ย้อนหลังไปเมื่อปี 2557 ณ เวลา 16.30 นาฬิกา วันนี้เมื่อ 6 ปีก่อน คือวันที่คณะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และในตำแหน่งผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในขณะนั้น ได้นำคณะนายทหารกลุ่มหนึ่งเข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลล้มเหลวและคอร์รัปชั่น ในนามของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งในขณะนั้นมีตัวแทนหุ่นเชิดของ นางสาวยิ่งลักษณ์ คือนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล (หรืออดีตคือ นายนิวัฒน์ บุญทรง)
ดังนั้น วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จึงเป็นวันสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับ พ.ศ. 2550 การทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คือการทำรัฐประหารครั้งที่ 13 บนราชอาณาจักรไทย
หลายคนที่ยังมีความทรงจำดีย่อมต้องระลึกได้เป็นอย่างดีว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาฯ 2557 นั้น บ้านเมืองในยุคนั้นเต็มไปด้วยความโกลาหล รัฐบาลมีพฤติกรรมฉ้อฉลปล้นประเทศอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นยังพบด้วยว่ารัฐบาลในขณะนั้นยังจงใจใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตนเองอย่างไร้ความละอาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ สุดซอย ซึ่งก็คือความจงใจใช้อำนาจรัฐ ผสมกับการใช้อำนาจจากรัฐสภา โดยอาศัยเสียงข้างมากลากกันไปด้วยความมุ่งหวังจะล้างมลทิน ลบความผิดทั้งหลายทั้งปวงที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ประกาศโฆษณาชวนเชื่อว่า ผมรวยแล้ว ผมไม่โกงชาติ ได้กระทำความผิดต่างๆ นานาไว้อย่างโจ่งแจ้ง
จากวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จวบจนถึงปัจจุบัน สาธารณชนไทยประจักษ์ดีว่าบ้านเมืองเป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือเลวลงมากน้อยเพียงใด แต่คำตอบในเรื่องนี้ต้องแยกแยะให้ดีว่าใครคือผู้ตอบ แล้วตอบด้วยสติปัญญาที่แท้จริง หรือตอบด้วยความลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม บัดนี้ พระราชอาณาจักรไทยของเราก็ได้มีรัฐบาลชุดล่าสุด ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งนี้ ผู้มีอำนาจรัฐชุดปัจจุบันมักอ้างเสมอว่า รัฐบาลนี้คือรัฐบาลประชาธิปไตย เนื่องจากขึ้นสู่อำนาจโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง
น่าสังเกตว่า รัฐบาลไทยเกือบทุกชุดที่ผ่านการเลือกตั้งมานั้น จะอวดอ้างเหมือนๆ กันคือ ฉันเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย เพราะฉันผ่านการเลือกตั้งมา คำว่าการเลือกตั้งในสังคมไทยนี่มันแสนมหัศจรรย์เสียเหลือเกิน เพราะมันถูกใช้เป็นเครื่อง
ฟอกขาว ฟอกสี ให้กับใครก็ตามที่อ้างว่าชนะการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่เบื้องหลัง (รวมถึงเบื้องหน้า) ของผู้ชนะการเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยบนแผ่นดินไทยล้วนเต็มไปด้วยความโสโครก โสมม สกปรก และเน่าเฟะ แต่ถึงกระนั้น คำว่ามาจากการเลือกตั้งก็สามารถล้างความเน่าให้กับคนจำนวนไม่น้อยได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
บ้านเมืองของเราในวันนี้ดีขึ้นหรือเลวลง คำถามนี้ยังคงเป็นคำถามยอดนิยมในสังคมไทย แม้คำตอบจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากผู้ตอบเป็นคนที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ตอบ หากผู้ตอบนิยมชมชอบในรัฐบาลชุดปัจจุบันก็จะตอบไปทางหนึ่ง แต่ถ้าหากผู้ตอบนิยมชมชอบในรัฐบาลทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ก็ย่อมจะตอบไปในทางตรงกันข้ามกับกลุ่มแรก
ประเด็นสำคัญของบ้านเมืองของเรามิได้อยู่ที่คำตอบของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่อยู่ที่การกล้าพูดความจริง บ้านเมืองของเราในวันนี้มีปัญหาและมีอุปสรรคมากมาย อันมีต้นเหตุมาจากปัจจัยภายในและนอกประเทศ หากคนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงมองปัญหาของบ้านเมืองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอคติบ้านเมืองจะไม่สามารถรอดพ้นก้าวข้ามหลุดออกจากปัญหาได้ แต่หากคนไทยทุกคนเอาจริงเอาจังร่วมมือร่วมใจช่วยกันแก้ปัญหาของบ้านเมือง โดยไม่ยึดติดว่าฉันคือคนของรัฐบาล หรือนักการเมืองกลุ่มไหน แต่เอาความอยู่รอดปลอดภัยของบ้านเมืองเป็นเป้าหมายสำคัญ ถ้าคิดได้เช่นนี้แล้วบ้านเมืองของเราจะก้าวหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี