แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn ตามปกติคนเราชอบดูสถานการณ์ในทางดี ที่เขาเรียกว่าเล็งผลเลิศ ก็เห็นว่าประเทศไทยเรานี่ก้าวหน้าดี การเงิน การอุตสาหกรรม การค้าดีมีกำไร อีกทางหนึ่งก็ต้องบอกว่า เรากำลังเสื่อมลงไปส่วนใหญ่ทฤษฎีว่าถ้ามีเงินเท่านั้นๆ มีการกู้เท่านั้นๆ หมายความว่าเศรษฐกิจก้าวหน้า แล้วก็ประเทศก็เจริญ มีหวังว่าจะเป็นมหาอำนาจ ขอโทษเลย ต้องเตือนเขาว่า จริงตัวเลขดีแต่ว่าถ้าเราไม่ระมัดระวังในความต้องการพื้นฐานของประชาชนนั้นไม่มีทาง… (พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระราชทาน ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ 4 ธันวาคม 2536)...
nn พระราชกำหนดกู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ยังคงเป็นประเด็นที่สาธารณชนผู้สนใจเรื่องนี้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะคนจำนวนไม่น้อยบอกตรงกันว่า แม้จะพยายามทำใจให้เชื่อว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าคนรอบข้างนายกฯอีกจำนวนไม่น้อยมีความน่าเชื่อถือ เพราะเท่าที่สาธารณชนเฝ้าเกาะติดและติดตามพฤติกรรมต่างๆ ของคนรอบๆ ตัวนายกฯ แล้ว ก็พบว่าบางคนไว้ใจไม่ได้ แล้วก็ไม่เชื่อแม้แต่น้อยว่านายกฯ จะสามารถกำราบคนรอบข้างที่มีพฤติกรรมกะดำกะด่างได้อย่างอยู่หมัด จนหลายคนตั้งคำถามกับนายกฯ บ่อยๆ ไปว่า ตกลงระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับปากท้องของคนรอบข้างนายกฯ ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน...
nn ดังนั้นการที่ สส. กลุ่มหนึ่งรวมตัวขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบวงเงินกู้ก้อนใหญ่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จึงทำให้ประชาชนที่หวงแหนสมบัติของชาติพากันเห็นด้วย แต่เป็นการเห็นด้วยที่มีเงื่อนไขคือ ขอให้ สส. กลุ่มที่ว่านี้
ทำงานให้จริงจัง อย่าเล่นเกมการเมือง อย่าเล่นบทผู้ตรวจสอบ เพียงเพราะต้องการเข้าไปมีเอี่ยวกับเงินกู้ก้อนมหึมา อย่าทำตัวให้เหมือนที่อดีตนายกฯ คนหนึ่งจากสุพรรณฯ เคยบอกชัดๆ ว่า เป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง...
nn ประชาชนผู้ติดตามการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงินฉบับนี้ ตั้งข้อสังเกตผสมกับข้อสงสัยมากมาย เช่น การจะนำเงินกู้ก้อนนี้ไปใช้จ่าย โดยอ้างว่าเพื่อแก้ปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูสังคมไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ยังมีประเด็นค้างคาใจคือ เหตุใดไม่มีรายละเอียดประกอบบัญชีแนบท้าย แต่กำหนดทุกอย่างไว้กว้างจนดูเหมือนเลื่อนลอย ยิ่งได้ฟังผู้ชี้แจงบางรายอ้างแบบเอาสีข้างเข้าถูว่า ทุกอย่างเร่งด่วน จึงจำเป็นต้องเร่งใช้จ่ายเงิน จึงไม่มีเวลาเสนอโครงการให้ละเอียด เพราะฉะนั้น เมื่อการชี้แจงไม่ชัดเจนก็ช่วยไม่ได้ที่สาธารณชนจะบังเกิดความเคลือบแคลงแล้วเป็นห่วงว่าเงินก้อนนี้จะถูกนำไปละเลงอย่างไม่โปร่งใสเหมือนหลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งนำความเสียหายมาสู่เศรษฐกิจไทยดังปรากฏแล้ว และต้องไม่ลืมว่าเมื่อรัฐบาลกู้เงินแล้ว รัฐบาลก็จากไป แต่คนไทยทั้งประเทศต้องกลายเป็นลูกหนี้ไปจนกว่าจะชดใช้หนี้ที่รัฐบาลก่อไว้จนหมดสิ้น...
nn พูดถึงหนี้สินที่รัฐบาลตั้งใจก่อไว้ให้กับประชาชนแล้ว ก็ต้องหันกลับไปดูหนี้สินครัวเรือนกันบ้าง ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงว่าสังคมไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงมาก โดยในไตรมาส 4
ของปี 2562 พบว่าสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 79.8 เปอร์เซ็นต์ นับว่าสูงสุดในรอบ 14 ไตรมาส หรือนับจากไตรมาสที่ 3 ของปี 2559 เป็นต้นมา ถามว่าคนไทยก่อหนี้ครัวเรือนมากๆ เพราะอะไร ก็ตอบได้ว่าส่วนใหญ่ 33.7 เปอร์เซ็นต์ ก่อเพราะซื้ออสังหาริมทรัพย์ อีก 32.1 เปอร์เซ็นต์ ก่อหนี้เพราะการอุปโภคบริโภค อีก 17.9 เปอร์เซ็นต์ ก่อหนี้เพื่อประกอบธุรกิจ และอีก 12.8 เปอร์เซ็นต์ มีหนี้สินจากการเช่าซื้อรถยนต์ แล้วยังพบอีกว่ามียอดคงค้างของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพื่อการอุปโภค บริโภคของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 มูลค่าประมาณ 156.2 ล้านบาท...
nn ธรรมกร ขออภัยที่นำตัวเลขมากมายมาเสนอให้คุณได้รับทราบในวันนี้ เพราะเห็นว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันเตือนคนใกล้ชิดของตนว่าหากไม่จำเป็นก็อย่าพยายามก่อหนี้ให้มากนัก เพราะการเป็นหนี้มากๆ ก็คือการสร้างปัญหาให้กับตนเองและสังคม เพราะลำพังเพียงรัฐบาลชุดต่างๆ ก็ขยันก่อหนี้ให้กับประชาชนตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งเราก็เห็นกันอยู่ตำตาว่า รัฐบาลดีแต่ก่อหนี้ แต่ไม่เคยอยู่ใช้หนี้ มันน่าจะออกกฎหมายบังคับว่ารัฐบาลไหนก่อหนี้ ต้องชดใช้หนี้ที่ก่อไว้ด้วยไม่ว่าจะพ้นอำนาจไปแล้วกี่สิบปีก็ตาม...
nn หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม ธรรมกร ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับข่าวพรรคพลังประชารัฐจะแตกหรือจะโต ก็ขอตอบตรงๆ ว่า ธรรมกร เชื่อว่าคนไทยที่มีสติมีปัญญานั้นไม่เคยให้ความสำคัญกับพรรคเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาในยามที่คนในพรรคมีอำนาจรัฐ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือได้เป็นนายกฯ หลังฉาก เพราะเท่าที่ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทยมาระยะหนึ่งก็พบว่าสุดท้ายแล้วพรรคพรรค์อย่างว่านั้นก็ต้องม้วนฉากกลับบ้านเก่าไปโดยพลันหลังจากรัฐบาลที่ตนเองกำกับอยู่พังพาบลงไป ลองกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทยในยุค 40 ปีมาก็ได้ จะพบว่าไม่ผิดไปจากสิ่งที่ ธรรมกร บอกเลยสักพรรค...
nn เพราะฉะนั้น ขอให้คุณๆ จับตาดูพรรคพลังประชารัฐให้ดีก็แล้วกัน รับรองว่าไปได้อีกไม่กี่น้ำหรอก พรรคนี้จะดำรงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อบิ๊กตู่ยังคงสถานะนายกรัฐมนตรี โดยมีบิ๊กป้อมเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเท่านั้นแหละ หากบิ๊กตู่ปราศจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บิ๊กป้อมก็คงจะไม่มีน้ำยาอะไรอีกต่อไป ยกเว้นเมืองไทยจะมีนายกฯ ชื่อบิ๊กป้อม แต่ก็ต้องบอกตรงๆ ว่า ต้องรอให้น้ำท่วมหลังเป็ดเสียก่อน...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี