แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...■■ ข้าพเจ้าทราบตระหนักว่า ข้าพเจ้ามีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อประเทศชาติอย่างสูง และการปฏิบัติราชการแผ่นดินนั้นเป็นภาระสำคัญใหญ่ยิ่ง ที่ต้องอาศัยทั้งสติปัญญาและความรู้ความสามารถอย่างพร้อมมูล ข้าพเจ้าจะต้องเพียรพยายามศึกษาและปฏิบัติฝึกฝนตนเองต่อไปอีกอย่างมาก เพื่อให้สามารถเหมาะสมกับหน้าที่ตามที่ทุกคนมุ่งหวัง...ในโอกาสอันพิเศษนี้ จึงใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายได้เป็นกำลังใจสนับสนุนข้าพเจ้า และได้ตั้งความปรารถนาร่วมกันกับข้าพเจ้าที่จะมุ่งมั่นประกอบกรณียกิจด้วยความสามัคคีพร้อมเพรียง และด้วยความสุจริตยุติธรรม เพื่อยังความเจริญมั่นคงและความร่มเย็นเป็นผาสุกให้บังเกิดแก่ชาติ ประเทศ และประชาชนยั่งยืนสืบไป... (พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยศักดิ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงให้คำมั่นไว้ในงานสโมสรสันนิบาต ณ ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 29 ธันวาคม 2515)...
■■ เมื่อการปรับคณะรัฐมนตรียังไม่จบ ก็ส่งผลให้ข้าราชการในทุกกระทรวงเกิดอาการ slow down เกียร์ว่าง โดยเฉพาะ
ข้าราชการจำพวกที่ชอบเล่นการเมือง วันๆ ดีแต่วิ่งเต้น เอาตัวไปผูกติดกับนักการเมืองน้ำเน่า แต่ไม่ทำงานด้วยมือเพราะไร้ฝีมือ แต่กลับทำงานด้วยปากตลอดเวลา...
■■ ส่วนนักการเมืองที่จะหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีก็ไม่เป็นอันทำงานเช่นกัน เพราะมัวแต่หวงอำนาจ หวงผลประโยชน์ของตนเอง ส่วนพวกที่กระสันอยากจะเป็นรัฐมนตรีก็ทุรนทุรายวิ่งพล่านหมายจะได้ตำแหน่ง ทั้งๆ ที่รู้ตัวเองตนเองดีว่าไร้ศักยภาพบริหารราชการแผ่นดิน น่าสมเพชประเทศไทยที่มีสิ่งมีชีวิตจำพวกนี้มากมาย และมีมาทุกยุคทุกสมัย...
■■ ความหวังของคนไทยที่จะได้รัฐมนตรีที่มีคุณภาพเต็มเปี่ยมเข้าไปถือหางเสือรัฐนาวา เพื่อดูแลแก้ปัญหาเศรษฐกิจของบ้านเมืองดูเลือนรางไปทุกขณะ เพราะคนที่สาธารณชนเห็นว่ามีศักยภาพ มีฝีมือไม่ยอมเข้าร่วมรัฐบาล เมื่อเป็นเช่นนี้ สาธารณชนจึงมุ่งสายตาเพ่งไปที่กระทรวงการคลังว่าใครหน้าไหนจะเข้ามารับตำแหน่งเจ้ากระทรวงนี้เคยมีความสงสัยหรือไม่ว่า เหตุใดคนมีฝีมือตัวจริงไม่ต้องการเข้าไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยสงสัยไหมว่าคนดีมีฝีมือกลัวอะไรหรือ แต่คนที่เข้าใจพฤติกรรมนักการเมืองน้ำเน่าของไทยเป็นอย่างดีตอบว่า ไม่ได้กลัว แต่รังเกียจ ขยะแขยง และไม่ต้องการเอาตัวเข้าไปเกลือกกลั้วกับคนน่ารังเกียจที่บางรายเข้าขั้นเลวระดับมหากาฬ...
■■ ต้องย้ำว่าในขณะนี้ตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีเกรดเอยังไม่นิ่ง นักการเมืองสังกัดพรรคร่วมรัฐบาลก็วิ่งเข้าหาตำแหน่งกันขาขวิดไม่ต้องดูอะไรมาก แค่ดูจากภายในพรรคพลังประชารัฐเองก็ยังพบว่าต่างคนต่างไม่ยอมกัน ส่วนประเด็นที่ว่าเมื่อบิ๊กป้อม-ประวิตร วงษ์สุวรรณผู้จัดการรัฐบาลตัวจริงเข้าไปนั่งกินตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว ทุกอย่างภายในพรรคจะสงบราบรื่น เรื่องนี้ก็ดูจะไม่จริง เมื่อพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลยังไม่สามารถเจรจากันได้ลงตัว ก็อย่าหวังเลยว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเจรจากันได้ อย่าลืมว่าการมีพรรคร่วมรัฐบาลมากๆก็หมายถึงต้องแบ่งโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีให้ลงตัว หรือพูดชัดเจนตรงประเด็นคือต้องแบ่งผลประโยชน์ระหว่างกันให้ลงตัว พูดเช่นนี้ก็เพียงแค่จะบอกว่า นักการเมืองจำนวนมากของไทยรักผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ...
■■ นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยอ้างมานานแล้วว่า ตนเองไม่ใช่นักการเมือง แต่ต้องเข้ามาเพื่อรักษาบ้านเมือง แต่ระยะหลังๆ นี้ นายกฯประยุทธ์ไม่เคยบอกกับสาธารณชนอีกเลยว่าตนเองไม่ใช่นักการเมือง แต่ถึงกระนั้น คนไทยจำนวนไม่น้อยก็ยังคงมีความหวังว่านายกฯประยุทธ์จะเห็นแก่ผลประโยชน์ของบ้านของเมืองมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว แล้วสาธารณชนก็แอบหวังต่อไปอีกว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ท่านนายกฯ คงจะต้องสร้างเกียรติประวัติให้กับตนเองว่าทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองจริงๆ ดังนั้นก็ได้แต่หวังว่าท่านนายกฯ จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังซ้ำซ้อน เพราะแค่ประชาชนเห็นว่ามีรัฐมนตรีขายแป้งมันอยู่ร่วมกับรัฐบาลท่านนายกฯได้ ก็ทำให้ความหวังพังทลายไปแล้ว...
■■ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการแจกเงินค่าอาหารให้กับผู้ร่วมโครงการเที่ยวด้วยกัน เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความเวียนศีรษะอย่างมากมายให้กับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ หลายคนที่ไม่เข้าใจเบื้องลึกเรื่องนี้พาลไปประณามว่า
ต้นคิดเรื่องนี้มาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แต่แหล่งข่าวของ ธรรมกร ใน ททท. บอกว่า เรื่องนี้ต้นคิดมาจากกระทรวงการคลัง แต่ ธรรมกร ก็ถามกลับไปว่า แล้ว ททท. ไม่โต้ไม่แย้งอะไรเลยหรือ เพราะเวลาพูดถึง
เรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในบ้านเรา คนจำนวนมากก็คิดถึงชื่อของ ททท. ก่อน มีผู้ที่ตั้งใจเที่ยวเมืองไทยจริงๆ บอกว่า เวลาจะสนับสนุนให้คนไทยเที่ยวไทยนั้นขอให้ทำทุกอย่างให้ได้มาตรฐานก่อน เช่น ราคาโรงแรม ราคาอาหาร ราคาค่าโดยสารรถยนต์ เรือโดยสารและแม้กระทั่งราคาตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเรื่องการกำหนดราคาสิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องเข้าไปดูแลได้ระดับหนึ่ง ไม่ใช่ปล่อยให้ทุกอย่างกลายเป็นการขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน...
■■ ปิดท้ายด้วยคำวิจารณ์ที่ตรงประเด็นจากผู้ใช้บริการของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยผู้ใช้บริการทั้งไทยและเทศจำนวนมากตั้งคำถามตรงกันว่า ผู้บริหารการท่าอากาศยานฯ มีฝีมือเพียงเท่านี้เองหรือ ไม่สามารถพัฒนาท่าอากาศยานในความดูแลให้ดีกว่านี้ได้อีกแล้วหรือ ทำไมห้องน้ำห้องท่าที่นั่งรอก่อนขึ้นเครื่องบิน และมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในสนามบินของการท่าฯจึงเลวร้ายและสับสนเช่นนี้ หรือว่าการท่าฯ ไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไรเลย เพราะทุกวันนี้เป็นเสือนอนกิน ไม่มีคู่แข่ง เพราะฉะนั้นต่อให้บริหารห่วยขนาดไหน ประชาชนก็ไม่มีสิทธิ์เลือก แล้วคำถามที่ผู้ใช้บริการถามกันมากคือ ทำไมในห้องที่ผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องบินจึงให้นั่งเก้าอี้ตัวเว้นตัว แต่ทำไมเมื่อขึ้นไปบนเครื่องบินแล้วนั่งติดกันได้ ตกลงว่าการท่าฯ สับสน หรือผู้ดูแลมาตรฐานการบินสับสน หรือว่าสับสนด้วยกันทั้งสองฝ่าย...■■
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี