วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2557 นี้ เป็นวันครบรอบ 6 ปี ของการรัฐประหารของคณะทหารภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตนำคณะนายทหารจาก 3 เหล่าทัพ ดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ทางด้านการเมืองที่เกิดขึ้น
ด้วยการก่อรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองประเทศจาก นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายกรัฐมนตรีรักษาการ ในวันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 16.30 น. โดยนายนิวัฒน์ธำรง นั้น ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ให้พ้นจากตำแหน่ง
การรัฐประหารครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 13 และได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนมากกว่า 10 ล้านคนที่เป็นชนชั้นกลางและกลุ่มคนที่มีฐานะดีก่อนการรัฐประหาร 7 เดือนนั้น มีชาวไทยจากทั่วประเทศในนาม กปปส.หรือ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์
ซึ่งตลอดการชุมนุมประมาณ 7 เดือนนั้น กปปส.ได้รับเงินสนับสนุนจากประชาชนจากทั่วประเทศเป็นเงินสดมากกว่า 2,500 ล้านบาท และยังมีสิ่งของต่างๆอีกมากคิดเป็นเงินอีกหลายร้อยล้านบาท กล่าวได้ว่าการชุมนุมทางการเมืองของ กปปส.ครั้งนี้มีปริมาณคนมาชุมนุมมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของไทยในรอบ 80 ปี โดยประเมินจำนวนสูงที่สุดถึง 5 ล้านกว่าคน
การชุมนุมครั้งนี้มีสมาชิกของสมาคมศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยมศึกษาชั้นนำจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แสดงออกด้วยการขับไล่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแม้แต่สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ยังได้ออกมาแสดงพลังขับไล่รัฐบาลในระบอบทักษิณด้วย
เหตุผลสำคัญที่คณะนายทหารจาก 3 เหล่าทัพจำต้องตัดสินใจก่อรัฐประหารก็เพราะมีกลุ่มมือปืนที่คาดว่าเป็นกลุ่มการเมืองฝ่ายเดียวกับระบอบทักษิณได้ใช้อาวุธทำร้ายประชาชนที่มาร่วมชุมนุมจนถึงแก่ความตาย ถึง 24 ศพ ถ้าหากปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไปประเทศอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างคนไทย 2 ฝ่าย เหมือนเหตุการณ์กบฏบวรเดช ในวันที่11-20 ตุลาคม 2476
นับได้ว่าการก่อรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายทหารจาก 3 เหล่าทัพนั้น นับเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างเป็นล้นพ้น ทำให้ประเทศรอดพ้นจากการนองเลือดได้และเป็นหนทางออกในการล้มระบอบประชาธิปไตยจอมปลอมได้ในที่สุดพร้อมนำประเทศสู่ความวัฒนาถาวรต่อมาอีกด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี