เป็นที่ชัดเจนแล้วว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ได้กลายเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่นายสมคิดได้ถูกกล่าวถึงโดยคนในสังคมไทยว่าเป็นมือเศรษฐกิจคนสำคัญของรัฐบาล คสช. และรัฐบาล พลเอกประยุทธ์มาหลายปี
เมื่อพูดถึงฝีไม้ลายมือของนายสมคิดในด้านการดูแลเศรษฐกิจไทย ก็มีมุมมองต่อเรื่องนี้หลากหลายกันไป คนที่ปลื้มเปรมกับนายสมคิด ก็จะบอกว่านายสมคิดเป็นเซียนเศรษฐกิจมือหนึ่งของไทย แต่ในมุมตรงข้ามก็จะมองต่างออกไป แถมบางรายยังไม่ให้ความเชื่อถือใดๆ กับนายสมคิดในการทำงานด้านเศรษฐกิจของไทยแม้แต่น้อย
วันนี้ เมื่อนายสมคิดและทีมงาน คือนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายอุตตม สาวนายนนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูลซึ่งหลายคนเรียกว่าทีมสี่กุมาร ได้เก็บข้าวของออกจากการร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไปเรียบร้อยแล้ว สาธารณชนผู้ซึ่งสนใจประเด็นที่ว่าใครจะมาทำหน้าที่มือเศรษฐกิจแทนทีมงานชุดเดิมก็กำลังตั้งตารอคอยว่าทีมเศรษฐกิจใหม่จะมีหน้าตา และรูปลักษณ์เช่นไร
ระยะนี้มีชื่อของนายประสาร ไตรรัตน์วรกุลนายบัณฑูร ล่ำซำ นายปรีดี ดาวฉาย นายไพรินทร์ชูโชติถาวร ปรากฏผ่านสื่อมวลชนที่ติดตามข่าวการเมืองและข่าวเศรษฐกิจว่าทั้งสี่คนนี้น่าจะเข้าไปเป็นทีมงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในรัฐบาลชุดปัจจุบันแทนชุดของนายสมคิด
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครรู้แน่ว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ของรัฐบาลปัจจุบันจะมีหน้าตา และรูปลักษณ์อย่างไร เพราะคนที่สามารถตอบเรื่องนี้ได้ชัดเจนที่สุดก็คือนายกรัฐมนตรี แต่จนถึงขณะนี้ท่านนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้ให้ความกระจ่างในเรื่องนี้
ส่วนกลุ่มคนที่สื่อ กล่าวถึงโดยคาดการณ์ว่าอาจจะเข้ามาเป็นมือเศรษฐกิจชุดใหม่ ก็ยังไม่มีใครตอบรับหรือปฏิเสธกับข่าวที่กล่าวถึงให้ชัดเจน ดังนั้นจึงต้องบอกว่าทั้งหมดก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ากลุ่มคนที่สื่อกล่าวถึงนั้นเป็นคนที่สังคมให้การยอมรับว่ามีฝีไม้ลายมือด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ได้มีการเปรียบเทียบความสามารถด้านการบริหารจัดการในเรื่องเศรษฐกิจระหว่างทีมของนายสมคิดกับกลุ่มบุคคลทั้งสี่ คือนายบัณฑูร นายปรีดี นายไพรินทร์ และนายประสาร แล้วมีบางกลุ่มระบุว่าฝีมือของคนทั้งสี่น่าจะเหนือกว่าฝีมือของกลุ่มนายสมคิด แต่ก็มีผู้โต้แย้งว่านายสมคิดผ่านงานบริหารเศรษฐกิจระดับผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศมาแล้ว แต่กลุ่มคนทั้งสี่ที่ถูกระบุถึงนั้นยังไม่เคยทำหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายระดับประเทศ หรือพูดง่ายๆ ก็คือยังไม่เคยเป็นรัฐบาล หรือเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ยกเว้นนายไพรินทร์ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
แต่ก็ต้องไม่ลืมความจริงสำคัญที่ว่า แม้คนทั้งสามคือ นายบัณฑูร นายปรีดี นายประสาร ไม่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาก่อนก็จริง แต่ทั้งสามคนนี้ อยู่ในแวดวงธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และงานที่ทั้งสามคนนี้ ได้ทำมาก่อนก็มีส่วนสำคัญกับความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างเด่นชัด
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้บอกได้เพียงสั้นๆว่าคนไทยกำลังเฝ้ารอคอยว่ามือเศรษฐกิจชุดใหม่ล่าสุดของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จะมีหน้าตาเช่นไร เมื่อประกาศรายชื่อออกมาแล้ว ประชาชนจะร้องไชโยหรือร้องยี้ หากร้องไชโยก็หมายความว่าความเชื่อมั่นในรัฐบาลก็จะมีมากขึ้น แต่หากร้องยี้ก็หมายความว่าอนาคตของเศรษฐกิจไทยคงไม่มีวันสดใส แต่ที่มากกว่านั้นก็คือ อนาคตทางการเมืองของรัฐบาลก็น่าจะอับเฉาลงไปด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี