มนุษยโลกในยุคปัจจุบันต่างรู้จักเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 กันเป็นอย่างดี เพราะมนุษยโลกได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อมรณะตัวนี้มาอย่างน้อยๆ ก็เกือบครึ่งปีเข้าไปแล้ว วันแรกๆที่คนเรารู้จักเชื้อไวรัสตัวนี้ หลายคนอาจจะยังไม่ตระหนักถึงพิษสงที่แสนร้ายกาจของมัน แต่มาบัดนี้คนทั้งโลกประจักษ์แล้วว่ามันร้ายแรงกว่าที่หลายคนปรามาสมันไว้ เพราะอย่างน้อยๆ มันทำให้คนตายไปแล้วเป็นจำนวนหลักแสน แล้วมันก็ทำให้โลกทั้งโลกต้องตกอยู่ในสภาวะหยุดชะงักเป็นเวลาอย่างน้อยก็เกือบสองเดือน ร้านค้า ห้างร้าน ภัตตาคาร สถานบริการและสถานบันเทิงต่างๆ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงแรม สายการบิน บริษัทท่องเที่ยวฯลฯ ต้องปิดให้บริการอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิต้องนัดหมาย
หลายคนรู้ดีว่าเชื้อโรคตัวนี้ยังคงแพร่กระจายอยู่ในสังคมมนุษย์ และมนุษย์ก็ต้องอยู่กับมันต่อไป ถึงแม้หลายประเทศจะพยายามค่อยๆ เปิดให้บริการสถานที่ต่างๆ ที่ถูกสั่งปิดไปเมื่อช่วงเกือบสองเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีประเทศใดเปิดให้บริการสถานที่ต่างๆ ได้เหมือนกับช่วงก่อนที่จะเกิดปัญหาเชื้อโควิด-19 แพร่ระบาด ในขณะที่ผู้ใช้บริการจำนวนไม่น้อยต่างก็ยังไม่ค่อยแน่ใจกับการรีบร้อนเข้าไปใช้บริการในสถานที่ที่กลับมาเปิดให้บริการ ถึงแม้หลายคนอาจจะบ่นว่าเบื่อเสียเหลือเกินกับการต้องทนอยู่กับมาตรการ lock down แต่ทุกคนก็ประจักษ์แล้วว่า เพราะมาตรการ lock down นี่เองที่ช่วยรักษาชีวิตของคนจำนวนมากไว้ให้รอดพ้นจากเชื้อมรณะโควิด-19
เมื่อหลายประเทศเริ่มคลาย lock down อนุญาตให้สถานที่ต่างๆ เปิดบริการโดยมีเงื่อนไขจำกัดบางประการ หลายคนอาจรู้สึกจะดีใจ เพราะคิดว่าจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนช่วงก่อนเชื้อโควิด-19 ระบาด แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงวิตกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะตัวนี้จะกลับมาอีกเป็นรอบที่สองหรือไม่ ดังนั้นหลายคนจึงมองหาทางออกให้กับตัวเองเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุขมากที่สุดในช่วงคลาย lock down
แน่นอนที่สุด สำหรับคนที่ระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดีเพื่อป้องกันให้ตนเองรอดพ้นจากการติดเชื้อโควิด-19 ก็จะยังคงสวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานตลอดเวลาในยามที่ต้องออกจากบ้านพักของตนเอง แล้วต้องเข้าไปอยู่ในเขตที่มีผู้คนหนาแน่น บางคนนอกจากสวมหน้ากากอนามัยแล้วยังสวม Face Shield อีกด้วย แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงการจับสัมผัสสิ่งของใดๆ ในที่สาธารณะ เลี่ยงการจับต้องเงินธนบัตรและเหรียญเวลาจับจ่ายซื้อของ โดยหันไปใช้การจ่ายเงินแบบ cashless ด้วยการจ่ายผ่านระบบเครดิตการ์ด หรือด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปรับประทานอาหารในร้านที่มีผู้คนอยู่มากมายหลายคน และทันทีที่กลับถึงบ้านก็จะอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย สระผมและนำเสื้อผ้าที่สวมไปนอกบ้านไปซักทำความสะอาดทันที ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นพฤติกรรมที่อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก แต่เมื่อหลายคนได้ใช้ชีวิตเช่นนี้มาเป็นระยะเวลา 2-3 เดือนก็ทำให้กลายเป็น New Normal ไปโดยปริยาย แถมยังพยายามกำชับให้คนในบ้านที่เพิ่งกลับเข้ามาต้องรีบไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย และนำเสื้อผ้าไปซักโดยทันทีด้วย ส่วนเรื่องการล้างมือด้วยสบู่หรือด้วยเจลแอลกอฮอล์ล้างมือนั้นก็ได้กลายเป็นเรื่องปกติวิสัยไปแล้วเช่นกัน
เราทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า มนุษยโลกในยุคนี้จะต้องอยู่ร่วมกับเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ไปอีกอย่างน้อยๆ 1 ปีและก่อนที่มนุษย์จะสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ มนุษย์ก็จะต้องพยายามกลับไปดำรงชีวิตตามปกติให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่คำว่าดำรงชีวิตตามปกตินั้นก็มิได้หมายความว่าจะใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมเหมือนกับช่วงก่อนที่เชื้อนี้จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก เพราะชีวิตของเราทุกคนนับจากนี้ไปจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคนี้ได้อย่างจริงจังร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็จะต้องดำรงชีวิตด้วยความระมัดระวังมากขึ้น การรวมตัวสังสรรค์ การดื่ม การกิน การเที่ยวเตร่แบบเดิมๆ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนไป เพื่อให้ตนเองและคนในครอบครัวรอดพ้นจากเชื้อไวรัสมรณะตัวนี้ ส่วนนักการเมืองของไทยน้ำเน่าจะเปลี่ยนนิสัยได้หรือไม่ จะเลิกทำตัวขัดขวางความเจริญของประเทศได้หรือไม่ คงต้องติดตามดูกันต่อไป เพราะนักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งดีๆ ได้ช้าที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี