“หนังสือพิมพ์แนวหน้า” สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา ฉบับนี้“ไม้หน้าสาม” ทำหน้าที่เรียงร้อยถ้อยบรรจงข้อเท็จจริงเผยแพร่ตามสไตล์ “บุคคลแนวหน้า” ...nn ขอน้อมนำกระแสพระดำรัสของ “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” ที่ประทาน “คติธรรม ซึ่งเป็นโอสถวิเศษ และเป็นเครื่องป้องกันสรรพพิบัติภัย” ทั้งปวงมาเป็นสิริมงคลแก่ “แฟนคลับนสพ.แนวหน้า” ด้วยอานุภาพพระรัตนตรัย เป็นเครื่องชี้นำทางแก่พุทธศาสนิกชนในเทศกาลวันวิสาขบูชา ความว่า “วิสาขบูชา” เป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และ ปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า และเป็นวันสำคัญสากลของโลก เป็นนักขัตฤกษ์พิเศษ เพื่อให้พุทธบริษัทได้กระทำสักการบูชา แด่พระพุทธเจ้า ด้วยดวงจิตตั้งมั่นในความเชื่อ และความเลื่อมใสต่อพระพุทธคุณ ซึ่งเป็นโอสถวิเศษ และเป็นเครื่องป้องกันสรรพพิบัติภัยทั้งปวง ภัยใหญ่หลวงสำหรับทุกชีวิต ตามหลักพระพุทธศาสนามี 3 ประการ คือ ความแก่ เจ็บ และตาย ไม่มีภัยอื่นใด ที่ผู้คนหวาดหวั่นครั่นคร้าม ไปมากกว่าภัยทั้งสามประการนี้อีกแล้ว พระพุทธองค์ผู้ทรงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ ได้โปรดประทานหนทางดับภัยไว้แล้วแก่โลก กล่าวคือ “อริยมรรค” เพื่อละเพื่อล่วงพ้นภัยย่อมดับเหตุแห่งการเกิดที่นำไปสู่แก่ เจ็บ และตาย อย่างสิ้นเชิงพระพุทธเจ้ามีพระปัจฉิมวาจาก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า “วยธมฺมาสงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” แปลความว่า “สังขารมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด” จึงขอทุกท่าน หันกลับมาพิจารณาชีวิตของตน ผู้คนล้วนกำลังเผชิญภยันตรายกันอยู่ทั่วหน้า ขอจงเร่งสั่งสมอบรม “ความไม่ประมาท” ให้ถึงพร้อม เพิ่มพูนกุศลธรรมให้เจริญงอกงามขึ้น เพื่อผลคือ “สติ” และ “ปัญญา” อันสามารถช่วยให้ล่วงพ้นจากภัยได้ ในกาลทุกเมื่อเริ่มต้น”...
nn “ไม้หน้าสาม” ชวนเกาะติดสถานการณ์การป้องกันการแพร่ระบาดของ “เชื้อไวรัสโควิด-19” ภายหลัง “ศบค.” ออกมาตรการผ่อนปรนผ่อนคลายให้สามารถดำเนินกิจกรรมบางประเภทได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายซึ่งสร้างความวิตกมิใช่น้อย อาทิ มีการเดินทางข้ามจังหวัดของประชาชนกว่า 1 ล้านคน ในขณะที่ “บูธจำหน่ายสุรา-เบียร์” ภายในห้างสรรพสินค้าต่างเนืองแน่นแออัดของประชาชนที่มีความประสงค์จะซื้อสุรา-เบียร์ไปบริโภคจนไม่ได้คำนึงถึง “Social Distancing-ระยะห่างทางสังคม” ที่เคยปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง โชคดีที่รุ่งขึ้น โฆษกศบค. “หมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “เชื้อไวรัสโควิด-19” ไม่มีความน่าวิตกแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้ออีก 18 ราย แต่ทั้งหมด เป็น “แรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศ และ ถูกกักตัวอยู่ในสถานกักขังแรงงานลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา” ไม่มีการเสียชีวิตเพิ่มเติม แต่...อย่าตีปีกลิงโลดดีใจไปนัก หากคนไทยยังไม่พึงใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเฉกเช่นช่วงที่ผ่านมา โอกาสที่จะกลับมาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีกครั้งก็มีความเป็นไปได้อย่างที่ “พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.สส. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านความมั่นคง ศบค.” ระบุไว้ว่าเมื่อรัฐบาลเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดสามารถควบคุมได้ก็ให้มีการผ่อนคลายเพื่อให้กิจการการดำรงชีวิตกลับมาผ่อนคลายได้ไม่ใช่พักผ่อน “การ์ดตกไม่ได้” ...
nn “ไม้หน้าสาม” ได้รับข้อความเล่าสู่กันฟังของ “เพื่อนสีกากี” ถึงความเหลื่อมล้ำในสีเครื่องแบบของผู้ปฏิบัติหน้าที่ว่า มีคำสั่งให้กำหนด “อัตราค่าตอบแทนกำลังพลทหาร” ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุม/ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามสั่งการของหน่วยเหนือ ให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยเลี้ยง 460 บาท/วัน/คน และค่าเสี่ยงภัยอีกวันละ 1,000 บาท/วัน/คน ส่วนกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ให้ถือว่า เป็นภารกิจในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้มีอะไรขัดใจกับกองทัพ “ไม้หน้าสาม”แค่นำข้อเท็จจริงมาเผยแพร่เท่านั้น...
nn นี่ก็ขยันสร้างความสร้างเรื่องมิหยุดหย่อน แล้วก็แหกปากโหยหวนว่าถูกผู้มีอำนาจรังแก กรณี “คณะก้าวหน้า” นำโดย “ไวรัสทอน-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่”ที่ถูก “ศาลรธน.สั่งยุบพรรค” จนต้องระเห็จออกจากสภามาทำหน้าที่ตลกบนหลังคารถนอกสภา จัดกิจกรรมไลฟ์สด “คอนเสิร์ตระดมทุน#MAYDAY MAYDAY เราช่วยกัน” เมื่อวันที่ 1-2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นการระดมทุนเพื่อไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19” ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อน ตามความในมาตรา 6 ประกอบมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 หากมีการฝ่าฝืนย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 17 ประกอบมาตรา 19 และหากกิจกรรมดังกล่าวปิดการดำเนินการปิดบังอำพรางข้อเท็จจริงก็อาจเข้าข่ายความผิดแจ้งความเท็จ ตามปอ.มาตรา 172 ด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือว่า เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว เดือดร้อนกรมการปกครองต้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว จะมีผู้ร้องเรียนหรือไม่ก็ตาม...
nn ปิดท้ายฉบับนี้ “ธนาคารอาคารสงเคราะห์”กำลังเปิดรับสมัครกรรมการผู้จัดการ แทนคนเดิมที่เพิ่งจะหมดวาระไป โดยเปิดรับสมัครกันมาตั้งแต่เดือนเมษายน และจะปิดรับสมัครกันอีก 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคมนี้....ส่วนใครจะลงสมัครบ้างตอนนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะเก็บตัว เก็บอาการกันหมด อาจจะไปยื่นใบสมัครกันวันสุดท้ายเลยก็ได้ กว่าจะได้รู้ตัวกันอย่างเป็นทางการชัดเจน ก็ต้องรอให้คณะกรรมการสรรหาประกาศรายชื่อผู้สมัครออกมา...เมื่อยังไม่รู้ใครเป็นใคร ตอนนี้เลยมีการปล่อยข่าว เลื่อยขากันไปมา ซึ่งหาสาระและข้อเท็จจริงอะไรไม่ได้ ที่จริง ระบบ “การสรรหา” เปิดให้บุคลากรที่มีคุณภาพลงสมัครแข่งขันกันนั้น ถือว่าแฟร์ที่สุดแล้ว....ยิ่งปัจจุบัน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ถือว่าเป็นธนาคารชั้นนำ มีผลงานดี ประชาชนให้ความไว้วางใจ ซึ่งทั้งหมดก็เกิดจากการบริหารงานของผู้บริหารในชุดที่ผ่านมา ก็ยิ่งทำให้ใครต่อใครอยากจะมาเป็นหัวเรือใหญ่ของธนาคารแห่งนี้ ฉะนั้น ใครจะมาเป็นกรรมการผู้จัดการ คนต่อไปนั้น ก็ต้องถือเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา ที่ควรจะต้องหาคนที่เหมาะสมที่สุด อยู่ถูกที่ถูกเวลา ทำงานได้เลย ไม่ต้องมาเรียนรู้งาน นับหนึ่งกันใหม!!....ฉบับหน้า “ไม้หน้าสาม”จะนำข้อมูลการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดขอนแก่น ที่ “แก้มตุ่ย” ถูกเรียกเต็มปากเต็มคำว่า“สหกรณ์ผัว-เมีย” อันนำไปสู่การฟ้องร้องยกเข่ง “กรรมการและ อดีตกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น” ย้อนหลัง 10 ปี อย่างสนุก!!...
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี