สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ ความจริงได้เปิดเผยอย่างชัดเจนต่อชาวโลกแล้วว่าสหรัฐมีประชากรที่ติดเชื้อไวรัสมากที่สุด ในขณะที่ประเทศในยุโรป โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มนาโตเกือบทั้งหมดก็มีการแพร่ระบาดที่รุนแรง และอัตราผู้ติดเชื้อพุ่งแรงแซงโค้งอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญคือประเทศเหล่านั้นนอกจากไม่สามารถป้องกันประชากรของตนจากการแพร่ระบาดได้แล้ว อัตราการตายและความเจ็บป่วยทรมานของประชากรของประเทศเหล่านั้นก็น่าอเนจอนาถยิ่งกว่าประเทศในภูมิภาคอื่นๆ
ส่วนกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้โดยทั่วไปอัตราการติดเชื้อและอัตราการตายจากการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งนี้อยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าประเทศกลุ่มองค์การนาโตมาก แม้ประเทศจีนซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดในขณะมีประชากรมากที่สุดและมีผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวถึง 80,000 คน ตาย 3,000 กว่าคน แต่กลับสามารถควบคุมการแพร่ระบาดและรักษาผู้ป่วยเจ็บได้มากที่สุด
รัสเซีย เกาหลีเหนือ นั้นแทบไม่ปรากฏผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต สำหรับอิหร่านซึ่งเป็นจุดแพร่ระบาดมากในตะวันออกกลางในระยะต้นก็เข้าสู่สถานการณ์ที่ควบคุมการแพร่ระบาดได้ทันท่วงทีหลังจากที่ได้ร่วมมือกับประเทศจีนและรู้ตัวถึงสภาพการแพร่ระบาดแล้ว
ก่อนหน้านี้ประเทศตะวันตกได้จัดอันดับมาตรฐานทางสาธารณสุขและคุยโวโอ้อวดถึงความยิ่งใหญ่ ความสำเร็จ และความก้าวหน้าทันสมัยของมาตรฐานทางสาธารณสุขของตนกันอย่างเอิกเกริก
จัดลำดับประเทศในกลุ่มนาโต้เกือบทั้งหมดให้มีอันดับมาตรฐานทางสาธารณสุขสูงเป็นอันดับหนึ่งและลำดับต้นๆ เกือบทั้งหมด จัดลำดับให้ประเทศในกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้อยู่ในระดับต่ำต้อยด้อยราคาน่าดูถูกดูหมิ่น
มาถึงวันนี้ความจริงก็เปิดเผยออกมาให้เห็นชัดเจนแล้วว่ายามเผชิญหน้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่แท้จริงนั้นไผเป็นไผ
ที่สำคัญคือประเทศในกลุ่มนาโตแต่ละประเทศไม่ยอมช่วยเหลือเอื้อเฟื้อแก่กันเลย ยืนมองตาดำๆ ให้ประเทศในกลุ่มนาโตด้วยกันเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดและการล้มหายตายจากอย่างไม่สนใจไยดี จนบางประเทศสมาชิกต้องประกาศว่าความสำคัญในกลุ่มอียูซึ่งเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับนาโตนั้นเป็นความสัมพันธ์แค่กระดาษ ไม่มีคุณค่าทางความเป็นจริง
ว่าแล้วก็ขอความช่วยเหลือจากจีนและรัสเซียกันเป็นการใหญ่ ครั้นได้รับความช่วยเหลือด้วยความซาบซึ้งใจ บางประเทศถึงกับชักธงกลุ่มสหภาพยุโรปลงจากเสาที่เคยเคียงคู่อยู่กับธงชาติของตน และชักธงจีนขึ้นแทน
ประเทศไทยของเราถูกจัดลำดับมาตรฐานทางสาธารณสุขดีกว่าประเทศทั่วๆ ไปหน่อยหนึ่ง เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตามคนไทยก็เป็นคนที่น่ารักที่สุดของโลก คบหากับใครๆ ก็รัก ใครๆ ก็ให้ความเป็นไมตรี ดังนั้นประเทศไทยจึงได้รับการจัดมาตรฐานทางสาธารณสุขว่าดีลำดับ 6 ของโลก
เป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยและบุคลากรภาคสาธารณสุขของประเทศเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศเล็กและไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มนาโตหรือสหภาพยุโรป และที่ผ่านมาก็ถูกรังแกรังควานด้วยสิ่งที่เรียกว่ามาตรฐานสารพัดเรื่อง
แต่ในด้านสาธารณสุขนั้น ประเทศไทยกลับยืนหยัดมั่นคงอยู่ในมาตรฐานลำดับ 6 และแม้ว่าประเทศไทยจะเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว แต่บุคลากรทางสาธารณสุขของไทยก็สามารถยันสถานการณ์ได้อย่างมั่นคง
ตลอดระยะเวลา 3 เดือน มีผู้ติดเชื้อเพียงพันกว่าคน มีคนตายเพียง 5 คน และมีการรักษาผู้ป่วยเจ็บหายเป็นจำนวนมาก ถ้าเทียบอัตราการรักษาหายแล้วก็ต้องถือว่าอยู่ในลำดับต้นของบรรดาประเทศที่ไวรัสแพร่ระบาด
แต่ทว่าการปฏิบัติหน้าที่ทางสาธารณสุขของไทยกลับต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่เกิดจากนักการเมืองและกฎระเบียบต่างๆ ที่ถูกกำหนดไว้เพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่มบางพวกอย่างหนักหนาสาหัส
ดังเช่น การควบคุมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทำให้ความขาดแคลนเกิดขึ้นทั่วประเทศ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า เสียงก่นด่ากึกก้องทั้งแผ่นดินแต่กลับไม่มีการแก้ไข ในขณะที่ข่าวคราวการทุจริตและการทำมาหากินกับชีวิตและความเจ็บป่วยของประชาชนดังกึกก้องกระหึ่ม แต่คนเหล่านั้นก็ลอยนวล ไม่มีใครถูกดำเนินคดีแม้แต่สักคนเดียว
มีแต่ชาวบ้านที่ต้องซื้อของแพง และชาวบ้านที่ซื้อของมาในราคาสูงกว่าราคาควบคุมและนำมาขายในราคาสูงกว่าราคาควบคุมก็ถูกจับกุมดำเนินคดีติดคุกติดตะรางกันไป
ความขาดแคลนเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์รุนแรงถึงขีดสุด ถึงขนาดโรงพยาบาลหลายสิบแห่ง บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากต้องขอรับบริจาคและดิ้นรนจัดทำกันเองตามบุญตามกรรม เป็นที่น่าเวทนา ก็หามีใครสนใจคิดแก้ไขไม่ ยังคงปล่อยปละละเลยให้ความขาดแคลนนั้นยังดำรงต่อไป
ทั้งๆ ที่ถ้าหากจะแก้ไขก็ทำได้ในชั่วพริบตา เพียงแค่ยกเลิกการควบคุมและให้นำเข้าอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์และรักษาไวรัสโควิด-19โดยเสรี โดยยกเว้นไม่ต้องจดทะเบียนมาตรฐานหรือจดทะเบียน อย. เป็นการชั่วคราว แต่ต้องให้ประเทศผู้ผลิตรับรองคุณภาพ ก็สามารถแก้ปัญหาความขาดแคลนนั้นได้แล้ว
ถ้าแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ประเทศไทยก็จะก้าวขึ้นสู่ประเทศที่มีมาตรฐานทางสาธารณสุขในลำดับที่ดีกว่าปัจจุบันเป็นแน่แท้ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับชีวิตและความตายที่กำลังตามมากับความขาดแคลนนั้น และเป็นสิ่งที่ท้าทายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่หนักหน่วงที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี