หยุดชะงักมาหลายเดือน
โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่รัฐบาลกลางและมณฑลต่างๆ เริ่มเข็นสารพัดมาตรการในการสู้ไวรัสโควิด-19 หลังจากสถานการณ์ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อลดลง
มีข้อมูลที่น่าสนใจ และมีความหวังจาก นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ที่ประจำในจีน ได้มีการรวบรวมข้อมูลของทางการจีนเกี่ยวกับเรื่องการค้า เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยได้รู้กันและได้เตรียมตัวล่วงหน้า
ตัวอย่างเช่น มณฑลยูนนาน มีมาตรการอำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหาเงินทุน การขนส่ง การจัดซื้ออุปกรณ์และวัสดุ หรือขยายโครงการลงทุนใหม่แก่บริษัทที่ผลิตสินค้าที่ใช้ในการป้องกันและควบคุมไวรัสให้ขยายกำลังการผลิต พร้อมทั้งมีการจัดทำรายงานรายชื่อบริษัทที่สำคัญในการผลิตสินค้าดังกล่าวและมีการประสานสถาบันการเงิน เพื่อลดดอกเบี้ยทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่
ส่วนธุรกิจที่มีความสำคัญต่ออุปทานทางการตลาด อย่างตลาดค้าส่งผักขนาดใหญ่ตลาดค้าธัญพืชและน้ำมันประกอบอาหาร และห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่ได้เปิดดำเนินกิจการตามนโยบายปกติของ
รัฐบาลคุนหมิงซึ่งอยู่ใน มณฑลยูนนาน จะอัดฉีดเงินสนับสนุนแก่ภาคธุรกิจนั้นตามขนาดพื้นที่และระยะเวลาในการประกอบกิจตามความเหมาะสม
ขณะเดียวกันยังมีการขยายเวลาจ่ายค่าประกันสังคม โดยบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด-19 จนส่งผลต่อปัญหาการจ่ายค่าประกันสังคม สามารถที่จะเลื่อนวันชำระค่าประกันบำนาญ ค่าประกันการบาดเจ็บระหว่างทำงาน และค่าประกันการว่างงาน หลังจากสิ้นสุดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ก็ให้ดำเนินการชำระเงินให้ครบต่อไป
นอกจากนี้ยังให้รัฐวิสาหกิจ เขตนิคมอุตสาหกรรม เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่เคยรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลต้องลดหรือยกเว้นค่าเช่าสถานประกอบการเป็นเวลา 2 เดือน ให้แก่ผู้เช่า ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดไวรัสโควิด-19 จะได้รับการลดและยกเว้นการเก็บค่าสาธารณูปโภคในการบริหารจัดการทั้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส และค่าอินเตอร์เนต ที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตและประกอบธุรกิจของเอสเอ็มอี เป็นต้น
ซึ่งก็คล้ายๆ กับยุทธศาสตร์ประเทศไทยในการกู้เศรษฐกิจในขณะนี้
ขณะเดียวกัน ทาง สคต. ณ เมืองชิงต่าว ได้รายงานว่า ปัจจุบันผู้ให้บริการโทรคมนาคมของจีนกำลังใช้การวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า ในการขุดเจาะข้อมูลเชิงลึกและใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านั้นของผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟน 1,600 ล้านเครื่อง ในจีน เพื่อช่วยให้รัฐบาลจีนกำหนดมาตรการป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะบริษัท CHINA MOBILE, บริษัท CHINA UNICOM และบริษัท CHINA TELECOM สามผู้ให้บริการเครือข่ายยักษ์ใหญ่ของจีนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้บริการแต่ก็จะอยู่ภายใต้การรับรองข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ซึ่งทั้งหมดช่วยทำนายทิศทางการแพร่กระจายของไวรัสและออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและควบคุมล่วงหน้าได้
นอกจากนี้ ยังพบว่าด้วยการติดตามการเดินทางและการเคลื่อนไหวของผู้คนที่ออกมาจากเมืองอู่ฮั่นเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ และศูนย์กลางของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมได้ส่งคำเตือนไปยังพื้นที่ที่มีการจำนวนประชากรชาวหูเป่ย์เดินทางไปมากที่สุด เช่นเดียวกับการติดตามการเคลื่อนไหวของผู้คนที่เดินทางไปเมืองต่างๆ ด้วย
ข้อมูลเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการไทย ต้องเกาะติด โดยเฉพาะ ในการใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารที่รวดเร็วของจีน เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการควบคุมการระบาดไวรัสโควิด-19 และยังมีประโยชน์ต่อการค้าระหว่างประเทศของจีนกับคู่ค้าทั่วโลกด้วยรวมถึงประเทศไทยด้วย ขณะส่งออกไทยก็ควรหาช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคจีนที่เหมาะสม โดยเฉพาะ สื่อโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุด อย่าง WECHAT หรือการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย เพื่อสร้างการรับรู้สินค้าและบริการของไทยเข้าสู่ตลาดจีนได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ สามารถติดตามได้ที่ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร.1169
ผมขอช่วยประชาสัมพันธ์ให้อีกทางหนึ่งเพื่อช่วยให้ซื้อง่าย ขายคล่อง รู้เขา รู้เรา รู้สถานการณ์ ระหว่างไทยกับจีน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี