“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” สื่ออุดมการณ์มั่นคงตรงไป ตรงมา ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ชวนเกาะติดสถานการณ์การอภิปรายให้ความเห็นชอบการออกพระราชกำหนด 3 ฉบับ ของรัฐบาล เกี่ยวกับการกู้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 มูลค่าเงินกู้กว่า 1.9 ล้านล้านบาท...
nn “ไวรัสโคโรนา 2019 ที่ต่อมา องค์การอนามัยโลกบัญญัติชื่อใหม่ว่า โควิด-19 (COVID-19)”ยังคงไม่หมดฤทธิ์พิษภัยเสียทีเดียว หลังจากก่อกรรมทำเข็ญกับประชากรทั่วทุกทวีปทุกมุมโลก จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีประเทศใด “การันตี” ได้ว่า “สามารถทำลายล้างเชื้อไวรัสนี้ให้หมอบราบคาบแก้ว” ได้ ตราบใดที่ยังไม่มี “วัคซีน” ผลิตออกมาใช้รักษาโรคติดเชื้อนี้ ซึ่งคาดกันว่าอย่างเร็วสุดก็น่าจะปลายปี 2564...
nn ล่าสุด “เกาหลีใต้” ที่ “หมอหนู-อนุทินชาญวีรกูล” แม่ทัพใหญ่สาธารณสุขอ้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศตัดชื่อออกจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ก็กลับมากุมขมับอีกครั้ง เมื่อพบการแพร่ระบาดรอบใหม่ โดยมีผู้ติด “เชื้อโควิด-ไนน์ทีน” วันเดียว 40 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงสุดในรอบ 49 วัน โดยไวรัสมรณะแพร่กระจายสู่ศูนย์จัดส่งสินค้าของเกาหลีใต้ ขณะที่ “อินทรีโอหัง” สหรัฐอเมริกา-มหาอำนาจล่าสุดยังครองแชมป์เป็นอันดับหนึ่งของโลก อเมริกันชนล้มตายทะลุหลักแสน ผู้นำอย่าง “เฒ่าโดนัลด์ทรัมป์” ไม่แยแสตัวเลขสถิติเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ...
nn ขณะที่“ยาต้านมาลาเรีย” ที่เฒ่าอินทรีสู่รู้โอ้อวดแนะนำให้ชาวโลกนำไปใช้รักษา “โรคติดเชื้อโควิด-ไนน์ทีน” ก็ถูกองค์การอนามัยโลกสั่งห้ามใช้ รวมไปถึงพันธมิตรอย่างกลุ่มประเทศยุโรปออกมาตอกหน้าสหรัฐฯว่า สุ่มเสี่ยงทำผู้คนทั่วโลกตายเพิ่ม และปฏิบัติตามประกาศขององค์การอนามัยโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...
nn ขณะที่บนแผ่นดินสยามประดา “สัมภเวสี-ปีศาจการเมือง” ได้เวลาเห่าหอนโหยหวนเรียกร้อง “รัฐบาลทหารแก่” ของ “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยกเลิกประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างว่าเป็นภาวะซ้ำเติมการทำมาหากินของคนยากคนจน ส่งผลถึงภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ “ไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร” เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่ออกอาการเผือกกิจการภายในรัฐบาลไทยถามหาเหตุผลในการต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจอคำตอบขั้นเซียนของ “เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม” เข้าไปแสบทรวงมิใช่น้อย “ไม้หน้าสาม” อยากบอกทูตดีซอมเบร ว่า กลับไปช่วยเฒ่าทรัมป์ นำพาอเมริกันชนให้รอดพ้นจากหายนะและความตายก่อนจะดีไหม ยังพอมีเวลาให้วุ่นวายแทรกแซงกิจการภายในของไทยอีกมาก ไปร่วมด้วยช่วยกันหาหนทางหยุดยั้งการล้มตายราวใบไม้ร่วงของอเมริกันชน จน “อีแร้ง” ไม่สามารถกลืนกินได้เสียแล้ว นักการเมืองสันดานอีกาในบ้านเมืองเราที่ตีกิน “รัฐบาลทหารแก่” แอบอ้างการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองนำรอยเลือดและคราบน้ำตาประชาราษฎร์เป็นอาหารและเหยื่อ อันโอชะ ฝ่ายค้านบ้านเราก็ควรพึงสังวร อย่าหวังกอบโกยคะแนนนิยมจากความเป็นความตายของพี่น้องประชาชนคนไทย แกล้งโง่นัยว่ารัฐบาลลุงตู่ตีกินใช้กฎหมายฉุกเฉินเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งหากทำตามข้อเสนอของสัมภเวสีแลนักการเมืองสันดานอีกาทั้งหลายที่ให้ใช้กฎหมายควบคุมโรคติดต่อ จะเกิดปัญหาตามมามากมาย...
nn แน่นอน“เกิด 77 มาตรฐาน” โอกาสที่รัฐบาลจะบูรณาการให้เป็นมาตรฐานเดียวคงยากเพราะอำนาจจะตกอยู่ในมือของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละพื้นที่พิจารณาแทน และจะส่งผลทำให้มาตรการควบคุมโรคอ่อนแอไปคนละทิศละทาง “ไร้เอกภาพ” อะไรคือผลประโยชน์ของประชาชน และบ้านเมืองก็ควรสนับสนุนส่งเสริม ชื่นชม ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาค้านสุดซอย...
nn วิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-ไนน์ทีน ยังคงส่งผลกระทบต่อสังคมไทยทุกมิติ คาดว่าจะมีคนไทยตกงานนับล้านคน การฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศจึงเป็นภาระเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรก็กำลังเปิดอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อนำมาใช้แก้ไขปัญหานี้กันอยู่ เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่เพียงพอ ทุกภาคส่วนต้องร่วมไม้ร่วมมือช่วยกัน...
nn ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทำดีก็ชื่นชมประสา “ไม้หน้าสาม” ปากหวานไม่เป็น แต่ต้องขอเอ่ยชื่นชม “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอความร่วมใจจากพนักงานกว่าพันชีวิต “เจ็บเพื่อจบ” โดยที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.มีมติ “ไม่จ่ายโบนัส” ประจำปี 2563 ให้แก่พนักงาน กสทช. เป็นวงเงินเฉียด 200 ล้านบาท เพื่อคืนคลังให้รัฐบาลนำไปสู้โควิด-ไนน์ทีน...
nn “กฟน.-การไฟฟ้านครหลวง, กฟภ.-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” ว่าอย่างไรผู้บริหารของสองหน่วยงานนี้ยังสบายดีใช่ไหม มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาเพื่อให้เยียวยาลดค่าไฟฟ้า หลังจากที่คนไทยต้องทำงานอยู่กับบ้านทว่าค่าไฟฟ้าทะยานหลายเท่าตัว ครม.มีมติให้ยึดฐานเดือนกุมภาพันธ์ แต่กฟน.-กฟภ. ไม่สนใจมติครม.บิลทวงถามค่าไฟฟ้าลดแค่ 3% ซ้ำยังมีทีมงานรัฐวิสาหกิจออกมาตีกินว่า หากลดค่าไฟตามมติครม. 2 หน่วยงานไฟฟ้านี้จะเจ๊งล้มละลายเหมือน “เจ้าจำปี-การบินไทย รักคุณเท่าฟ้า”ถึงบรรทัดนี้ “ไม้หน้าสาม” ไม่ทราบจริงๆ ว่า “เอาอวัยวะส่วนไหนคิด” ไฟฟ้าคือปัจจัยพื้นฐานของประชาชน เป็นองค์กรสาธารณูปโภคไม่ใช่องค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแสวงหาผลกำไร เมื่อภัยมาถึงประชาชนชาวไทยเราต้องช่วยกันรอบด้านจับมือแล้วก้าวข้ามไปด้วยกันมิใช่หรือ...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ โดย “กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก” จะสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ก.ส.จ.) ตามพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2556 โดยมีหนังสือเชิญชวนหมอพื้นบ้านให้มาร่วมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ “ไม้หน้าสาม” เห็นแล้วก็ท้อแท้ใจไม่รู้ว่าหน่วยงานเหล่านี้ วันๆ ทำอะไรเพื่อการแพทย์แผนไทยบ้าง ตั้งขึ้นมาเพื่อกินตำแหน่งถลุงงบประมาณแผ่นดิน ก็ควรยุบทิ้งไปเสีย สิ่งเหล่านี้ไม่ได้พูดเกินเลย เพราะวิกฤติโควิด-19 คือใบเสร็จที่บอกเรื่องราวทั้งหมดของแพทย์แผนไทยได้เป็นอย่างดี หากเปรียบเทียบกับ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” รัฐบาลจีนระดมความช่วยเหลือจากแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนจีนอย่างน่าชื่นชม โดยคนจีนได้รับยาแผนจีนในการรักษาจนหาย เรียกว่าเป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ ไม่มีการดูถูกเหยียดหยามภูมิปัญญาบรรพชน การแพทย์แผนจีนจึงยิ่งใหญ่ ผิดกับเมืองไทยที่เก่งแต่ผลาญงบ แต่ไม่ได้ส่งเสริมแพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้านที่มีตำรับยาสามารถรักษาโรคร้ายต่างๆ ได้มากมาย “หมอเณร-ชัยรัตน์นนทชัย” ปราชญ์ชาวบ้านแห่งตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี คือหนึ่งในผู้ได้รับเทียบเชิญจากสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งมีผลงานรักษาโรคร้าย ทั้งโรคเบาหวาน แผลเน่า ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ กระซิบมาว่า... “ผม...มิอาจเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกับเขาได้ ... เหตุมีภูมิรู้น้อยด้อยปัญญา” ไงล่ะ “สาแก่ใจผู้มากภูมิปัญญาในวงการสาธารณสุขไทย” บ้างไหม...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี