“แนวหน้า สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอเริ่ม “บุคคลแนวหน้า” ด้วยบทสรุปพิษภัยการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” ซึ่งส่งผลให้วิถีชีวิตประชาคมโลกเดือดร้อนถ้วนทั่วจนเกิดภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกที่ประเทศไทยก็ตกอยู่ในวังวนนี้ด้วยเช่นกัน...
nn “ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย” คาดการณ์ว่า หากมีการผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้ในช่วง ไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 การส่งออกไทยจะหดตัวลงที่ 5.5% และถ้าสามารถผลิตวัคซีนได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 จะหดตัวประมาณ 9.6% แต่ถ้ายังไม่มีวัคซีนจะส่งผลให้การส่งออกไทยทั้งปี อาจติดลบสูงถึง 13.5% ซึ่งเป็นตัวเลขการส่งออกที่ตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี ถึงตรงนี้ก็แค่สวดมนต์ทำใจพร้อมฝากความหวังไว้กับครม.เศรษฐกิจชุดใหม่ที่ “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” สร้างฝันว่าจะคลอดออกมาได้ในเดือนสิงหาคมนี้ รวมถึงผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนใหม่ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ที่ครม.เพิ่งมีมติเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว...
nn สำหรับ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” นักเศรษฐศาสตร์หนุ่มไฟแรง อดีตเศรษฐกรเวิลด์แบงก์ เคยทำงานกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF เป็นนักเศรษฐศาสตร์มากความสามารถลำดับต้นๆของประเทศ และยังเป็นหนึ่งในทีมคลังสมองที่ร่วมกู้ “วิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 หรือ วิกฤติต้มยำกุ้ง” สถานการณ์ที่สร้างราคาและคำคุยโวโอ้อวดให้อดีตผู้ต้องโทษ “ทักษิณ ชินวัตร” ฝีไม้ลายมือจึงไม่ธรรมดาหลังสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานเป็นเพชรเม็ดงาม “1 ใน 10 เม็ด” ของประเทศที่หลายคนต้องการดึงมาเสริมแกร่งให้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลทุกยุคสมัย...
nn “เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ” ไม่ใช่พวกสอพลอประจบประแจงใช้ฝีมือล้วนๆ ในการทำหน้าที่น่าสนใจตรงที่ “เศรษฐพุฒิ” ไม่ใช่อาหารตามสั่ง ที่ฝ่ายการเมืองจะเข้าไปบงการให้เหมือนหุ่นยนต์คอยรับคำสั่ง “ซ้ายหัน-ขวาหัน” ได้ อีกทั้งการทำงานของเขาก็หวังผลระยะยาว 4-5 ปี จึงมีคำถามว่า ในสถานการณ์เช่นนี้“แบงก์ชาติ” จะกำหนดกลไกให้นำพาเศรษฐกิจบ้านเมืองไปในทิศทางใดในยามที่ประชาชนอยู่ในภาวะอดอยากปากแห้งจากพิษไวรัสโควิด-19 ที่ทำลายระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งทึ้งทั้งกัดแทะประชาชนและคนการเมืองอย่างสาหัสสากรรจ์...
nn ก่อนหน้านี้มีการประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจากมีโครงสร้างที่ยึดโยงอยู่กับการส่งออก และการพึ่งพารายได้ต่างประเทศจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก นี่ยังไม่รวมปัจจัยในประเทศกับการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองที่มีแนวโน้มจัดกิจกรรม “ม็อบชนม็อบ” แม้แต่ “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ก็ได้แสดงความห่วงใยต่อกรณีการชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษา ที่ล่าสุดมีกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ นัดชุมนุมปกป้องสถาบันและรัฐบาลที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้วยเกรงว่าจะเกิดเหตุ “ม็อบชนม็อบ”ขึ้น โดยได้พูดคุยกับตัวแทนและกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับอาชีวศึกษา ขออย่าเคลื่อนไหวเวลานี้ เพราะจะเกิดสองฝ่ายขึ้นมาแล้วลุกลามบานปลาย วันหน้าก็จะกลับไปสู่ที่เดิม...
nn การเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพตามปกติ หากทว่าการชุมนุมของนักเรียน นิสิตนักศึกษาในช่วงที่ผ่านมานั้น มีการบิดเบือนจาบจ้วงให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงส่งผลให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่สบายใจหวาดผวาจะซ้ำรอย “เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 6 ตุลา 19” ขณะที่ “ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์” วีรบุรุษประชาธิปไตย อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว Arthit Ourairat มีเนื้อหาเตือนสตินิสิตนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง โดยระบุว่า “ขอนักเรียนนิสิตนักศึกษาและพี่น้องประชาชนไทยได้โปรดแยกแยะ การวิพากษ์วิจารณ์และประท้วงเรื่องการเมืองเศรษฐกิจและสังคมเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ และควรได้รับการส่งเสริมให้กระทำได้ แต่ต้องแยกแยะออกจากการก้าวล่วง ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เพราะสถาบันชาติ ศาสนาไม่ว่าศาสนาใด และพระมหากษัตริย์ ยึดโยงกันการก้าวล่วงโดยมีเจตนาเพื่อล้มสถาบันหนึ่งสถาบันใด ย่อมหมายถึงการล้มทั้งชาติด้วย”...
nn นี่คือเสียงสะท้อนของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่แม้จะมุมมองทางการเมืองที่แตกต่าง และไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลทหารหลายเรื่อง แต่เมื่อมีเหตุที่ส่อเค้าลางจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ความหายนะดร.อาทิตย์ก็ออกมาแสดงความเห็นที่ทุกฝ่ายควรสำเหนียกและนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ไม่ใช่มีเป้าหมายหวังล้มโจมตียุยงให้สังคมเกิดความแตกแยกในขณะที่ฝ่ายการเมืองอำมหิตเหล่านี้จ้องเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากคราบน้ำตาและคาวเลือด...
nn “เจ๊หญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย คือนักการเมืองคนหนึ่งที่สนับสนุนม็อบนักเรียนนักศึกษาจะด้วย “ใจประชาธิปไตยที่ล้นปรี่ หรือเล็งเป้านำศพทบเป็นบันได” ก้าวไปสู่อำนาจและตำแหน่งทางการเมืองโดยไม่แยกแยะว่าเยาวชนเหล่านั้นได้กระทำการในสิ่งที่เหมาะสมชอบธรรมหรือไม่??? ก็ตามที ถึงขนาดเดินสายตีกินกับบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยว่า “นายใหญ่หน้าเหลี่ยมทักษิณ ชินวัตร” สนับสนุนให้นางลงสู้ศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร...
nn งานนี้ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” นกรู้ที่ดูทางลมประกาศแยกตัวออกจากรังเพื่อไทยมาก่อนหน้านี้แล้วจะทำเช่นไร แต่งตัวรอลงสนามชิงเก้าอี้ตัวนี้มานานอักโข แถมเคยปรารภไว้ว่า หากเจ๊หน่อยลงสมัครผู้ว่าฯกทม.จะถอนตัวจากกิจกรรมสนามนี้ เพราะไม่ประสงค์ตัดแย่งคะแนนฐานเสียงเดียวกัน แต่การเมืองอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เพราะดูเหมือน “ชัชชาติ” ยังคงมุ่งมั่นเดินเท้าลงพื้นที่ทำการบ้านพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพรรคเพื่อไทยก็แพลมมาแล้วว่าไม่ส่ง “หญิงหน่อยปรี๊ดแตก!!” ลงทำศึกชิงเก้าอี้ผู้นำท้องถิ่นครั้งนี้แน่นอน!!...
nn จะอย่างไรกันต่อกับคดีลือลั่นสุดในทุกวันนี้ของ “บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา” เมื่อพยานปากเอกที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมสั่นสะเทือนนาม “จารุชาติ มาดทอง” ผู้ให้ปากคำว่า “บอส อยู่วิทยา ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง” ได้เสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุรถชนที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วจากนี้ประเด็นแคลงใจสังคมไทยจะเดินต่อไปอย่างไร...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี