คุณเคยได้ยินเรื่องงบฯฉุกเฉินบ้างไหม แล้วคุณเคยได้ยินหรือไม่ว่า งบฯฉุกเฉินนี้คือเงินจำนวนมหาศาลจำนวนหลายหมื่นล้านบาท (บางปีสูงถึงแสนล้านบาท) คือเงินที่ถูกฉกฉวย ฉ้อฉล โกงกินได้ง่ายดายที่สุด
สำหรับผู้ที่ติดตามกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จะต้องรู้ดีว่าการจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นสิ่งที่นักการเมืองทุกคนต้องการเข้าไปมีอำนาจเหนือมัน เพราะมันคือผลประโยชน์ ที่นักการเมืองอ้างว่าผลประโยชน์ของประเทศ แต่สำหรับคนที่รู้ทันนักการเมืองต่างบอกตรงกันว่า มันคือผลประโยชน์ของนักการเมืองเป็นสำคัญ โดยผลประโยชน์นี้จะถูกแบ่งปันไปในกลุ่มคนที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับนักการเมือง เช่น กลุ่มพ่อค้านายทุนของพรรคการเมือง ข้าราชการที่มีใจโอนเอียงเข้าข้างพรรคการเมือง และนักการเมืองระดับท้องถิ่นที่เป็นฐานอำนาจของพรรคการเมือง
งบประมาณที่นักการเมืองหมายปองมากเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่เรียกชื่อสั้นๆ ว่างบฯฉุกเฉิน ขอให้คุณกลับไปพิจารณางบฯ ฉุกเฉินให้ดูแล้วจะพบว่างบฯ นี้มีจำนวนมหาศาล คิดเป็นเงินแล้วมากกว่างบฯ ของกระทรวงอื่นๆ อีกหลายกระทรวง งบฯฉุกเฉินนี้คนรู้ทันนักการเมืองให้ชื่อว่า เช็คเปล่าที่ลงลายเซ็นไว้แล้ว รอแค่เพียงเติมจำนวนเงินเท่านั้น (blank cheque) เงินก้อนนี้อนุญาตให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งจ่ายได้ แต่มีเงื่อนไขตลกๆ ว่าต้องได้รับการอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรี แต่ก็ไม่เคยมีรัฐมนตรีคนไหนกล้าคัดค้านนายกรัฐมนตรี ดังนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีจะสั่งจ่าย ก็จึงผ่านฉลุยทุกครั้งไป
กลับไปที่ประเด็นไฟไหม้ป่าในเขตจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดในภาคเหนือ เรื่องนี้มีคำถามมายาวนานว่า ไฟที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือเกิดขึ้นเพราะน้ำมือของคน (จะเป็นคนกลุ่มไหนก็ตาม ไม่ว่าคนจากหน่วยงานรัฐบาล หรือคนที่รัฐบาลเรียกว่าชาวบ้านผู้เผาป่า) มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเชียงใหม่จึงเกิดปัญหาไฟไหม้ป่าทุกปี แล้วทำไมปีนี้ปัญหาไฟไหม้ป่าจึงรุนแรงมากเป็นพิเศษ รวมถึงประเด็นที่ทำให้เชียงใหม่ติดอันดับยอดแย่ของโลกในเรื่องปัญหาฝุ่นควันและคุณภาพอากาศที่เลวร้ายจนเป็นอันดับหนึ่งของโลก ต้องยอมรับความจริงว่าปัญหานี้ไฟใหม้ป่าและปัญหาฝุ่นควัน (PM2.5) ในเชียงใหม่คือปัญหาเรื้อรังที่ยาวนานกว่า 10 ปีแล้ว แม้ไฟไหม้ป่าจะไม่ใช่ต้นเหตุเพียงอย่างเดียวของการเกิด PM2.5 ในเชียงใหม่ก็ตาม แต่บทความนี้จะไม่ลงรายละเอียดว่าใครคือตัวการของไฟไหม้ป่าเพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ชี้นิ้วไปที่ชาวบ้าน ส่วนชาวบ้านก็ชี้นิ้วไปที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วก็ชี้กันไปกันมา แต่ปัญหาไฟไหม้ป่าก็ไม่เคยยุติเสียที แม้กระทั่ง วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังยืนยันว่าไฟไหม้ป่าในเชียงใหม่เกิดจากฝีมือของคน
ข้อเท็จจริงที่ทุกคนทราบเป็นอย่างดีคือ ทุกครั้งเมื่อเกิดปัญหาไฟไหม้ป่าในจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะมีงบฯฉุกเฉิน
ไหลเข้าไปทุกครั้ง จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการขออนุมัติเบิกจ่าย และขึ้นอยู่กับผู้อนุมัติงบฯ ส่วนงบฯฉุกเฉินไหลเข้ากระเป๋าใคร เรื่องนี้คนในพื้นที่ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันครึกโครม
มีผู้ตั้งข้อสังเกตที่ชวนให้คิดว่า ตราบเท่าที่ยังคงมีงบฯฉุกเฉินกรณีไฟไหม้ป่า ก็จะเกิดปัญหาไฟไหม้ป่าอยู่ต่อไป เพราะยิ่งเกิดปัญหาก็ยิ่งได้รับงบฯฉุกเฉินมากขึ้น ดังนั้นจึงมีผู้เสนอว่า ในพื้นที่ใดก็ตาม หากเกิดปัญหาไฟไหม้ป่ามากๆ และบ่อยๆ ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบและป้องกันปัญหาไฟไหม้ป่าในเขตจังหวัดนั้นๆ ก็จะต้องรับผิดชอบ โดยต้องถูกลงโทษสถานหนัก และต้องถูกตัดงบฯฉุกเฉิน เพราะถ้าหากยังคงอนุมัติงบฯฉุกเฉินให้ต่อไป แล้วก็ยังคงเกิดปัญหาไฟไหม้ป่าอยู่เรื่อยๆ ก็ต้องถือว่าเป็นงานใช้งบฯฉุกเฉินโดยไม่เกิดประโยชน์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี